“ยุคทรัมป์-ดอกเบี้ยต่ำ” หนุนทองคำระยะยาว ลุ้นแตะ 60,000 บาท

คุณอารีรัตน์ มุราชัย หัวหน้านักวิเคราะห์ บริษัท จีแคป จำกัด หรือ GCAP GOLD ให้สัมภาษณ์ในรายการ WEALTH X โดยระบุว่าราคาทองคำที่ปรับตัวขึ้นมากว่า 40% ตั้งแต่ต้นปี มีปัจจัยขับเคลื่อนหลักมาจากความผันผวนในเศรษฐกิจและการเมืองโลก

คุณอารีรัตน์ชี้ให้เห็นถึง 2 ปัจจัยสำคัญที่เป็นตัวเร่งให้ราคาทองคำปรับตัวขึ้นอย่างร้อนแรงในปีนี้ ได้แก่:

1. นโยบายของโดนัลด์ ทรัมป์ นโยบายการค้าที่ไม่เคยมีมาก่อน และการสร้างประเด็นใหม่ๆ ที่คาดเดาได้ยาก ทำให้เกิดความไม่แน่นอนสูงในตลาดการเงิน ส่งผลให้นักลงทุนหันมาถือครองทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย (“คิดอะไรไม่ออก เอาเงินเข้าทองก่อน”)
2. แนวโน้มดอกเบี้ยต่ำ ทองคำมักจะทำผลงานได้ดีในสภาวะที่อัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับต่ำ ซึ่งเป็นทิศทางนโยบายการเงินของธนาคารกลางทั่วโลกในปัจจุบันเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ

“ตราบใดที่เรายังอยู่ในวาระของคุณทรัมป์ มันจะมีประเด็นใหม่ๆ เข้ามาทำให้ตลาดผันผวนได้มากขึ้น ทองคำก็เช่นเดียวกัน” คุณอารีรัตน์กล่าว

กลยุทธ์ลงทุน แบ่งขายทำกำไร-รอ “ย่อซื้อ” ที่แนวรับสำคัญ

แม้แนวโน้มระยะยาวยังเป็นขาขึ้น แต่คุณอารีรัตน์เตือนว่าการปรับตัวขึ้นมาอย่างรวดเร็วจาก 3,400 ดอลลาร์สู่ 3,700 ดอลลาร์โดยยังไม่มีการพักฐานที่ชัดเจน ทำให้มีความเสี่ยงที่จะเกิดการขายทำกำไรในระยะสั้น

โซนเฝ้าระวัง (อาจมีแรงขาย): 3,750 - 3,800 ดอลลาร์ต่อออนซ์

กลยุทธ์สำหรับคนมีของ: แนะนำให้ “แบ่งขายทำกำไร” บางส่วน (เช่น 30% ของพอร์ต) เพื่อลดความเสี่ยง และถือส่วนที่เหลือเพื่อลุ้นการปรับตัวขึ้นต่อ

จุดรอเข้าซื้อเมื่อย่อตัว (ทองคำต่างประเทศ): บริเวณ 3,400 - 3,550 ดอลลาร์ต่อออนซ์

จุดรอเข้าซื้อเมื่อย่อตัว (ทองคำไทย): ฐานราคาขยับขึ้นมาอยู่ที่ 54,000 - 54,500 บาท ซึ่งเป็นโซนที่น่าสนใจในการทยอยเข้าเก็บ

คุณอารีรัตน์ได้ให้ความเห็นต่อ 2 ประเด็นที่กำลังเป็นที่ถกเถียงในตลาดไว้อย่างน่าสนใจ

• โอกาสที่ทองจะแตะ $5,000 (ตามที่ Goldman Sachs คาดการณ์): คุณอารีรัตน์มองว่าเป็นไปได้ แต่จะเกิดขึ้นในสถานการณ์ที่ ความเป็นอิสระของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ถูกแทรกแซงอย่างหนัก จากฝ่ายการเมือง ซึ่งเริ่มเห็นเค้าลางแล้ว แต่ GCAP ประเมินว่าเป้าหมายระยะถัดไปที่ใกล้เคียงกว่าคือบริเวณ 3,850 - 3,900 ดอลลาร์
• ประเด็นภาษีทองคำในไทย: คุณอารีรัตน์มองว่า ทองคำไม่ใช่สาเหตุหลักที่ทำให้เงินบาทแข็งค่า โดยยกข้อมูลการนำเข้า-ส่งออกที่แสดงให้เห็นว่าไทยเป็น “ผู้นำเข้าสุทธิ” ทองคำ ซึ่งตามหลักแล้วควรทำให้เงินบาท “อ่อนค่า” ลงด้วยซ้ำ พร้อมแสดงความหวังว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะทบทวนและแก้ไขปัญหาให้ตรงจุด เพื่อไม่ให้เป็นการผลักภาระให้ผู้บริโภคและผู้ออมทองคำ