ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นจากความหวังเจรจาการค้าสหรัฐฯ-จีน

ดัชนีดาวโจนส์ปิดบวก 105.11 จุด ปิดที่ 42,866.87 จุด ขานรับความหวังว่าการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนจะมีความคืบหน้า ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ก็ปรับตัวขึ้นเช่นกัน โดยนักลงทุนยังจับตาดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐฯ เพื่อประเมินแนวโน้มเงินเฟ้อและทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด

ความคืบหน้าในการเจรจาการค้าระหว่างจีน-สหรัฐฯ

เจ้าหน้าที่ระดับสูงจากทั้งสองฝ่ายมีการหารือร่วมกัน โดยฝั่งสหรัฐฯ นำโดยรัฐมนตรีคลัง รัฐมนตรีพาณิชย์ และผู้แทนการค้า ส่วนฝั่งจีนมีรองนายกรัฐมนตรีเป็นผู้นำการเจรจา ประธานาธิบดีทรัมป์เผยว่าการเจรจาดำเนินไปด้วยดี แม้จะยอมรับว่าจีนเป็นคู่เจรจาที่ยาก ทั้งนี้มีแนวโน้มว่าสหรัฐฯ จะผ่อนปรนการส่งออกเทคโนโลยีหากจีนลดข้อจำกัดด้านแร่หายาก

การเคลื่อนไหวของหุ้นรายกลุ่ม

หุ้นในดัชนี S&P500 ปิดในแดนบวกถึง 10 จาก 11 กลุ่ม โดยกลุ่มพลังงานและสินค้าฟุ่มเฟือยนำตลาด ส่วนกลุ่มอุตสาหกรรมปรับลดลงเล็กน้อย หุ้นเทสลาและอัลฟาเบทเพิ่มขึ้น หลังมีข่าวการขยายบริการคลาวด์ของกูเกิลเพื่อรองรับความต้องการของ OpenAI

ปัจจัยเศรษฐกิจอื่นที่ส่งผลต่อตลาด

หุ้นของ J.M. Smucker ดิ่งลงหลังประกาศประมาณการกำไรที่ต่ำกว่าคาดการณ์ ด้านธนาคารโลกปรับลดคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจโลกในปีนี้เหลือ 2.3% จากผลกระทบสงครามการค้า แต่ยังมั่นใจว่าโอกาสเข้าสู่ภาวะถดถอยมีน้อยกว่า 10%

การคาดการณ์เงินเฟ้อสหรัฐฯ และแนวโน้มอัตราดอกเบี้ย

นักวิเคราะห์คาดว่า CPI เดือนพฤษภาคมจะเพิ่มขึ้น 2.5% เทียบรายปี ส่วน Core CPI อาจเพิ่มขึ้น 2.9% ซึ่งเป็นข้อมูลสำคัญที่ตลาดใช้ประเมินทิศทางนโยบายการเงินของเฟดในระยะถัดไป