เรื่องเงินเดือนถือเป็นประเด็นสำคัญที่เกี่ยวข้องกับการใช้ชีวิตประจำวันของข้าราชการและลูกจ้างประจำทั่วประเทศ โดยเฉพาะปี 2568 นี้ที่มีนโยบายใหม่เกี่ยวกับการรับเงินเดือน แบ่งจ่าย 2 รอบ ทำให้หลายคนสงสัยว่า “แล้วเงินเดือนจะเข้าวันไหน?” “การจ่าย 2 รอบดีกว่าหรือไม่?” รวมถึง “ควรบริหารเงินอย่างไรให้พอใช้ในยุคค่าครองชีพสูง?” ในมุมมองของผม การเปลี่ยนแปลงเรื่องการจ่ายเงินเดือนถือเป็นนโยบายที่ส่งผลต่อชีวิตโดยตรง ไม่ว่าจะดีหรือเสีย ผู้เขียนเองก็อยากจะเล่าให้ผู้อ่านเข้าใจแบบละเอียด ๆ เพื่อจะได้วางแผนการเงินของตัวเองได้เหมาะสมครับ เรื่องน่ารู้ข้อที่ 1: กำหนดวันโอนเงินเดือนข้าราชการ สิงหาคม 2568 หลายคนเฝ้ารอว่า “เดือนสิงหาคม 2568 เงินเดือนเข้าวันไหน?” คำตอบก็คือ กรมบัญชีกลางกำหนดวันโอนเงินเดือน เป็น 2 รอบต่อเดือน ดังนี้ครับผม รอบที่ 1: วันที่ 15 สิงหาคม 2568 รอบที่ 2: วันที่ 26 สิงหาคม 2568 เงื่อนไขการรับเงินเดือน 2 รอบ ต้อง แสดงความประสงค์ล่วงหน้า ว่าต้องการรับเงินแบบแบ่งจ่าย 2 ครั้ง หาก ไม่ได้แจ้งความประสงค์ จะได้รับเงินเดือนเพียง รอบที่ 2 เท่านั้น ลูกจ้างประจำก็อยู่ภายใต้นโยบายเดียวกัน ในมุมมองของผู้เขียนนะครับ ผมมองว่าการประกาศชัดเจนแบบนี้ช่วยให้ทุกคนวางแผนการใช้จ่ายได้ง่ายขึ้น ไม่ต้องมาลุ้นว่าเงินจะเข้าวันไหน เรื่องน่ารู้ข้อที่ 2: เงินเดือนข้าราชการปี 2568 มีอะไรเปลี่ยนแปลงบ้าง? ปี 2568 มีนโยบายสำคัญที่เปลี่ยนแปลงคือการ แบ่งจ่ายเงินเดือน 2 รอบ ครับ ซึ่งถือว่าเป็นครั้งแรก ๆ ที่มีการดำเนินการอย่างจริงจังในวงกว้าง จุดเปลี่ยนที่สำคัญ เดิมที ข้าราชการจะได้รับเงินเดือนเดือนละครั้งคือปลายเดือน ปีนี้ รัฐเปิดทางเลือกให้เลือกรับ 2 รอบ คือ กลางเดือนและปลายเดือน มีระบบลงทะเบียนแสดงความประสงค์ ข้อดีของนโยบายใหม่ ช่วย กระจายสภาพคล่องทางการเงิน ให้ไม่ขาดช่วง ลดปัญหาการกู้ยืมระหว่างเดือน ผู้ที่มีภาระค่าใช้จ่ายรายสัปดาห์หรือรายครึ่งเดือน เช่น ค่าเช่าบ้าน ค่าเลี้ยงดูครอบครัว จะจัดการง่ายขึ้น ข้อเสีย การได้รับเงินบ่อยอาจทำให้บางคน ใช้เงินเร็วขึ้น โดยไม่เหลือเก็บ อาจเกิดความสับสนหากลืมคำนวณยอดรวมทั้งเดือน ผมอยากจะเล่าว่า ในประสบการณ์ส่วนตัวผม เมื่อเคยได้เงินเร็วขึ้น ผมเองบางครั้งก็คุมไม่อยู่ครับ เลยเห็นชัดเจนว่าการจัดการวินัยการเงินสำคัญมากกว่าแค่จำนวนรอบที่ได้เงิน เรื่องน่ารู้ข้อที่ 3: รับเงินเดือน 2 รอบ vs 1 รอบ แบบไหนดีกว่ากัน? 1 รอบ (ปลายเดือน) ข้อดี: รู้สึกเหมือนได้เงินก้อนใหญ่ ใช้วางแผนได้ทั้งเดือน ง่ายต่อการกันเงินออมและชำระหนี้ก้อนโต ข้อเสีย: ต้องบริหารเงินให้อยู่ได้ทั้งเดือน หากพลาดอาจขาดสภาพคล่อง บางคนอาจต้องกู้เงินระหว่างเดือน 2 รอบ (กลางเดือน + ปลายเดือน) ข้อดี: ลดความกังวลเรื่องเงินหมดกลางเดือน จ่ายค่าใช้จ่ายรายงวด เช่น ค่าเช่า, ค่าผ่อน, ค่าใช้จ่ายลูก ได้สะดวก ทำให้มีวินัยมากขึ้นหากวางแผนดี ข้อเสีย: เงินที่ได้แต่ละครั้งน้อยลง อาจไม่พอใช้หากมีภาระก้อนใหญ่ต้นเดือน เสี่ยงใช้จ่ายเกินเพราะเห็นเงินเข้าบัญชีบ่อยขึ้น ในมุมมองของผม ไม่มีแบบไหนดีกว่าตายตัวครับ อยู่ที่ พฤติกรรมการใช้เงินของแต่ละคน หากควบคุมการใช้จ่ายได้ดี การรับ 2 รอบก็มีประโยชน์ แต่ถ้าไม่คุม การได้เงินเร็วก็เหมือนการหมดเงินเร็วเช่นกัน เรื่องน่ารู้ข้อที่ 4: ลูกจ้างประจำ-ข้าราชการ ควรบริหารเงินเดือนอย่างไรให้พอทั้งเดือน มุมมองของผู้เขียนนะครับ ผมมองว่าไม่ว่าจะรับเงินเดือน 1 รอบหรือ 2 รอบ สิ่งสำคัญที่สุดคือการ บริหารการเงินอย่างมีวินัย เทคนิคการจัดการเงินเดือน ทำบัญชีรายรับ-รายจ่าย จดทุกค่าใช้จ่าย จะได้เห็นพฤติกรรมการใช้เงินจริง ๆ กันเงินออมทันทีที่เงินเดือนออก อย่างน้อย 10% ของเงินเดือน แนะนำให้โอนเข้าบัญชีแยก กันเงินฉุกเฉิน ควรมีเงินเก็บเท่ากับค่าใช้จ่าย 3-6 เดือน ใช้ยามจำเป็น เช่น ป่วย หรือตกงาน วางแผนหนี้สิน ชำระหนี้ดอกเบี้ยสูงก่อน หากรับเงิน 2 รอบ อาจแบ่งหนี้บางส่วนไปจ่ายกลางเดือนเพื่อลดดอกเบี้ย ใช้เงินอย่างมีสติ คิดก่อนใช้ว่า “จำเป็นจริงหรือไม่?” ผู้เขียนเองก็เคยพลาดใช้เงินตามอารมณ์ จนทำให้ต้องรัดเข็มขัดปลายเดือน จึงเข้าใจเลยว่าการบริหารเงินเป็นเรื่องสำคัญที่สุด เรื่องน่ารู้ข้อที่ 5: เงินเดือนออก 15 ส.ค. 68 ใช้อย่างไรให้คุ้มค่าในยุคค่าครองชีพสูง ค่าครองชีพสูงขึ้นทุกวัน ทำให้เงินเดือนที่ได้ไม่มากนักต้องใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดครับ แนวทางใช้เงินอย่างคุ้มค่า แบ่งเงินเป็นซอง เช่น ซองค่าใช้จ่ายรายวัน ซองค่าเดินทาง ซองค่าออม เลือกซื้อของจำเป็นช่วงโปรโมชั่น ทำอาหารทานเอง ลดค่าใช้จ่ายนอกบ้าน ลงทุนความรู้ เช่น หนังสือหรือคอร์สเรียน เพื่อเพิ่มทักษะต่อยอดรายได้ เลี่ยงหนี้ฟุ่มเฟือย เช่น สินเชื่อส่วนบุคคลที่ไม่จำเป็น ผมอยากจะเล่าว่า การได้รับเงินรอบแรกวันที่ 15 ส.ค. 68 ควรใช้ไปกับค่าใช้จ่ายหลัก ๆ ก่อน เช่น ค่าครองชีพประจำวัน และกันส่วนหนึ่งไว้สำหรับออม ไม่ควรใช้หมดไปกับของที่ไม่จำเป็น เพราะเมื่อถึงรอบสอง (26 ส.ค. 68) จะได้ไม่ลำบากครับผม การเปลี่ยนแปลงการรับเงินเดือนในปี 2568 ถือเป็นนโยบายที่น่าสนใจและส่งผลโดยตรงต่อการใช้ชีวิตของข้าราชการและลูกจ้างประจำ การเลือกรับ 1 รอบหรือ 2 รอบ ไม่มีคำตอบตายตัวว่าดีที่สุด แต่ขึ้นอยู่กับ วินัยและพฤติกรรมทางการเงิน ของแต่ละคน ในมุมมองของผม ผมมองว่าหากใครมีวินัย การรับเงินเดือน 2 รอบจะช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นทางการเงิน แต่หากไม่มีวินัย การรับ 1 รอบอาจจะเหมาะกว่า เพราะจะได้วางแผนจากก้อนใหญ่ในครั้งเดียว ท้ายที่สุด ผู้เขียนเองเชื่อว่าการจัดการเงินอย่างมีสติ การกันเงินออม และการใช้จ่ายอย่างระมัดระวังคือหัวใจสำคัญที่สุดครับผม ภาพประกอบบทความ ภาพหน้าปก จาก Henryk Niestrój from Pixabay ภาพที่ 1 จาก Арсений Попов from Pixabay ภาพที่ 2 จาก Tumisu from Pixabay ภาพที่ 3 จาก Mohamed Hassan from Pixabay ภาพที่ 4 จาก Nattanan Kanchanaprat from Pixabay เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !