ชีวิตคนเรา เหมือนแขวนอยู่บนเส้นด้าย อายุคนเราอย่างมากก็ไม่เกิน 100 ปี เหมือนอย่างที่เพลง ของ คุณ เจิน เจิน ได้ร้องไว้ ในตอนนี้ ไม่มีอะไรจะดีไปกว่า การไม่มีโรค คือ ลาภอันประเสริฐ อุบัติเหตุจะไม่เกิด หากเราไม่ตั้งอยู่ในความประมาท ในทุกๆวัน เราตื่นลืมตามากับวันใหม่ ในทุกๆเช้า หันหน้าเจอผู้ที่เรารัก หรือ ออกจากบ้าน ไปเจอเพื่อน ไปทำงาน.ต้องเดินทาง ขึ้นรถ ลงเรือ ที่วันหนึ่งเราไม่รู้เลยว่า วันนี้ฝนจะตก รึ แดดจะออก. เมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น วัวหายแล้วล้อมคอม ไม่มีประโยนช์ครับ สิ่งสำคัญอันดับแรกที่แว้บเข้ามาในหัว คือ ความปลอดภัย ถ้าเราป่วย ไข้ ไม่สบาย หรือ เกิดอุบัติเหตุ ใครจะดูแล เราจะแก้ไขปัญหานี้ยังไง โจทย์แรก คือ ประกันชีวิต แต่! เดี๋ยวก่อน ถ้าสุขภาพทางการเงินของคุณยังไม่มีปัญหาใดๆ ในตอนนี้ คุณจะสามารถใช้บริการแรกนี้ได้ไนทันที เพียงเลือกบริษัทที่ไว้ใจได้และดูแลคุณไปตลอดชีวิต ตราบเท่าที่เขายังดูแลเราอยู่ แต่ถ้า หากสุขภาพทางการเงินของคุณค่อนข้างระส่ำระส่าย แนะนำให้เปลี่ยนเงื่อนไขสักนิด ไม่ว่าจะเป็นเงินก้อนก็ดี รึ จะเป็นเงินผ่อนก็ตาม ยังถือว่าเยอะเกินไป ในแต่ละเดือนและใช่ครับ ตัวผู้เขียนเอง อยู่ในตัวเลือกที่ 2 ประกันสังคม ถือเป็น ตัวเลือกสำหรับชนชั้นแรงงาน เช่นเรา ที่ต้องพึ่งมาตรา 39 หรือ 40 โดยส่วนตัวผมเลือก มาตรา 39 แบบตัดผ่านบัญชีเองทุกเดือน เพื่อความสะดวกสบาย ไม่ต้องมานั่งกลัวว่าเดือนนี้จ่ายไปแล้วหรือยัง (ซึ่่งเขาจะมีให้ตัดเฉพาะ ธนาคาร กสิกรไทย และ กรุงไทย เท่านั้น) เพราะ มันครอบคลุมพอๆกับ มาตรา 33 ไม่ว่าเราจะเจ็บป่วย เล็กๆน้อยๆ ไปจนถึง ประสพอุบัติเหตุ และยังเลือกใช้บริการโรงพยาบาล ที่เราเลือกไว้ได้ ซึ่งจะมีให้เปลี่ยน รพ ทุกๆปี ขึ้นอยู่กับเราว่าอยากจะไปใช้บริการโรงพยาบาล ไหน ตำบลอะไร จังหวัดไหน ได้ทุกที่ที่คุณอยากไป ตามที่เราสะดวก (แนะนำให้เลือกโรงพยาบาลใกล้บ้านดีที่สุดครับ และ การบริการด้วยครับ) ซึ่งนอกจากนี้ อย่างที่ผมกล่าวไว้สิทธิประโยนช์อื่นๆ เช่นค่าคลอดบุตร (กรณี โสด เราก็จะเสียสิทธิ์ในส่วนนี้ไป)ค่าสงเคราะห์บุตร (ก็เช่นกันครับ เราก็จะไม่ได้ใช้บริการในส่วนนี้) ค่าทุพพลภาพ กรณี สูญเสียอวัยวะจากการทำงาน หรือ ประสพอุบัติเหตุ ชราภาพ (บำเหน็จ บำนาญ เมื่อมีอายุครบ 55 ปี)เสียชีวิต (มีค่าทำศพ กับ ค่าเงินสงเคราะห์) ข้อนี้ เข้าใจได้ว่าไม่มีใครรู้ว่าหรอกว่าตัวเองจะตายยังไง แต่ก็จะดีกว่ามากถ้าสามารถ เขียนพินัยกรรมไว้ล่วงหน้า เรื่องทรัพย์สมบัติมรดกตกทอดจะให้ใครเป็นผู้รับ ตรงนี้ก็จะลดขั้นตอนลงไปได้เยอะโดยที่เราไม่ต้องเสียเวลารอพิสูจน์เรื่องและแต่งตั้งทนาย สรุปแล้วมาตรานี้ เหมาะกับคนที่เพิ่งจะออกจากงานและต้องการใช้ประกันสังต่อ อย่างน้อย เมื่ออายุครบตามเกณฑ์ เราก็ยังได้มีเงินเก็บไว้ใช้ และ นำไปต่อ ยอดได้ อีกทั้งไม่เป็นภาระต่อครอบครัว เมื่อเสียชีวิตไปแล้วก็ยังมีเงินไว้ให้ทำพิธีศพ และ ถือเป็นมรดกแก่ผู้ที่อยู่เบื้องหลังต่อไปได้ด้วยตัวเลือกที่ 3 คือ อายุเยอะแล้ว แต่ไม่อยากทิ้งประกันสังคม ทำไงละทีนี้ ไม่ต้องห่วงครับเพราะเขามีอีกหนึ่งตัวเลือกสำหรับ คนทำมาค้าขาย หรือ อาชีพอิสระ รับจ้างทั่วไป ก็ทำได้ผู้ประกันตนมาตรา 40 คือ ผู้ประกันตนโดยสมัครใจ หรือ แรงงานนอกระบบ เช่น ฟรีแลนซ์ เกษตรกร ค้าขาย เป็นต้น ที่เลือกจ่ายเงินสมทบประกันสังคมได้ 3 รูปแบบ ได้แก่ ทางเลือกที่ 1 จ่ายเงินสมทบ 70 บาท/เดือน (ไม่มีบำเหน็จ กับ สงเคราห์บุตร)ทางเลือกที่ 2 จ่ายเงินสมทบ 100 บาท/เดือน (มีบำเหน็จ ไม่มีสงเคราะห์บุตร) และ ทางเลือกที่ 3 จ่ายเงินสมทบ 300 บาท/เดือนได้ทันที) (มีบำเหน็จ และ สงเคราะห์บุตร)ซึ่งผมว่ามองว่า ก็มีข้อได้เปรียบเสียเปรียบอยู่บ้างแต่ก็ยังครอบคลุมในส่วนหัวข้อหลักๆอยู่ ในเรื่องของ เจ็บไข้ ได้ป่วย และ อุบัติเหตุ เช็คเงี่อนไขกันให้ดีๆนะครับลองเปรียบเทียบ ข้อดี ข้อเสีย ก่อนสมัครกันด้วยนะครับ ผมได้แทรกสิทธิประโยนช์ความแตกต่างกันไว้ให้แล้วของมาตรา 40สุดท้ายนี้ มี ประกันสังคม ก็ ยังดีกว่าไม่มีเลย อย่างน้อย ยังมียาไว้รักษา ยังมีหมอไว้ให้ตรวจ และยังมีเงินเก็บ เมื่อคุณเกษียณ สวัสดีครับ ภาพถ่ายประกอบสุดท้าย /ภาพ 4 / โดยผู้เขียนภาพ 1 รูปจับมือ/kanchanachitkhamma /พื้นหลัง/Pexels /ผู้หญิงลงนามในเอกสารอสังหาริมทรัพย์ / 89Stocker /ประกัน /89Stockerภาพ 2 พื้นหลัง/Pexels /โลโก้ /สำนักงานประกันสังคมภาพ 3 พื้นหลัง/Pexels /โลโก้ /สำนักงานประกันสังคมภาพปก / ภาพผู้คน/ โดย zydeaosika(เปิดในแท็บหรือหน้าต่างใหม่) จาก Pexels / พื้นหลังอักษร by Trendyify 7-11 Community ห้องลับเมาท์มอยของกินของใช้ในเซเว่น อะไรดีอะไรใหม่ ต้องรู้ ต้องคุย ต้องแชร์