เช้าวันศุกร์ที่ 29 กันยายน 2566 ซึ่งตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 10 ตามจันทรคติ ถือเป็นวันประเพณีบุญสารทเดือนสิบสำหรับพี่น้องชาวไทยพุทธทุกภูมิภาค และเรียกว่า วันประเพณีบุญข้าวสาก สำหรับชาวไทยอีสานและชาวลาว...ณ วัดป่าโนนนิเวศน์ ในเขตเทศบาลนครอุดรธานี มีผู้คนทุกเพศวัยไปร่วมทำบุญกันอย่างล้นหลาม จนล้นศาลาการเปรียญ แม้ไม่ใช่วันหยุดและสภาพอากาศก็เป็นแบบที่ต้องมีลุ้น ด้วยเหตุว่า 26 - 29 กันยายน 2566 นี้ เป็นช่วงที่ประเทศไทยตอนบนได้รับอิทธิพลจากหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรง ส่งผลให้มีฝนตกหนักถึงหนักมากในหลายพื้นที่รวมทั้งในตัวเมืองอุดรธานีด้วย...บรรยากาศวันบุญประเพณีครั้งนี้คึกคัก น่าประทับใจ สมกับเป็นวันพระใหญ่ - บุญใหญ่ ที่หนึ่งปีมีแค่ครั้งเดียวจริง ๆ ค่ะภาพผู้คนมากมาย ส่วนใหญ่ไปกันเป็นครอบครัว มีทุกรุ่น ตั้งแต่รุ่นลูกรุ่นหลาน จนถึงรุ่นปู่ย่าตายาย ต่างช่วยกันหอบหิ้วข้าวของทำบุญเข้าวัดกันตั้งแต่เช้า...และเนื่องจากวันนี้เป็นวันขึ้น 15 ค่ำ ซึ่งเป็นวันพระใหญ่ ตามปฏิทินพุทธ จึงเห็นภาพผู้คนนุ่งห่มขาวหรือใส่เสื้อสุภาพสีขาวกันไม่น้อย ตั้งแต่บนถนนหนทาง ตลาด ร้านค้า จนถึงในศาลาการเปรียญค่ะ...นับเป็นภาพที่น่าชื่นใจ คือนอกจากจะเป็นการสืบสานประเพณีทางศาสนาและวัฒนธรรมของไทยและของท้องถิ่นแล้ว ก็ยังเป็นการแสดงถึงความกตัญญูด้วย เพราะต่างก็ตั้งอกตั้งใจออกจากบ้านแต่เช้า เพื่อทำบุญกุศลอุทิศแด่บรรพบุรุษและญาติพี่น้องผู้ล่วงลับ ตามวัตถุประสงค์ของบุญข้าวสาก - บุญสารทเดือนสิบค่ะของทำบุญ หลัก ๆ ก็คืออาหาร ทั้งของคาวหวาน ขนม ผลไม้ และเครื่องดื่ม โดยแยกระหว่างส่วนที่ถวายเป็นภัตตาหารเช้าแด่พระสงฆ์ กับส่วนที่จัดเป็นทานอุทิศแด่ดวงวิญญาณบรรพบุรุษและญาติพี่น้อง...ซึ่งเชื่อกันว่า วันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 10 นี้ เป็นวันที่ดวงวิญญาณทั้งหลายได้รับอนุญาตให้มารับเอาบุญกุศลจากญาติพี่น้องและลูกหลานได้โดยตรงค่ะ...อาหารที่ขาดไม่ได้ ถือเป็นสัญลักษณ์ของงานประเพณีนี้ก็คือ ข้าวกระยาสารท...นอกจากนี้ ก็มีเครื่องไทยทาน ได้แก่ ของใช้จำเป็น เครื่องนุ่งห่ม ยารักษาโรค และสังฆภัณฑ์อื่น ๆ ตามที่เห็นสมควร ถวายเป็นสังฆทานแด่พระสงฆ์ค่ะ...อีกภาพที่น่าประทับใจภายในศาลาการเปรียญก็คือ สมาชิกโดยเฉพาะผู้อาวุโสที่สุดของแต่ละครอบครัว ต่างก้มหน้าก้มตาอย่างเอาจริงเอาจัง เขียนกับตรวจทานรายชื่อบรรพบุรุษและญาติพี่น้องผู้ล่วงลับที่จะให้เป็นผู้รับทานและบุญกุศลในครั้งนี้ เพื่อมั่นใจว่าจะไม่ตกหล่นชื่อใครไปนั่นเองค่ะ...แล้วในที่สุด รายชื่อเหล่านั้น ชุดหนึ่งก็ถูกส่งเข้าร่วมพิธีบังสุกุลที่ทางวัดจะนำดำเนินการ และอีกชุดก็ถูกวางไว้กับชุดอาหารที่เตรียมไว้เป็นทานแด่ดวงวิญญาณค่ะพิธีกรรมในงานประเพณีบุญข้าวสากสำหรับสังคมเมืองใหญ่ ที่ผู้คนต่างก็มีธุรกิจและกิจธุระมากมาย แม้จะกระชับ ก็ไม่ละทิ้งสาระสำคัญ และเป็นโอกาสให้ญาติโยมได้ประกอบบุญกิริยาวัตถุได้หลายข้อ เพื่อส่งอานิสงส์ผลบุญแด่ดวงวิญญาณบรรพบุรุษและญาติพี่น้องกันได้อย่างเต็มที่...มีทั้ง การถวายปัจจัยบำรุงวัดตามอัธยาศัย การรับศีล การร่วมถวายภัตตาหารและบริวารทั้งหลายแด่พระสงฆ์เป็นสังฆทานรวม การทำบังสุกุล (ระบุชื่อ) อุทิศแด่ดวงวิญญาณ การวางห่ออาหารเป็นทานแด่ดวงวิญญาณ การสวดมนต์ทำวัตรเช้า การฟังพระธรรมเทศนา การช่วยงานพิธีกรรมในศาลาการเปรียญ การร่วมอนุโมทนาบุญ และการอุทิศบุญกุศล...นอกจากนี้ เมื่อจบงาน ทางวัดก็ยังแจกข้าวกระยาสารทคืนให้ญาติโยมนำกลับบ้านเป็นขนมมงคลด้วยค่ะเหมือนเทวดาและพระพิรุณท่านเมตตาเห็นใจทั้งฝั่งผู้ทำบุญและฝั่งผู้รอบุญ...ถึงแม้สภาพดินฟ้าอากาศทั่วไปในตัวเมืองอุดรธานี จะมีฝนตกหนักถึงหนักมากแทบไม่ขาดช่วงทั้งกลางวันและกลางคืน มาตั้งแต่วันที่ 27 กันยายน แต่เช้าวันนี้ก็ไม่มีฝนเลยสักเม็ด...ทำให้ผู้คนสามารถวางห่ออาหารได้สะดวก ดังนั้น ทั้งใต้ต้นไม้ภายในวัดและข้างกำแพงด้านนอกของวัด จึงเต็มไปด้วยห่ออาหาร อาหารก็ไม่ต้องเปียกเละเทะ ธูปเทียนที่ปักไว้กับอาหารก็จุดติดไฟได้ปกติ ทำให้พิธีกรรมสมบูรณ์ค่ะ...พอถึงช่วงก่อนเที่ยง ซึ่งพิธีกรรมทั้งหมดได้จบสิ้นลงแล้วสัก 1 - 2 ชั่วโมง ฝนจึงได้เทลงมาแบบไม่ลืมหูลืมตา อีกหลายระลอกจนถึงช่วงเย็นค่ะบรรยากาศการวางห่ออาหาร ทำให้ประเพณีบุญข้าวสาก ในมุมมองของผู้เขียน เหมือนเป็นวันรวมญาติและวันที่ได้ระลึกถึงกัน ทำสิ่งดี ๆ ให้แก่กัน ระหว่างญาติที่ยังมีชีวิตอยู่และที่ล่วงลับไปแล้วค่ะ...สิ่งที่ได้เห็นและได้ยิน ณ ตรงนั้นก็คือ...เมื่อจุดธูปเทียนปักบนอาหาร บางคนส่งเสียงเรียก (ไม่ดังมาก) ให้ญาติผู้ล่วงลับมารับอาหาร...ช่วงที่ธูปยังไหม้ไม่หมด หลายคนนั่งหรือยืนอยู่ใกล้ ๆ ห่ออาหาร บ้างก็คุยกัน เหมือนอยู่รอต้อนรับญาติผู้ล่วงลับ แม้จะมองไม่เห็น...บางคนอ่านบทอุทิศบุญกุศลให้ญาติที่มองไม่เห็นฟัง...บางคนอยู่ในอาการสงบนิ่งสักครู่หนึ่ง เหมือนส่งกระแสใจถ่ายทอดถ้อยคำและความรู้สึก ไปยังญาติที่มองไม่เห็นนั้น...และนอกจากผู้คนที่มีโอกาสไปร่วมงานประเพณีบุญข้าวสากที่วัดแล้ว ก็ยังมีผู้คนอีกไม่น้อย ที่ก็คงจะด้วยความจำเป็นหรือข้อจำกัดเรื่องเวลาและกิจการงาน เลือกที่จะใส่บาตรพระสงฆ์ที่เดินผ่านหน้าบ้านตั้งแต่เช้า แล้วนำห่ออาหารที่จะให้เป็นทานแด่ดวงวิญญาณไปวางตามข้างกำแพงวัด...