ธุรกิจ คือหนทางสู่ความมั่งคั่งของคนส่วนใหญ่ ครีเอเตอร์เคยกลัวการมีธุรกิจเป็นของตัวเอง เพราะมันยากในการเริ่มต้น ไม่มีญาติในครอบครัวที่จะมาแนะนำเป็นต้นแบบในการทำธุรกิจ และเห็นเพื่อนบ้านที่มีธุรกิจเป็นของตัวเองถูก Disrupt ทำให้ต้องลดขนาดของธุรกิจจนแทบจะอยู่ไม่รอด กลายเป็นว่าธุรกิจยากแก่การรักษา แม้ว่ามันจะประสบความสำเร็จระดับนึงแล้วก็ตาม ผู้เขียน Garrett Sutton ESQ. จะมาแนะนำการทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จและรู้จักเขียนแผนธุรกิจแบบป้องกันความเสี่ยงที่ดี มีการวางแผนการเติบโตจนนักลงทุนยินดียอมเสี่ยงให้เงินทุนเป็นหุ้นส่วนร่วมกันกับเรา จักรพงษ์ เมษพันธุ์ หรือ The Money Coach ในตำนานก็เป็นผู้เรียบเรียงหนังสือเล่มนี้ให้อ่านง่ายขึ้นด้วยครับ สิ่งที่ได้เรียนรู้และประทับใจในมุมมองครีเอเตอร์ ได้เรียนรู้ว่าชีวิตส่วนตัว คำถามถึงเป้าหมายชีวิตของเราคงเป็นอิสรภาพทางการเงิน ไม่ต้องทำงานหนักเพื่อเงิน แต่กับธุรกิจแล้ว แผนการที่เรามีต้องตอบคำถามนักลงทุนให้ได้1.ผมจะได้กำไรจากธุรกิจนี้หรือไม่ ความเสี่ยงและโอกาสทางธุรกิจนี้คืออะไร2.ผมมีความชอบและเข้าใจในธุรกิจที่กำลังทำอยู่มากน้อยแค่ไหน3.ผมจะเชื่อใจผู้ร่วมลงทุนของตัวเองได้มากน้อยแค่ไหน ได้เรียนรู้ว่าแผนธุรกิจคือเอกสารอธิบายรายละเอียดของธุรกิจ ซึ่งสามารถตอบข้อสงสัยกับนักลงทุนที่เข้ามาอ่านไว้ครบถ้วน คำถามทั่วไปที่มักพบในการนำเสนอแผนธุรกิจคือ...ใครคือเจ้าของกิจการ ผู้บริหาร ที่ปรึกษา ลูกค้า คู่แข่ง ผู้ลงทุน / เป้าหมายของธุรกิจคืออะไร / ทำไมเราถึงเข้ามาในธุรกิจนี้ / อะไรคือจุดเด่น ข้อได้เปรียบของเรา / สินค้า บริการของเราคืออะไร / นานแค่ไหนกว่าจะบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ / ทำไมลูกค้าต้องซื้อสินค้าจากเรา เป็นต้น ได้เรียนรู้ว่านักลงทุนผู้ช่ำชองไม่หลงกลคำโฆษณาชวนเชื่อของนักธุรกิจที่ไร้ประสบการณ์ ดังนั้น หากเราเริ่มต้นธุรกิจโดยปราศจากประสบการณ์ทางธุรกิจนั้นมาก่อน จงแสดงให้นักลงทุนเห็นว่านั่นไม่ใช่ปัญหา ด้วยการแนะนำทีมงานผู้บริหารและที่ปรึกษาที่มีประสบการณ์มากพอที่จะบริหารธุรกิจของเราให้ประสบความสำเร็จได้ ได้เรียนรู้ว่าองค์ประกอบของแผนธุรกิจประกอบด้วย 4 หัวข้อใหญ่1.รายละเอียดธุรกิจ (Business) เป็นการอธิบายรูปแบบการดำเนินธุรกิจ ขั้นตอนการดำเนินงาน ทีมผู้บริหาร จุดแข็งจุดอ่อน โมเดลธุรกิจ โอกาสและอุปสรรค ความเสี่ยง การประกันภัย เป็นต้น ซึ่งทำให้นักลงทุนที่อ่านเชื่อได้ว่าธุรกิจนี้สร้างกระแสเงินสดได้2.การตลาด (Marketing) พูดถึงตลาดกลุ่มเป้าหมาย ลูกค้า สภาพการแข่งขัน รูปแบบกระจายสินค้า บริหารความสัมพันธ์ลูกค้า โฆษณา กลยุทธ์ราคา แนวโน้มอุตสาหกรรม กลยุทธ์การตลาดทั้งหมด3.การเงิน (Financial) หรือข้อมูลด้านการเงิน เช่น เงินทุน งบกำไรขาดทุนเบ็ดเสร็จ งบกระแสเงินสด งบแสดงฐานะการเงิน ประมาณการกระแสเงินสด ประมาณการกำไรขาดทุน ประมาณการยอดขายและรายรับ แผนการใช้เงินทุน สมมติฐานทางการเงิน งบประมาณ วิเคราะห์จุดคุ้มทุน ซึ่งทั้งหมดจะเกี่ยวข้องกับอดีต ปัจจุบัน และความเป็นไปได้ในอนาคต ตัวเลขประมาณการไม่ได้เดาขึ้นมาเอง แต่ต้องอ้างอิงข้อมูลทางการเงินจากบริษัทที่ใกล้เคียงกับธุรกิจของเรา แบบนี้จะเป็นการสร้างความน่าเชื่อถือให้กับข้อมูลของเรา4.เอกสารสนับสนุน (Supporting Material) แตกต่างตามประเภทธุรกิจโดยทั่วไปก็มักจะมีประวัติ จดหมายอ้างอิง รายงานเครดิต เอกสารทางกฎหมาย ข้อตกลง สัญญา เป็นต้น แค่รวบรวมเอกสารที่เกี่ยวข้องในการอ้างอิงกับ 3 ข้อข้างต้นก็ใช้ได้แล้ว ได้เรียนรู้ว่าการทำธุรกิจเพื่อเงิน ไม่ใช่พันธกิจที่แข็งแกร่งพอจะให้เราสู้กับปัญหาได้ พันธกิจทางธุรกิจที่ดีต้องสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าเราได้ ยิ่งตอบสนองมากเท่าไหร่ ธุรกิจยิ่งทำเงินให้ได้มากเท่านั้น เวลาเริ่มต้นธุรกิจ ขอให้คิดถึงผู้คนก่อนเรื่องเงิน ยิ่งธุรกิจบริการผู้คนมากเท่าไหร่ เงินก็จะหลั่งไหลมามากเท่านั้น ได้เรียนรู้ว่าบทสรุปผู้บริหาร คือ ข้อมูลอย่างย่อของธุรกิจที่กล่าวถึงเฉพาะรายละเอียดสำคัญๆของธุรกิจ เป็นการบอกภาพรวมทั้งหมด ถือว่าสำคัญมาก เพราะเป็นส่วนแรกที่นักลงทุนและสถาบันการเงินจะอ่านทันทีที่ได้รับแผนธุรกิจ แม้จะอยู่ส่วนแรกของแผน แต่ขอให้เขียนจัดทำเป็นอันดับสุดท้าย เพราะถ้ามีอะไรปรับแก้ มันจะทำได้ง่ายกว่า สิ่งที่ต้องระบุในส่วนของบทสรุปผู้บริหาร ประกอบด้วย ชื่อ ประเภทธุรกิจ รูปแบบการจัดตั้ง ข้อมูลเงินทุนที่ต้องการ ทั้งร่วมลงทุนและกู้ยืม วัตถุประสงค์การใช้เงิน แผนการชำระเงินคืน ผลตอบแทนที่ผู้ลงทุนหรือสถาบันการเงินจะได้รับ รวมถึงแนวคิดในการเริ่มต้นธุรกิจนี้ด้วย ได้เรียนรู้ว่าเราไม่จำเป็นต้องเก่ง มีจุดเด่นในทุกเรื่อง เช่น เราอาจจะเป็นเจ้าของอู่ซ่อมรถที่ซ่อมรถไม่เป็น แต่มีทักษะผู้นำ เก่งการตลาด งานที่เหลือจ้างวานให้ลูกจ้างคนอื่นมาทำแทน เป็นต้น ได้เรียนรู้ว่าจุดด้อยของผู้ประกอบการรายใหม่ คือ ขาดประสบการณ์ในการบริหารธุรกิจและประวัติความสำเร็จ ปัญหานี้แก้ได้ด้วยการตั้งคณะที่ปรึกษาที่เป็นผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จและพร้อมจะให้คำแนะนำตลอดช่วงการเริ่มต้นธุรกิจ ได้เรียนรู้ว่ารูปแบบเจ้าของคนเดียวหรือห้างหุ้นส่วนสามัญ ไม่ได้ช่วยปกป้องทรัพย์สินส่วนตัวจากภาระหนี้สินของกิจการได้เลย ได้เรียนรู้ว่าการสนับสนุนที่ต้องการร่วมเป็นเจ้าของหรือการร่วมลงทุนนั้น หมายถึง การที่เรายกความเป็นเจ้าของธุรกิจส่วนหนึ่งแลกกับการสนับสนุนทางการเงิน โดยแบ่งความเป็นเจ้าของในรูปแบบของ”หุ้น”ตามที่ตกลงกัน ผู้ร่วมลงทุนจะได้ผลตอบแทนเป็นเงินปันผลจากกำไรของกิจการ ได้เรียนรู้ว่าถ้าเราเตรียมแผนธุรกิจเพื่อการบริหารงาน ต้องแสดงการประมาณการเป็นรายปี แต่ถ้าเราเตรียมแผนธุรกิจเพื่อดึงดูดเงินลงทุน การแสดงประมาณการเป็นรายเดือนจะเหมาะสมกว่า ได้เรียนรู้ว่าสมการหาจุดคุ้มทุน คิดได้จาก = ค่าใช้จ่ายคงที่ + (1-ต้นทุนผันแปร/ยอดขาย) ได้เรียนรู้ว่าแผนธุรกิจเพื่อการบริหารไม่จำเป็นต้องใส่ประวัติของเรา จดหมายอ้างอิง รายงานลักษณะทางการเงิน ไม่ต้องเลย ส่วนแผนเพื่อระดมทุนก็ต้องการข้อมูลแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับแหล่งเงินกู้หรือนักลงทุน เตรียมข้อมูลให้เหมาะกับผู้อ่านที่คาดว่าเขาอยากจะรู้และสถานการณ์ที่เราต้องเผชิญ แนวคิดดังกล่าวทำให้เราเข้าใจมิติก่อนลงมือทำธุรกิจมากขึ้น เพราะการทำธุรกิจได้ดีจะต้องมีแผนธุรกิจที่ดีก่อนเสมอ การทำธุรกิจโดยที่ไม่มีแผนที่ดีรองรับ นอกจากจะขอสินเชื่อไม่ได้แล้ว ยังเสี่ยงต่อการทำงานอย่างไร้ทิศทางอีกด้วย ดังนั้น การมีแผนธุรกิจ ไม่ใช่แค่เพื่อขอสินเชื่อสำเร็จเท่านั้น แต่มันคือเสาหลักที่เราจะปฏิบัติตามแผนที่ได้วางไว้ รวมถึงแผนสำรองเมื่อสิ่งที่เราทำไว้ไม่เป็นไปตามที่คาดหมายไว้ เครดิตภาพภาพปก โดย rawpixel.com จาก freepik.comภาพที่ 1 และ 2 โดยผู้เขียนภาพที่ 3 โดย wirestock จาก freepik.comภาพที่ 4 โดย freepik จาก freepik.com บทความอื่นๆที่น่าสนใจรีวิวหนังสือ FAKE การเงินลวงโลก โดย Robert T. Kiyosakiรีวิวหนังสือ สร้างทีมให้ชนะ (Team Code of Honor)รีวิวหนังสือ พ่อรวยสอนลูก เงินสี่ด้านรีวิวหนังสือ โรงเรียนสอนธุรกิจ สำหรับคนที่ชอบช่วยเหลือผู้อื่น (The Business School for people who like helping people)รีวิวหนังสือ พ่อรวยสอนลูก เกษียณเร็ว เกษียณรวยเปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !