'อิรัก' กระชับเคอร์ฟิว-ออกข้อจำกัดเพิ่ม หลังยอดป่วยโควิด-19 พุ่ง

แบกแดด, 8 ก.ค. (ซินหัว) -- เมื่อวันพุธ (7 ก.ค.) รัฐบาลอิรักตัดสินใจกระชับมาตรการเคอร์ฟิวในปัจจุบันให้เข้มงวดยิ่งขึ้น และบังคับใช้ข้อจำกัดเพิ่มเติมท่ามกลางจำนวนผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ที่เพิ่มขึ้น

แถลงการณ์จากสำนักสื่อของนายกรัฐมนตรี ระบุว่า มุสตาฟา อัล-คาดิมี นายกรัฐมนตรีอิรัก เป็นประธานในการประชุมคณะกรรมการระดับสูงด้านสุขภาพและความปลอดภัยแห่งชาติ เพื่อหารือถึงความร้ายแรงของสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19ในประเทศ และจำนวนผู้ป่วยโรคโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในช่วง 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา

แถลงการณ์ระบุว่าคณะกรรมการตัดสินใจบังคับใช้มาตรการเคอร์ฟิวตั้งแต่ 23.00-05.00 น. จากเดิมซึ่งบังคับใช้ในเวลา 21.00-05.00 น. นอกจากนั้นยังตัดสินใจสั่งปิดคลับและสถานประกอบกิจการทางสังคมประเภทอื่นอีกครั้ง ตลอดจนห้ามไม่ให้นักเดินทางที่ไม่ใช่ชาวอิรัก ซึ่งยังฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ที่ได้รับการอนุมัติใช้งานในอิรักไม่ครบโดส เดินทางเข้าประเทศ

กระทรวงสาธารณสุขอิรักรายงานพบผู้ป่วยโรคโควิด-19 เพิ่ม 8,777 ราย เมื่อวันพุธ (7 ก.ค.) ทำให้ยอดผู้ป่วยรวมอยู่ที่ 1,397,100 ราย และพบผู้ป่วยเสียชีวิตเพิ่ม 37 ราย ทำให้ยอดรวมอยู่ที่ 17,413 ราย ขณะที่มีผู้ป่วยรักษาหายแล้วเพิ่ม 5,522 ราย ทำให้ยอดรวมอยู่ที่ 1,282,764 ราย

อิรักตรวจโรคโควิด-19 รวมทั้งสิ้น 12,039,580 ครั้ง นับตั้งแต่เกิดการแพร่ะระบาดของโรคโควิด-19 เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2020 โดยเมื่อวันพุธ (7 ก.ค.) มีการตรวจโรค 51,451 ครั้ง รวมถึงฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ให้กับประชาชนเพิ่ม 38,565 คน ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ทำให้จำนวนการฉีดวัคซีนอยู่ที่ 980,247 โดส

อิรักเริ่มแผนฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 นับตั้งแต่หน่วยงานกำกับดูแลยาอนุมัติการใช้งานกรณีฉุกเฉิน แก่วัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของซิโนฟาร์ม (Sinopharm) ของจีน รวมถึงวัคซีนตัวอื่น เมื่อเดือนมกราคม