ซึ่งก็น่าชื่นชมกับการไม่ยอมพลาดโอกาสดี ๆ ที่เชื่อกันว่า เป็นวันที่วิญญาณของบรรพบุรุษและญาติพี่น้องสามารถมารับบุญกุศลพร้อมด้วยอาหารที่จัดให้ได้โดยตรง และหนึ่งปีมีครั้งเดียวค่ะสำหรับผู้เขียน ก็มีความรู้สึกสุขใจมากที่ได้ทำสิ่งดี ๆ อุทิศเป็นบุญกุศลแด่บรรพบุรุษและญาติพี่น้องผู้ล่วงลับ...บุญกิริยาวัตถุที่ได้ทำในวันนี้ นอกจากจะเป็นดังรายการที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว ส่วนตัวผู้เขียนเอง ก็ยังเพิ่มการภาวนา - ทำสมาธิ และการถวายพวงมาลัยดอกไม้ เป็นการบูชาคุณพระรัตนตรัย และสักการะบูชาพระบรมสารีริกธาตุกับพระอรหันตธาตุ (มีอัฐิธาตุ หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต หลวงปู่ขาว อนาลโย หลวงปู่ภูมี จิตตธัมโม หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน เป็นต้น) ซึ่งมีประดิษฐานอยู่ที่วัด (ในวิหารหลวงปู่มั่นฯ) ด้วย...คือตั้งใจจัดหนักจัดเต็มบุญเพื่ออุทิศส่งให้ดวงวิญญาณบรรพบุรุษและญาติพี่น้องทั้งหลายเลยค่ะและอาจเป็นเพราะครอบครัวของผู้เขียนทำบุญครั้งนี้แบบจัดเต็ม (ปัจจัย 4 ครบ บุญแทบทุกรูปแบบ) เต็มที่ (ด้านคุณภาพ เวลา กำลังกาย) และเต็มใจ...จึงทำให้เราพบประสบการณ์ที่แปลก แต่ก็ดี คือครอบครัวผู้เขียน คนเตรียมห่ออาหารกับคนลิสต์รายชื่อญาติที่เราจะอุทิศให้ เป็นคนละคนกัน...คนหนึ่งเพิ่มจำนวนห่อจากที่ตกลงกันไว้ อีกคนเพิ่มชื่อขึ้นมาตามที่นึกได้ โดยสองคนไม่ได้คุยกัน...แต่ปรากฏว่า จำนวนห่ออาหารกับจำนวนชื่อผู้จะได้รับทานนั้น ตรงกันโดยไม่ได้นัดหมายค่ะหลังจากกลับจากทำบุญที่วัดแล้ว ผู้เขียนจะได้กลิ่นคล้ายธูปหอมแต่ไม่มีกลิ่นไหม้ เป็นระยะ ๆ ตั้งแต่บ่ายถึงค่ำ ไม่ใช่กลิ่นที่ลอยตามลม ไม่ใช่กลิ่นที่ติดกับเสื้อผ้า แต่เป็นกลิ่นที่อยู่รอบ ๆ ตัว ทั้ง ๆ ที่ตอนวางห่ออาหารก็ไม่ได้กลิ่นธูปอะไรแบบนี้ค่ะทำให้รู้สึกได้ว่า อานิสงส์จากบุญกุศลในประเพณีบุญข้าวสากนี้ ไม่ได้เป็นประโยชน์แก่เราผู้ทำ - ผู้ยังมีชีวิตอยู่ เพียงฟากเดียวเท่านั้น แต่ยังเป็นประโยชน์ต่ออีกฟากโน้นด้วย...แม้เราไม่ได้เห็นไม่ได้ยินเสียงพวกเขา แต่ก็เหมือนกับว่า มีสัญญาณบ่งบอกถึง ความปรารถนาของพวกเขาที่จะได้รับทานและการอุทิศบุญกุศลจากเรา และความสุขกับคำขอบคุณเมื่อพวกเขาได้รับสิ่งที่เราส่งให้แล้วค่ะ.มรรษยวรินทร์พิกัด วัดป่าโนนนิเวศน์ อำเภอเมือง อุดรธานีภาพประกอบทุกภาพ โดย มรรษยวรินทร์ เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !