ว่ากันว่าชีวิตของคนเราคือผลลัพธ์จากการกระทำ เราปลูกต้นไม้ชนิดใด เราจะได้ต้นไม้ชนิดนั้น เราทำสิ่งใดเราก็ได้สิ่งนั้นเช่นกัน ตอนแรกเกิดโชคชะตาอาจเป็นคนเลือกชีวิตให้เราแต่พอเราโตขึ้นเราเป็นคนกำหนดชีวิตของตัวเราเอง เราเลือกที่จะมีความสุขได้และเลือกที่จะร่ำรวยได้เช่นเดียวกัน แต่การกระทำของเราก็ต้องสอดคล้องกับเป้าหมายนั้นด้วย หากมีสิ่งใดที่เป็นอุปสรรต่อความสุขหรือความร่ำรวยเราก็จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องสละและเลิกทำสิ่งเหล่านั้น ซึ่งวันนี้ผู้เขียนก็มี 13 สิ่งที่เลิกทำแล้วจะทำให้ชีวิตของเราดีขึ้นแบบไม่ต้องรอฤกษ์และไม่ต้องง้อโชคมาฝากผู้อ่านทุกท่านค่ะ1. เลิกตัดสินคนอื่นจากความรู้สึกของตัวเอง ทุกคนบนโลกนี้เกิดมาไม่เหมือนกัน มีนิสัย รูปร่าง หน้าตา ความชอบและทัศนคติที่แตกต่างกัน อีกทั้งในแต่ละคนยังมีหลายบุคคลิกมีหลายแง่มุมเวลาอยู่กับคนรักก็เป็นอีกคน อยู่กับครอบครัวก็เป็นอีกคน กับเพื่อนก็เป็นอีกคนและกับคนแปลกหน้าก็เป็นอีกคน ดังนั้นการจะไปตัดสินว่าคนนั้น คนนี้ดีหรือไม่ดี ทัศนคติแย่/ไม่แย่ หน้าตาดี/ขี้เหล่ แต่งตัวดี/แต่งตัวแย่ โดยใช้ความรู้สึกของตัวเองเป็นบรรทัดฐานคงเป็นสิ่งที่ไม่ดีนัก เพราะะถ้าทำแบบนี้บ่อย ๆ มันจะกลายเป็นนิสัย (ที่ไม่ดี) ติดตัวคุณไปตลอด ดังนั้นจงเปิดใจให้กว้างที่จะเรียนรู้ผู้อื่นด้วยหัวใจที่ปราศจากบรรทัดฐานของตนเอง2. เลิกเปรียบเทียบตนเองกับผู้อื่น ไม่ว่าจะเป็นการเปรียบเทียบกับคนที่ดีกว่าหรือกับคนที่ด้อยกว่าก็ไม่ดีทั้งนั้น โดยเฉพาะการเปรียบเทียบตนเองกับคนที่เค้าดีกว่านั่นจะทำให้คุณรู้สึกด้อยและอาจก่อให้เกิดความอิจฉาขึ้นมาในจิตใจได้ ซึ่งมันคงไม่ดีนักหากจิตใจคุณจะต้องหมองมัวเพราะการมองดูคนที่ดีกว่า ดังนั้นจงหันมาใส่ใจและพัฒนาตนเองไปสู่คุณในเวอร์ชั่นที่ดีที่สุดกัน3. เลิกเอาใจทุกคนแล้วหันกลับมารักษาความรู้สึกของตัวเองการตามเอาใจทุกคนเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่เหนื่อยที่สุดในชีวิต ทั้งแรงกายและแรงใจที่ต้องสูญเสียไปอย่างมหาศาล ต้องทำในสิ่งที่ไม่อยากทำเพียงเพราะต้องการเอาใจคนอื่นกลัวเค้าไม่รัก กลัวเค้าไม่ชอบแต่จงอย่าลืมว่าเราทำให้ทุกคนบนโลกชอบเราไม่ได้ ต่อให้คุณจะทำดีแค่ไหนก็ตามและที่สำคัญชีวิตมันสั้นมาก จะมีชีวิตอยู่บนโลกนี้อีกนานเท่าไหร่ก็ไม่รู้ ดังนั้นหันมารักษาความรู้สึกตัวเองเถอะ ไม่ต้องเอาใจทุกคนหรอก 4. เลิกคาดหวังในตัวผู้อื่นต้นเหตุของความทุกข์อีกหนึ่งตัว คือ ความคาดหวัง ไม่ว่าจะกับใครยิ่งคุณคาดหวังมากเท่าไหร่โอกาสที่จะผิดหวังยิ่งทวีคูณเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น สุดท้ายคนที่ทุกข์ใจจากความผิดหวังมากที่สุดก็คือคนที่คาดหวังอย่างคุณนั่นเอง หากอยากทุกข์น้อย จงคาดหวังให้น้อย หากไม่อยากทุกข์เลย จงหยุดคาดหวัง5. เลิกกล่าวโทษสิ่งอื่นเมื่อมีความผิดพลาดเกิดขึ้น แต่ให้มองสิ่งที่เกิดขึ้นด้วยความเป็นจริงและมองที่ตนเองก่อนปกติเมื่อเกิดปัญหาหรือความผิดพลาดขึ้นมนุษย์มักมองหาต้นเหตุจากสิ่งต่าง ๆ ที่อยู่รอบตัวก่อน โทษลม โทษฟ้า โทษสิ่งของและโทษคนอื่น แต่มักจะมองข้ามตนเองไปเสียอย่างนั้น จะดีกว่ามั้ยถ้าหากเกิดปัญหาขึ้นคุณจะลองไตร่ตรองและทบทวนตัวเองก่อนว่าเราผิดพลาดตรงไหน ต้องแก้ไขจุดไหนบ้าง มองด้วยความจริง ด้วยเหตุผลที่ไร้อคติแล้วค่อย ๆ ลงมือแก้ปัญหาด้วยสติและปัญญา6. เลิกเอาแต่ใจตนเองแบบไม่มีเหตุผลข้อนี้เป็นสิ่งที่ทุกคนควรหลีกเลี่ยงไปให้ไกลสุดขอบฟ้า ไม่ว่าจะกับใครเราไม่ควรเอาแต่ใจตนเองแบบไร้เหตุผล แม้กระทั่งกับพ่อแม่เราเองหรือกับคนรักที่เราคิดว่าเค้ารักเรามากที่สุด เพราะไม่มีใครที่จะคอยตามใจคุณไปได้ตลอดและถ้าหากพวกเค้ารักคุณมากจนคอยตามใจอยู่ตลอด คุณก็ควรรักและเห็นใจพวกเค้าให้มากโดยเริ่มจากการเลิกเอาแต่ใจตัวเองก่อน7. เลิกโทษลม โทษฟ้าแล้วหันกลับมากุมชะตาชีวิตตัวเองเกิดมาลำบากอย่าเพิ่งโทษโชคชะตา ฟ้าดิน ต้นทุนคนเราไม่เท่ากันก็จริงแต่วันนี้คุณพยายามสุด ๆ แล้วหรือยัง ทำเต็มที่และต่อเนื่องมากพอหรือเปล่า ถ้าคำตอบคือยัง ก็ขอให้กลับไปทุ่มเทสร้างสรรค์และปูเส้นทางแห่งชีวิตของตนเองเสียใหม่ ขีดเขียนเส้นทางของตนเองด้วย 1 สมองและ 2 มือของเราแล้วกุมบังเหียนชีวิตของคุณซะ8. เลิกนิสัยผัดวันประกันพรุ่งแล้วลงมือทำตอนนี้เลยนิสัยส่วนใหญ่ที่ทำให้คนไม่ประสบความสำเร็จ คือ นิสัยชอบผัดวันประกันพรุ่ง "เดี๋ยวพรุ่งนี้ค่อยทำ" "เดี๋ยวเดือนหน้าค่อยเริ่ม" "เดี๋ยวปีหน้าค่อยลุย" สุดท้ายก็จะไม่ได้เริ่มทำอะไรสักอย่าง หากอยากทำสิ่งใดให้สำเร็จ จงเริ่มลงมือทำตั้งแต่วันนี้ ตอนนี้เลย อย่ารอฤกษ์ อย่ามีข้ออ้าง อย่ารอให้พร้อมและอย่าผัดวันประกันพรุ่ง9. เลิกแกล้งตายเวลาเจออุปสรรคแล้วลุยไปข้างหน้าอย่างเต็มกำลังคนส่วนใหญ่อยากเป็นนู้น อยากเป็นนี่ อยากมีนู้น อยากมีนี่มีความฝันมากมายเต็มไปหมด แต่พอเริ่มลงมือทำแล้วเจออุปสรรคนิด ๆ หน่อย ๆ ก็ท้อและหยุดไม่ไปต่อ แต่คุณรู้ไว้เถิดว่าบนเส้นทางแห่งชีวิตที่จะประสบความสำเร็จนั้น ทั้งอุปสรรค ความยากลำยากและปัญหาเป็นสิ่งที่คนสำเร็จทุกคนต้องเจอ เพราะหากสำเร็จกันได้ง่าย ๆ ทุกคนบนโลกนี้คงมีความสุขกันถ้วนหน้าเพราะสมปรารถนากันไปหมดแล้ว โปรดรู้ไว้ว่าทุกสิ่งที่คุณจะได้รับคุณต้องคู่ควรกับสิ่งนั้นก่อน 10. เลิกอ่านหนังสือ How to แล้วลงมีทำจริง ๆ ได้แล้วการอ่านหนังสือ How to ร้อยเล่ม พันเล่มคงเป็นสิ่งที่ไร้ประโยชน์ หากคนอ่านไม่นำไปลงมือปฏิบัติเลย เมื่อเทียบกับคนที่อ่านหนังสือ How to แม้เพียงเล่มเดียวแต่นำไปปฏิบัติจริงนั้นยังได้รับประโยชน์มากกว่าคนที่อ่านเป็นพัน ๆ เล่มหลายเท่านัก ดังนั้นหากอยากให้ผลเกิดจงลงมือทำเดี๋ยวนี้เลย อย่ารีรอ 11. เลิกรอคอยโชคลาภแบบลม ๆ แล้ง ๆ แล้วหันมาสร้างโชคดีจากสองมือของตนเองแทน หากคุณเป็นอีกหนึ่งคนที่กำลังนั่งรอ นอนรอให้โชคลาภจากฟ้ามาบังเกิด คิดว่าสักวันคงถูกล็อตเตอรีรางวัลใหญ่และวันนั้นคงสุขสบาย ขอให้คุณเลิกฝันและตั้งสติก่อน เพราะสถิติของการถูกฟ้าผ่ายังมีมากกว่าโอกาสในการถูกล็อตเตอรีรางวัลที่ 1 เสียอีก ดังนั้นเลิกฝันกลางวันแล้วหันมาพัฒนาศักยภาพและทักษะของตนเองได้แล้ว อยากมี อยากรวยก็เอาสิ่งที่คุณมีไปแลก ถ้ายังไม่มีสิ่งใดไปแลกมา ก็ให้พัฒนาตนเองขึ้นไปให้ใกล้เป้าหมายนั้นมากที่สุด เพราะสุดท้ายแล้วหากจะไม่ได้ดวงจันทร์แต่คุณก็ยังมีดวงดาว ดีกว่ากำฝุ่นอยู่มากโข12. เลิกทนอยู่กับสิ่งที่ทำให้ทุกข์ แล้วเดินหน้าไปหาความสุขแทน ทุกวันนี้คุณมีความสุขแล้วหรือยัง ? คำตอบนี้มีแต่ตัวคุณที่จะตอบได้ ซึ่งหากคำตอบ คือ " ฉันไม่มีความสุข " แล้วอะไรล่ะ ที่ทำให้คุณไม่มีความสุข ต้นเหตุของปัญหาคุณรู้อยู่ในใจอยู่แล้ว ไม่ว่าจะทุกข์เพราะคนรัก ทุกข์เพราะที่ทำงาน ทุกข์เพราะสภาพแวดล้อมแย่ ฯลฯ สิ่งใดที่คุณควบคุมได้ เลือกได้ สลัดทิ้งได้ เปลี่ยนได้จงทำสิ่งเหล่านั้นหากมันทำให้ใจเป็นสุขขึ้น ความสุขใดที่เลือกได้จงคว้ามันเอาไว้ อย่าทนทุกข์อยู่เลยเพราะมันไม่มีประโยชน์13. เลิกงัดข้ออ้างมาเป็นเหตุผลในการไม่ลงมือทำสิ่งที่จะพัฒนาชีวิตของตนเองต้นไม้ที่จะเติบโตในวันพรุ่งนี้ คือ เมล็ดพันธุ์ที่ปลูกลงดินในวันนี้ หากอยากมีชีวิตที่งอกงามและประสบความสำเร็จอย่าหาข้ออ้างมาเป็นเหตุผลให้ตนเองรู้สึกดีที่จะไม่ลงมือทำในสิ่งที่จะพัฒนาชีวิตของคุณให้ดีขึ้น ไม่มีสิ่งใดได้มาฟรี ๆ ดังนั้นอยากได้อะไรต้องลงมือทำเพื่อแลกมาสุดท้ายแล้วเรานั้นเป็นผู้ที่กุมบังเหียนชีวิตของตัวเอง เราเลือกที่จะทำหรือไม่ทำในสิ่งต่าง ๆ ได้ตามที่ใจเราต้องการ แต่บางครั้งเราก็อาจจะต้องสละความสบาย ความเคยชินต่าง ๆ และนิสัยเดิม ๆ เพื่อบังคับทิศทางชีวิตให้ดีขึ้นอันจะนำไปสู่ความสุขในชีวิตที่เพิ่มมากขึ้นค่ะ ภาพที่ 1ภาพที่ 2ภาพที่ 3