จีนระอุ หลัง ‘เพโลซี’ เยือนไต้หวัน ประกาศเดินหน้าซ้อมรบทันที

กลายเป็นประเด็นร้อนไปทั่วแผ่นดินจีนและทั่วโลกตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา หลังจาก “แนนซี เพโลซี” ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ เดินทางเยือนไต้หวัน ซึ่งก็ถูกคาดเดามาตลอดว่า “เพโลซี” นั้นจะเข้าไต้หวันจริงหรือไม่ 

จากกรณีนี้ก็ทำให้จีนโกรธอย่างมาก เพราะจีนก็เตือนสหรัฐฯ มาตลอดว่า “อย่าเล่นกับไฟ” และจีนก็ย้ำตลอดมาว่า ไต้หวันไม่ใช่ของสหรัฐฯ แต่ไต้หวันเป็นของจีน แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น ก็ทำให้จีนสั่งซ้อมรบต่อทันที

---จีนสั่งเดินหน้าซ้อมรบทันที---

การเดินทางของเพโลซีครั้งนี้เกิดขึ้นโดยไม่สนใจคำเตือนของจีนว่า สหรัฐฯ อาจต้องเผชิญกับการตอบโต้ทางการทหาร เพราะถือเป็นการแทรกแซงกิจการภายในของจีน

ซึ่งทางกองบัญชาการยุทธบริเวณตะวันออกแห่งกองทัพปลดแอกประชาชนจีน เริ่มการซ้อมรบพร้อมกันทั้งทางบก น้ำ และอากาศ รอบเกาะไต้หวัน เริ่มตั้งแต่เมื่อคืนนี้ คืนเดียวกับที่ แนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนสหรัฐฯ เดินทางถึงไต้หวัน การซ้อมรบครั้งนี้ เพื่อป้องปรามพฤติกรรมในทางลบของสหรัฐฯ ในประเด็นไต้หวัน ที่เพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงเวลานี้ และเพื่อเป็นการเตือนอย่างจริงจัง ไปถึงกลุ่มแบ่งแยกดินแดนที่ต้องการเอกราชของไต้หวันด้วย

โดย ‘กู้จง’ รองประธานคณะเสนาธิการทหาร กองบัญชาการยุทธบริเวณตะวันออกของจีน กล่าวว่า กองบัญชาการยุทธบริเวณตะวันออกจะซ้อมรบร่วมทั้งทางบก น้ำ และอากาศพร้อมกัน จะใช้กระสุนจริงและอาวุธนำวิถีที่มีความแม่นยำสำหรับเป้าหมายที่เฉพาะเจาะจง

การซ้อมรบจะเกิดขึ้นในน่านน้ำนอกชายฝั่งทั้งทางด้านเหนือ ตะวันตกเฉียงใต้ และตะวันออกเฉียงใต้ของไต้หวัน รวมไปถึงบนน่านฟ้าของไต้หวัน และจะใช้กระสุนจริงพิสัยไกลในช่องแคบไต้หวัน รวมทั้งจะยิงทดสอบขีปนาวุธชนิด "ในรูปแบบ" ในน่านน้ำนอกชายฝั่งตะวันออกของไต้หวันด้วย

---จีนเรียกตัวเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ เข้าพบประท้วงกรณี “เพโลซี”---

ขณะที่ ‘เซี่ย เฟิง’ รัฐมนตรีช่วยต่างประเทศจีน เรียกตัว ‘นิโคลาส เบิร์นส’ เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศจีนเข้าพบโดยด่วนเมื่อคืนนี้ (2 สิงหาคม) เพื่อประท้วงอย่างหนักแน่นกรณี ‘แนนซี เพโลซี’ ประธานสภาผู้แทนสหรัฐฯ เยือนไต้หวันเมื่อคืนนี้

เซี่ย เฟิง รัฐมนตรีช่วยต่างประเทศจีน เรียกตัว นิโคลาส เบิร์นส เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำจีน เข้าพบโดยด่วนเมื่อคืนนี้ (2 สิงหาคม) เพื่อประท้วงอย่างหนักแน่น กรณี “แนนซี เพโลซี” ประธานสภาผู้แทนสหรัฐฯ เยือนไต้หวันเมื่อคืนนี้

เซี่ย กล่าวว่า กรณีเพโลซีเป็นสิ่งที่เลวร้ายอย่างมหันต์ และผลที่จะเกิดขึ้นตามมาจะร้ายแรงอย่างที่สุด จีนจะไม่นั่งดูอยู่เฉย ๆ และว่า กรณีเพโลซีเสี่ยงต่อการถูกประณามจากทั่วโลก ที่ตั้งใจยั่วยุและเล่นกับไฟ เป็นการละเมิดหลักการจีนเดียว กับอีก 3 แถลงการณ์ร่วมจีน-สหรัฐฯ อย่างร้ายแรง จะส่งผลกระทบรุนแรงต่อรากฐานทางการเมืองของความสัมพันธ์จีน-สหรัฐฯ 

รวมถึงยังละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพด้านดินแดนของจีน บ่อนทำลายสันติภาพและเสถียรภาพของ 2 ฝั่งช่องแคบไต้หวันอย่างมหันต์ และส่งสัญญาณที่ผิด ๆ อย่างร้ายแรงไปยังกลุ่มแบ่งแยกดินแดนที่เรียกร้องเอกราชของไต้หวัน

เซี่ย ระบุว่า รัฐบาลสหรัฐฯ จะต้องรับผิดชอบกับการพูดอย่างทำอย่าง บิดเบือนหลักการจีนเดียวอยู่ตลอดเวลา ทำให้หลักการนี้กลวงใน 

---จีนแบนสินค้าไต้หวันหลายรายการอย่างไม่มีกำหนด---

พร้อมเปิดเผยว่า สหรัฐฯ ได้ลบประโยคสำคัญ ๆ อย่างเช่น "ไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของจีน" ออกจากเว็บไซต์ของกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ วางไต้หวันลงในสิ่งที่เรียกว่า “แผนยุทธศาสตร์อินโด-แปซิฟิก” ของสหรัฐฯ ยกระดับความสัมพันธ์กับไต้หวันอย่างเปิดเผย และเพิ่มการขายอาวุธให้ไต้หวัน และยังสนับสนุนกิจกรรมของกลุ่มแบ่งแยกดินแดน ที่ต้องการ “เอกราชของไต้หวัน”

อีกทั้งยังกล่าวหารัฐบาลสหรัฐฯ สนับสนุน แทนที่จะห้ามปรามเพโลซีในการจงใจเยือนไต้หวัน นำไปสู่การเพิ่มความตึงเครียดระหว่าง 2 ฝั่งช่องแคบไต้หวัน และบ่อนทำลายสัมพันธภาพจีน-สหรัฐฯ อย่างร้ายแรง

เซี่ยเตือนสหรัฐฯ ว่า จะต้องจ่ายราคาสำหรับความผิดพลาดของตัวเอง เรียกร้องสหรัฐฯ รีบจัดการแก้ไขความผิดพลาด และใช้มาตรการที่ปฏิบัติได้จริง เพื่อแก้ไขผลกระทบทางลบ ที่เกิดจากเพโลซีเยือนไต้หวัน และสหรัฐฯ จะต้องไม่เดินในทางที่ผิดอีกต่อไป อย่าเพิ่มความตึงเครียด และอย่าทำให้สถานการณ์ 2 ฝั่งช่องแคบไต้หวัน รวมทั้งสัมพันธภาพจีน-สหรัฐฯ เสียหายจนไม่อาจแก้ไขได้

รัฐมนตรีช่วยต่างประเทศจีนย้ำว่า สหรัฐฯ ควรหยุดเล่น “ไพ่ไต้หวัน” หยุดใช้ไต้หวันมาควบคุมจีนไม่ว่าในรูปแบบใด และหยุดแทรกแซงกิจการภายในของจีน และไต้หวัน คือ “ไต้หวันของจีน” และในที่สุดแล้ว ไต้หวันจะกลับคืนสู่อ้อมกอดของแผ่นดินแม่ และประชาชนชาวจีนไม่กลัวภูติผีปีศาจ และแรงกดดันจากสิ่งชั่วร้าย

--- “เพโลซี” เข้าพบประธานาธิบดีไต้หวันแล้ว--- 

นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์จีนยังสั่งแบนสินค้าจากไต้หวันด้วย โดยประกาศระงับการนำเข้าขนมปังประเภทบิสกิตและเพสตรีจากผู้ส่งออกของไต้หวัน 35 ราย ตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา ส่วนเช้านี้ประกาศระงับการนำเข้าสินต้าเพิ่มเติมคือ ผลไม้ตระกูลส้ม และปลาทะเล 2 ชนิด คือ ปลาสีกุนและปลาดาบเงินแช่แข็ง ขณะเดียวกันก็ยังระงับการส่งออกทรายให้ไต้หวันอย่างไม่มีกำหนดด้วย

ขณะที่เช้านี้เพโลซีเดินทางไปยังอาคารรัฐสภาของไต้หวันแล้ว เพื่อเข้าพบประธานาธิบดี ‘ไช่ อิงเหวิน’ ของไต้หวันเรียบร้อยแล้ว โดยผู้นำไต้หวันกล่าวว่า “ขอบคุณสหรัฐฯ ที่คอยช่วยเหลือและสนับสนุนมาโดยตลอด ไม่เคยเปลี่ยนแปลง” พร้อมมอบเครื่องอิสริยาภรณ์เมฆมงคลให้แก่ "แนนซี เพโลซี" ประธานสภาสหรัฐฯ เพื่อรับรองบทบาทและการมีส่วนร่วมของเธอในการส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ-ไต้หวันท่ามกลางความตึงเครียดกับจีนที่เพิ่มสูงขึ้น

ต้องติดตามกันต่อไปว่า ความตึงเครียดระหว่างจีน ไต้หวัน และสหรัฐฯ ในครั้งนี้จะเดินหน้าไปอย่างไร จะจบลงอย่างไร และจะมีผลกระทบอะไรกับไทยบ้าง

—————

แปล-เรียบเรียง: พิชญาภา สูตะบุตร

ภาพ: Reuters