การปลูกพืชผักสวนครัวนั้น นับว่าเป็นเรื่องที่ดีมาก เพราะเป็นการที่เราสามารถเลือกสุขภาพที่ดีของเราได้เอง ทั้งปลอดสารพิษ อุดมไปด้วยสารอาหารและวิตามินจากธรรมชาติ ซึ่งการปลูกผักในกระถางก็เป็นอีกวิธีหนึ่งสำหรับคนที่มีพื้นที่น้อย ดูแลง่าย สะดวกต่อการดำรงชีวิต โดยผักที่เราสามารถปลูกในกระถางได้นั้น มีหลากหลายชนิดให้เลือกสรร ไม่ว่าจะเป็นสลัด มะเขือเทศ ผักกาด กะหล่ำปลี ผักชี พริก แครอท คะน้า มะเขือยาว กะเพราะ และอื่นๆ อีกมากมาย สามารถทำง่ายๆได้ที่บ้าน มาเริ่มกันเลย วัสดุและอุปกรณ์ในการปลูกกระถางขนาด 5-10 นิ้วดินปลูกปุ๋ยคอก(ถ้ามี)เมล็ดหรือต้นกล้าผักที่เราจะปลูก อุปกรณ์การตักดิน 1.พริกการปลูกพริกจะปลูกจากการเพาะเมล็ดหรือต้นกล้าก็ได้ การเพาะเมล็ดจะใช้เวลามากกว่า แต่ประหยัดกว่า ส่วนการใช้ต้นกล้าข้อดีก็คือ จะโตเร็ว ได้กินผลผลิตเร็ว วิธีและขั้นตอนการปลูก(ปลูกจากต้นกล้า)เตรียมดินปลูกผสมปุ๋ยคอกไว้ในกระถาง เว้นระยะขอบวันเล็กน้อย ทำหลุม โดยกะจากความสูงของราก นำต้นพริกลงไปปลูกและกลบด้วยดินปลูกหรือปุ๋ยคอก หลังปลูกเสร็จแล้วให้รดน้ำเลย พอรดเสร็จแล้วอาจจะนำใบไม้หรือฟางมาปกคลุมดินไว้ ให้มีความชุ่มชื้นอยู่ตลอดเวลา (ควรสังเกตสิ่งที่จะเอามาปกคลุมดินก่อนเสมอ เพราะอาจจะมีเชื้อราหรือพวกแมลงติดมาด้วย)(ปลูกจากเมล็ด) เตรียมกระถางสำหรับปลูก โดยผสมดินปลูกและปุ๋ยคอกไว้ ใส่ดินให้เต็ม เว้นขอบไว้เล็กน้อย ไม่ต้องกดดินจนแน่น เพราะการเจริญเติบโตของรากจะเกิดช้าโรยเมล็ดลงไป 3-5 แล้วแต่ขนาดกระถางและความต้องการของผู้ปลูกว่าต้องการกี่ต้น ถ้าต้องการ1ต้นในหนึ่งกระถางก็ใส่ไป 3-5เมล็ดก็พอนำดินปลูกที่ผสมกับปุ๋ยคอกแล้ว มาโรยลงไปที่เมล็ดเล็กน้อย ต้องให้ปกปิดเมล็ดไปประมาณ1เซนติเมตร แล้วค่อยรถน้ำตามนำกระถางไว้ในที่มีแสงแดดรำไร ไม่มีแดดจัดเกินไป รถน้ำสัปดาห์ละ 1-3 ครั้ง รอประมาณ 5-7 วันต้นกล้าก็จะงอกออกมา และจะมีผลผลิตให้กินได้ต้องใช้เวลาประมาณ 2-3 เดือน วิธีดูแล(การดูแลขึ้นอยู่กับชนิดของผักและสภาพแวดล้อม)เมื่อพริกโตพอที่จะมีดอกแล้ว ให้ทำการรดน้ำวันเว้นวันได้เลยเมื่อพริกออกผลผลิตให้กินแล้ว ต้องพยายามใส่ปุ๋ยคอกเดือนละครั้ง โดยโรยไปบริเวณโคนต้น อย่าให้โดนลำต้นโดยตรงเด็ดขาด เพราะจะทำให้รากเน่าได้ต้องหมั่นกำจัดวัชพืชที่จะขึ้นมาแย่งสารอาหารในดินของต้นพริกต้นพริกไม่ชอบน้ำขังและแฉะ พยายามหลีกเลี่ยงการทำให้น้ำขัง ต้องเอาไว้ในบริเวณที่ไม่มีน้ำขัง เคล็ดลับ เมื่อต้นพริกโตประมาณ 20 เซนติเมตรแล้ว จะเกิดใบให้ทำการเด็ดใบที่ใกล้ๆยอดออก โดยเด็ดสลับหว่างใบ ไม่เด็ดทั้งหมด จะทำให้พริกโตเป็นมีลูกตกและโตเป็นพุ่ม ไม่ยืด 2.ผักชีฝรั่งผักชีถือว่าเป็นผักที่โตง่าย สามารถนำไปทำอาหารได้หลากหลายเมนู แถมยังเป็นผักที่มีกลิ่นหอม มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวและคุณประโยชน์เป็นอย่างมาก วิธีและขั้นตอนการปลูก(สำหรับคนที่จะปลูกจากเมล็ด) ให้นำเมล็ด โดยนำผ้าที่ไม่ใช้เเล้ว ใส่เมล็ดลงไปแล้วเอาแช่น้ำไว้ ไปแช่น้ำทิ้งไว้ประมาณ 1-2 คืน หรือนำกระดาษทิชชู่ชุบน้ำแล้วปิดไว้ หนึ่งถึงสองวัน แล้วนำมาปลูกในดินตามปกติได้เลยนำเมล็ดลงปลูกยังดินที่ผสมไว้แล้ว กลบดินบางๆแล้วรดน้ำใช้ชุ่ม รถน้ำ 3-4 ครั้งต่อสัปดาห์ พอเริ่มมีใบก็ให้แยกกระถางละต้นถึงสองต้น เพราะผักชีฝรั่งค่อนข้างต้องการพื้นที่เป็นวงกว้างให้ใบของเขาได้แผ่และขยายออกไปผักชีฝรั่งค่อนข้างโตเร็วประมาณ 1-2 เดือนก็สามารถเก็บไปทำอาหารได้แล้ว วิธีดูแล(การดูแลขึ้นอยู่กับชนิดของผักและสภาพแวดล้อม)นำกระถางไว้ในที่มีแสงแดดรำไร ไม่มีแดดจัดจนเกินไป และไม่ควรเอาไว้ในพื้นที่ที่มีน้ำท่วมขังอยู่ เพราะจะทำให้รากเน่าและเกิดโรคได้พอผักชีฝรั่งเริ่มโต ให้รดน้ำอย่างสม่ำเสมอ แต่ไม่ควรรดน้ำน้อยหรือมากเกินไป อยู่ที่ความพอดี ผักจะเจริญเติบโตได้เร็วขึ้น เคล็ดลับ เมื่อต้นผักชีฝรั่งเริ่มมีก้านดอกตรงกลางงอกออกมา ให้ทำการตัดทิ้ง จะทำให้เราได้กินใบต่อไปอีกนาน เพราะเมื่อมีการงอกของดอกนี้ขึ้นมานั้น แสดงต้นผักชีฝรั่งมีความสมบูรณ์และพร้อมจะขยายพันธุ์เป็นเมล็ดแล้ว ถ้าหากไม่ตัดเราก็รอเอาเมล็ดจากดอก และนำไปปลูกครั้งต่อไป แต่ต้นและใบจะค่อยๆตายลงไป 3.มะเขือเทศมะเขือเทศอุดมไปด้วยสารอาหารและคุณประโยชน์ ถือว่าเป็นพืชผักที่ปลูกได้ง่ายเป็นอันดับต้นๆเลยทีเดียว โดยมะเขือเทศก็มีหลากหลายสายพันธุ์ รสชาติก็แตกต่างกันออกไป วิธีและขั้นตอนการปลูกนำดินปลูกและปุ๋ยคอก ใส่กระถางให้เต็ม นำเมล็ดมาโรยในกระถาง 3-5 เมล็ด ใช้ดินโรยลงไปแบบบางๆ ไม่หนาเกินไป แล้วรดน้ำให้ชุ่ม (ถ้าเอาเมล็ดจากผลสด ให้นำไปแช่น้ำไว้ 1คืนก่อน เพราะจะทำให้เมือกที่เคลือบอยู่บนเมล็ดหลุดออกไป อัตราการงอกก็จะมีสูงขึ้น)รดน้ำทุกวัน แต่ถ้าในหน้าฝนก็ยังไม่ควรรดบ่อย ให้เลือกรถเวลาที่ดินแห้งพอเริ่มมีดอก ก็ให้บำรุงดินโดยการโรยปุ๋ยคอกที่บริเวณโคนต้น พยายามไม่ให้โดนต้น วิธีดูแล(การดูแลขึ้นอยู่กับชนิดของผักและสภาพแวดล้อม)หลังจากปลูกเสร็จแล้วให้รถน้ำให้ชุ่ม เก็บกระถางไว้ในที่แดดรำไรพอเริ่มแตกใบใหม่และลำต้นแข็งแรงแล้ว ให้ย้ายไปในพื้นที่มีแดดในช่วงเช้า และตอนบ่ายไม่ร้อนจนเกินไป รดน้ำ 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ ระยะเวลาในการมีผลผลิตคือ 2- 4 เดือน คอยกำจัดวัชพืชและป้องกันโรคด้วยการไม่วางไว้ในที่ชุ่มน้ำ เคล็ดลับ การจะทำให้มะเขือเทศมีผลดก ต้องมีการหมั่นตัดกิ่งให้เหลือไว้เเค่ 1-2 กิ่งต่อต้น เพื่อเร่งสร้างสารอาหารการเจริญเติบโตของต้น ถ้าหากพันธุ์ที่ปลูก เป็นลูกใหญ่ ก็ควรทำค้างไว้รับน้ำหนักผลของมะเขือเทศด้วย เพื่อไม่ให้ลำต้นเสียหายการปลูกผักในกระถางเป็นสิ่งที่ง่ายมากๆแถมยังสะดวกอีกด้วย ไม่ว่าใครๆก็ทำได้ แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการดูแล หลังจากที่ต้องงอกแล้ว ต้องหมั่นดูแลและควบคุมพวกวัชพืช รวมถึงพวกโรคและแมลงด้วยนะคะ เครดิต รูปภาพปกและภาพทั้งหมด โดย ผู้เขียนห้องส่องร้านดังมาแรง รวมของกินอร่อยต้องโดน บอกสูตรเมนูลับที่ไม่ลับอีกต่อไป