ย้อนวัยไปดูนิทรรศการ “การ์ตูนไทยไฉไลกว่าที่คิด” บังเอิญให้ต้องได้ไปหาข้อมูลที่หอสมุดแห่งชาติ ทำให้สะดุดตากับป้ายหน้าเคาน์เตอร์ลงทะเบียน ป้ายเขียนว่า “นิทรรศการหนังสือการ์ตูนไทยไฉไลกว่าที่คิด” 11 กุมภาพันธ์ – 11 เมษายน 2564 ที่ตึกอาคาร 2 เลยถือโอกาสไปเก็บเป็นข้อมูลมาฝากผู้อ่านกัน ขอสารภาพตามตรงว่าผมเองก็ไม่ได้เป็น FC ของการ์ตูนเรื่องไหนเป็นพิเศษ จะเคยอ่านบ่อยสุดก็น่าจะเป็นการ์ตูนช่องแบบ 2-4 ช่องจบอย่าง “ขายหัวเราะ” นอกนั้นก็จะดูหรืออ่านบ้างในสมัยเด็กๆ อย่าง Dragonball , หน้ากากเสือ, การ์ตูนไอ้มดแดง ฯลฯ อะไรประมาณนั้น ส่วนที่ดูจริงจังหลังสุดน่าจะเป็น อนิเมชั่นไทยสุดฟีเวอร์อย่าง “ก้านกล้วย” ซึ่งก็ต้องยอมรับตามตรงว่าไม่ค่อยสันทัดเรื่องการ์ตูนแต่ก็จะพยายามถ่ายทอดให้ครบถ้วนในภาพรวมนะครับ สถานที่จัดนิทรรศการอยู่บริเวณชั้น 1 อาคาร 2 ของหอสมุดแห่งขาติ วันที่ไปสงสัยไปเช้าไปหน่อยเลยยังไม่เห็นมีใครเข้ามาเยี่ยมชม ผมเลยถือโอกาสเก็บภาพมาฝากเยอะหน่อยนะครับ ภายในงานมีบอร์ดประวัติที่มาที่ไปของการ์ตูนไทยว่าเริ่มเป็นรูปเป็นร่างในสมัยรัชกาลที่ 6 โดยภายในงานจะแบ่งยุคของการ์ตูนไทยออกเป็น 3 ยุค คือ1. ยุคแรก (พ.ศ. 2387-2474) เท่าที่มีหลักฐานปรากฏคืองานจิตรกรรมของ “ขรัวอินโข่ง” ที่นำเอาแนวคิดภาพจิตรกรรมแบบตะวันตกมาใช้ซึ่งจะเป็นลักษณะของภาพที่มีมิติ และแสงเงา เสมือนจริง (Realistic) และล้อเลียนคนในสมัยนั้น แทนงานจิตรกรรมไทยแบบโบราณที่เป็นแบบ อุดมคติ (Idealistic) ซึ่งถือว่าเป็นงานจิตรกรรมที่ล้ำสมัยมาก และเป็นที่มาของการ์ตูนไทยในยุคต่อมา2. ยุคบุกเบิก (พ.ศ. 2475-2499) หลังวงการการ์ตูนซบเซาลงเนื่องจากสภาพเศรษฐกิจ แต่ภายหลังจากมีการเปลี่ยนแปลงการปกครองในสมัยรัชกาลที่ 7 วงการการ์ตูนไทยก็เริ่มเฟื่องฟูอีกครั้งเพราะศิลปินเริ่มมีเสรีภาพในการแสดงผลงานมากขึ้นโดยในยุคนั้นการ์ตูนจะแบ่งเป็น 2 ประเภทคือ การ์ตูนพื้นบ้าน และการ์ตูนล้อเลียนการเมือง ซึ่งในยุคบุกเบิกนี้ก็มีศิลปินนักวาดการ์ตูนที่มีชื่อเสียงหลายท่าน เช่น สวัสดิ์ จุฑะรพ , ประยูร จรรยาวงษ์ (ท่านนี้เคยได้รางวัลชนะเลิศการประกวดการ์ตูนล้อเลี่ยนการเมืองเพื่อสันติภาพของโลกที่นครนิวยอร์ก ในปี พ.ศ.2503) , ฉันท์ สุวรระบุณย์ , ฟื้น รอดอริห์ และอีกหลายๆ ท่าน3. ยุคปัจจุบัน (พ.ศ.2500- ปัจจุบัน) หลังจากปี พศ. 2500 เป็นต้นมาเป็นยุคที่ไทยได้รับอิทธิพลการ์ตูนจากทั้งชาติตะวันตกและชาติตะวันออกเองโดยเฉพาะการ์ตูนญี่ปุ่นที่เข้ามามีบทบาทอย่างมากทางรายการโทรทัศน์เนื่องจากมีเนื้อหาที่ตื่นตาเร้าใจ, สร้างสรรค์จินตนาการ จนทำให้เด็กๆ เริ่มไม่อ่านการ์ตูนไทย ดังนั้นบรรดาศิลปินการ์ตูนของไทยจึงต้องหาวิธีสร้างแรงบันดาลใจในรูปแบบใหม่ขึ้นมา โดยเป็นที่มาของการ์ตูน 3 ช่องและหลังจากนั้นก็มีรูปแบบของการ์ตูนไทยที่พัฒนามาจนได้รับความนิยมอย่างมากคือ การ์ตูนเล่มละบาท ซึ่งส่วนใหญ่เป็นแนวผี สยองขวัญ และภายหลังก็ลดความนิยมลง ถัดมายุคปัจจุบันคือ ยุคของการ์ตูนดิจิตอลนั่นเอง ซึ่งมีหลายเรื่องที่ได้รับการยอมรับไปทั่วโลก อย่างเช่น ปังปอนด์ , เชลดอน , กระต่าย bloody เป็นต้นภาพรวมภายในงานก็จะเต็มไปด้วยตัวอย่างหนังสือการ์ตูนในยุคต่างๆ รวมทั้งมีภาพการ์ตูนฝีพระหัตถ์ให้ชมเป็นบุญตาด้วยนะครับ มีภาพการ์ตูนล้อเลียนการเมืองในยุคก่อนให้ดูกันเยอะเลย ถ้าใครอยากไปสัมผัสงานก็ยังพอมีเวลาครับ ลองแวะไปชมแล้วมาแชร์กันบ้างครับว่าชอบอะไรกันบ้างที่มาภาพ : เครดิตภาพประกอบทั้งหมด (1-12) ถ่ายภาพโดย สถาพร ปานปรีดา / ออกแบบภาพปกโดย สถาพร ปานปรีดาเปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !