ช้าๆ ได้พร้าเล่มงามผมว่าน่าจะเป็นสุภาษิตที่ทุกคนเคยได้ยินมานานแล้ว ซึ่งสอนให้เราว่าอย่าเร่งรีบในการทำการใดๆ แล้วทุกอย่างก็จะประสบความสำเร็จได้ แต่ในโลกทุกวันนี้มันยังเป็นอย่างนั้นอยู่หรอ นี่คือสิ่งที่ผมตั้งคำถาม ถ้าเราช้าจะไม่โดนแซงหน้าไปได้หรอ และยิ่งในเรื่องธุรกิจถ้ายึดกับคำสุภาษิตนี้อยู่ สิ่งที่เราได้อาจจะ คือ ความล้มละลาย มันจะกลายเป็นเรื่องท้าทายทางความคิด ทำให้ผมต้องหยิบจับหนังสือเล่มนี้ขึ้นมาอ่านหนังสือ ช้าให้ชนะ หลักคิดจากเทพเจ้าแห่งการบริหารของญี่ปุ่น เขียนโดย คาซุโอะ อินาโมริ น่าสนใจที่เขาไม่ใช่นักเขียน แต่เป็นนักบริหารธุรกิจมือชั้นเทพ โดยเป็นผู้ก่อตั้งสองบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Kyocera และ KDDI และที่สำคัญยังเป็นผู้พลิกวิกฤตของ เจแปนแอร์ไลน์ ที่ล้มละลาย จนสามารถกลับมาผงาดได้ภายในเวลาแค่สองปี เป็นสิ่งที่ผมคิดว่าทำให้หนังสือเล่มนี้น่าสนใจยิ่งนัก ผมเริ่มตั้งคำถามกับคำว่า ช้า ของแก คืออะไร นี่ถ้าเป็นคนปกติหรือที่ปรึกษาธุรกิจทั่วไปมาเขียนหนังสือเล่มนี้ผมคงไม่เสียเวลาอ่าน แต่นี่คือนักธุรกิจที่มีประสบการณ์การบริหารบริษัทในช่วงวิกฤต ซึ่งในยามนั้นเรื่องเวลาเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ธุรกิจอยู่รอดหรือล้มลง แต่เขากลับนำเสนอในหลักการบริหารในทิศทางตรงกันข้าม คือ ช้าอย่างไรให้ชนะสิ่งที่ผมพบเมื่ออ่านหนังสือเล่มนี้คือ ความช้าในที่นี้ไม่ได้ ช้าจากการทำงานที่เชื่องช้า แต่ช้าเป็นการช้าที่เกิดจากความสงบในตัวตน ให้เห็นในความชัดเจนของปัญหาเพื่อที่จะลงมือแก้ไขได้อย่างรวดเร็ว เรียนรู้ที่จะช้า เพื่อที่จะไม่ตื่นตระหนก เมื่อเผชิญกับสิ่งที่ดูซับซ้อน ต้องพยายามแยกแยะส่วนประกอบแต่ละอย่างออกจากกัน จนกว่าสิ่งนั้นจะดูเรียบง่ายที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ นี่คือกฎแห่งชีวิตที่นำมาปรับใช้กับธุรกิจได้เช่นกัน ซึ่งประโยคนี้ประโยคเดียวทำให้ผมเข้าใจที่มาของคำว่า ช้า จากคุณอินาโมริ เลยครับนอกจากนี้ผมยังได้หลักคิดที่น่าสนใจจากความช้า ที่ว่า ช้าอย่างมีระบบ ดีกว่าเร่งรีบแต่ไร้จุดหมาย อย่างเช่น การที่เราคิดจะทำอะไรก็แล้วแต่ เราจะเปลี่ยนความคิดให้กลายเป็นความจริงได้นั้น เราต้องใช้ทั้งการมองโลกในแง่ดี และแง่ร้าย โดยเริ่มจากการมองโลกในแง่ดี มองว่าสิ่งที่ทำเป็นโอกาส มีช่องทางนะ เราสามารถทำได้ ต่อจากนั้น วางแผนด้วยการมองโลกในแง่ร้าย เหมือนเราต้องคิดในแง่ที่ว่าในภาพที่เลวร้ายที่สุดที่เราต้องเจอคืออะไร ต้องประเมินปัจจัยเสี่ยงรอบด้านให้ได้มากที่สุด และสุดท้ายคือ ลงมือทำด้วยการมองโลกในแง่ดี คือ การเดินหน้าทำด้วยความมั่นใจที่เต็มเปี่ยม ที่จริงในทางกลยุทธ์จะเรียกว่า การทำ Feasibility นั่นเอง แต่ผมกลับอินกับการเล่าของคุณอินาโมริมากกว่าสำหรับหนังสือ ช้าให้ชนะ เป็นหนังสืออีกหนึ่งเล่มที่ควรค่าแก่การอ่านยิ่งนัก เพราะสิ่งที่ผมได้รับไม่ใช่แค่ความรู้ในทางการบริหารธุรกิจ แต่มันคือหลักคิดในการใช้ชีวิต ที่เราไม่สามารถหาอ่านได้จากหนังสือบริหารธุรกิจทั่วไป เพราะท้ายที่สุด แล้วหลักการบริหารธุรกิจที่ดีเลิศ ย่อมเกิดจากคนที่รู้จักบริหารความคิดและทัศนคติตัวเองได้ยอดเยี่ยมก่อนเป็นอันดับแรก อย่างคนนี้ที่ชื่อ คาซุโอะ อินาโมริใครสนใจซื้อหนังสือเล่มนี้ คลิกเลย !!!ตามไปอ่านรีวิวหนังสือเล่มอื่นๆ ได้ที่ > > iYom BookViews เครดิตรูปทั้งหมดรูปที 1 (รูปภาพโดยผู้เขียน)รูปที่ 2 (รูปภาพโดยผู้เขียน)รูปที่ 3 (Photo by LISA ALZATE on Unsplash)รูปที่ 4 (รูปภาพโดยผู้เขียน)