ครั้งหนึ่งที่ได้อ่านแล้วรู้สึกประทับใจมาก ฉันประทับใจตั้งแต่หัวข้อของหนังสือแล้ว "อย่าให้ตัวคุณในอนาคตเกลียดตัวคุณในตอนนี้" ฉันมีความสงสัยว่า การกระทำของเราในตอนนี้ อนาคตของเราจะทำให้เราเกลียดตัวเองได้หรือ คำถามนี้ทำให้ฉันกระตุ้นที่จะต้องเปิดอ่านหนังสือเล่มนี้ให้ได้ เรียกได้ว่าเป็นความอยากรู้อยากเห็นเลยทีเดียว เริ่มต้นต้องอ่านสารบัญก่อน ว่ามีเนื้อหาอะไรบ้าง น่าสนใจอย่างไร เร็ว ๆ นี้งานสารบัญยิ่งกระตุ้นความอยากรู้ของเรา ในเล่มนี้จะมีเนื้อหาเกี่ยวกับการใช้ชีวิตอยู่กับปัจจุบัน ทุกวันเป็นวันที่ดี , ในโลกนี้ สิ่งที่ดีที่สุดสำหรับคุณก็คือตัวคุณเอง , ฉันเชื่อว่าความฝันเป็นพลังที่ยิ่งใหญ่ที่สุด และทำตามที่ใจสั่ง เป็นในสิ่งที่คุณอยากเป็น ฉันรู้สึกดีใจมากและขอบคุณตัวเอง ที่อ่านหนังสือเล่มนี้จนจบและได้เรียนรู้จากเหตุการณ์จริงที่ยกตัวอย่างมาในหนังสือเล่มนี้ เรื่องที่ประทับใจมากที่สุด คงเป็นเรื่องนี้ มีผู้หญิงคนหนึ่ง เธอตัดสินใจแต่งงานกับคนรวย มีชีวิตอยู่อย่างสุขสบาย เธอไม่ต้องทำงานอะไรเลย จนเวลาผ่านไป 4-5 ปี ชีวิตของเธอก็ตกอยู่ในช่วงที่ยากลำบาก เธอต้องออกไปทำงาน งานที่เธอทำนั้น แม้เป็นสายงานที่เธอได้เรียนมา แต่เธอก็ไม่สามารถทำอะไรได้อย่างเต็มที่ เพราะอะไรรู้ไหมคะ เพราะว่าช่วงเวลาที่เธอได้ฝึกงานในสายงานเฉพาะ เธอไม่ได้ทำงานนั้นด้วยตนเอง งานนั้นสำเร็จลงได้เพราะเธอขอร้องให้เพื่อนช่วย ทำให้เธอผ่านจากการฝึกงานมาได้ ตอนนั้นเธอคิดในใจว่าเราไม่ต้องเสียเวลา ลงทุนลงแรงทำให้เหนื่อยเลย ทำแค่นี้ก็ผ่านมาได้แบบสบาย ๆ แล้ว จนอายุเธอมากขึ้น เธอได้กลับมาเจองานในสายงานตนเองอีกครั้ง แต่เธอไม่สามารถทำมันได้อย่างเต็มที่ เธอต้องเสียเวลาเรียนรู้ใหม่มากกว่ากว่าเดิมอีกตอนเจอเด็กฝึกงานรุ่นใหม่ที่มาเป็นลูกน้องเธอ ฝึกงานเหมือนกับเธอในอดีตที่ผ่านมา มีคนเชิญให้เธอได้พูดให้กำลังใจเด็กฝึกงานใหม่นี้ เธอจึงคิดถึงเรื่องราวตนเองที่ผ่านมา เธอได้บอกกับเด็กฝึกงานนั้นว่า ให้ตั้งใจทำงานที่ได้รับมอบหมายให้เต็มที่ เต็มความสามารถ เพราะวันหนึ่งเธอจะได้ใช้ความสามารถเหล่านี้ต่อไป จะได้ไม่เหมือนตัวฉันเองในอดีต " สักวันสิ่งที่เราเคยหลีกหนีจะย้อนกลับมาหาเรา "จากการอ่านเรื่องนี้ น้ำตาซึมเลยจ้า ฉันเองก็เคยเป็นแบบนั้น แต่ตอนนี้ ฉันยังมีโอกาสได้เริ่มใหม่ ยังไม่สายเกินไป ฉันเริ่มผลักตนเองออกมาทำปัจจุบันให้ดีที่สุด ไม่อยากเป็นเหมือนผู้หญิงคนนี้ ที่จะต้องมานั่งคิดถึงอดีตที่ตนเองไม่ได้ทำ ไม่ได้เรียนรู้อะไรเลย ฉันเองปรารถนาไม่ขอเป็นเช่นนั้นอย่างเด็ดขาด " มาเปลี่ยนแปลงตนเองเพื่อความสุขที่ปรารถนา "การเปลี่ยนแปลงตัวเองได้ต้องใช้ทฤษฎี 21 วัน ที่ระบุว่า ถ้าคนเราทำสิ่งเดิมซ้ำ ต่อเนื่อง 21 วันก็จะกลายเป็นนิสัย ช่างน่าอัศจรรย์จริง ๆมีบทความหนึ่งบนโลกออนไลน์ที่น่าสนใจ เป็นเรื่องของสามีภรรยาหนุ่มสาวคู่หนึ่งที่ต้องการจะเปลี่ยนแปลงตัวเองจากคนนอนดึกตื่นสายกลายเป็นคนนอนเร็วตื่นเช้า พวกเขาจึงใช้วิธีเข้านอนตอน 4 ทุ่มและตื่น 6 โมงเช้าเป็นประจำทุกวัน หลังจากนั้นไม่นานชีวิตของทั้งคู่ก็เปลี่ยนไปอย่างน่าอัศจรรย์ จากเดิมที่ต้องตาลีตาเหลือกลุกขึ้นจากที่นอนแล้วรีบไปทำงานโดยไม่มีเวลากินอาหารเช้า แต่ตอนนี้พวกเขากลับมีเวลาทำความสะอาดบ้าน ออกกำลังกาย ชมนกชมไม้ และกินอาหารเช้าด้วยกัน แถมยังเหลือเวลาอีกมาก การตื่นเช้าทำให้พวกเขารู้สึกว่าช่วงเวลากลางวันยาวนานขึ้นกว่าปกติ เรื่องนี้อาจฟังดูเหมือนง่าย แต่พอได้ลองทำเข้าจริงๆได้ เราไม่สามารถนอนตอน 4 ทุ่มได้ วันแรกทำได้ยอดเยี่ยมแต่ต่อมาทำให้เราต้องเข้านอนดึกกว่านั้น ไม่ยอมแพ้หรอก ! ต้องทำให้ได้ ! บางครั้ง การที่เราจะเปลี่ยนแปลงตัวเองอาจเป็นเรื่องที่ยากลำบาก แต่หากเรากัดฟันลองทำดูสักตั้งและเลือกมองแต่ด้านที่สวยงาม มันจะกลายเป็นแรงผลักดันให้เราแข็งแกร่งและมีชีวิตที่มีความสุขได้ ฉันได้เรียนรู้ว่า ถ้าหากคุณอยากทำเรื่องนี้ให้สำเร็จ ในวันหนึ่งเราควรแบ่งเวลาออกเป็น 2 ส่วน โดยส่วนแรกเราจะต้องจดจ่ออยู่กับการทำงานและตัดขาดจากเรื่องยุ่งยากในชีวิตที่นอกเหนือจากงาน ส่วนที่ 2 คือช่วงหลังเลิกงาน ซึ่งเป็นช่วงที่เราจะได้เติมเต็มชีวิตของเราด้วยการพักผ่อนร่างกายให้หายเหนื่อยล้าและผ่อนคลายจิตใจไม่ตกอยู่ในความทุกข์ นี่เป็นช่วงที่เราจะลืมเรื่องงานไปก่อน การแบ่งเวลาออกเป็น 2 ส่วนจะทำให้เรามีพลังกายและพลังใจเต็มเปี่ยมเพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับวันต่อไปได้ ฉันได้ลองเอาไปใช้แล้วนะคะ ทำให้รู้สึกว่าชีวิตเราเป็นระบบและลงตัวมากขึ้น คุณละคะ พร้อมที่ลองเอาไปทำหรือยัง เพื่อไม่ให้ตัวคุณในอนาคต เกลียดตัวคุณในตอนนี้ ที่สำคัญ เขาจะขอบคุณตัวคุณด้วยซ้ำ ที่ทำให้ชีวิตคุณมีค่ามากกว่าที่เคยได้เป็นมา " เพราะวันนี้ จะกลายเป็นอดีตในวันพรุ่งนี้เสมอ "ภาพหน้าปกจาก Little heart / PIC1 : Pixabay / PIC2 : Pixabay / PIC3 : Pixabay / PIC4 : Little heart