สตช. แนะ 4 ข้อสังเกตุ เมื่อพบวัตถุต้องสงสัย "ห้ามแตะ ถอยห่าง แจ้ง 191"
พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธ์ุเพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้มีความห่วงใยพี่น้องประชาชนที่อาจได้รับความเสียหายจากอาชญากรรมทุกรูปแบบ
สืบเนื่องจากกรณี พบวัตถุต้องสงสัยลักษณะคล้ายระเบิดที่บริเวณใกล้เคียงกับอาคารของบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป จำกัด ซึ่งต่อมาจากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดพบว่าเป็นเพียงสิ่งของที่มีรูปร่างคล้ายวัตถุระเบิดเท่านั้น และอยู่ระหว่างการสืบสวนติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมาย
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงขอใช้โอกาสนี้ในการประชาสัมพันธ์พี่น้องประชาชน ถึงการสังเกตวัตถุต้องสงสัย และข้อควรปฏิบัติหากพบวัตถุต้องสงสัย เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน ดังนี้
การสังเกตวัตถุต้องสงสัย” มีหลักในการระบุว่าสิ่งของหรือวัตถุใด ต้องสงสัยว่าอาจเป็นวัตถุระเบิด โดยสามารถดูได้จาก
- “ไม่เคยเห็น” เป็นวัตถุที่ไม่เคยเห็นในบริเวณนั้นมาก่อน
- “ไม่เป็นของใคร” เป็นวัตถุที่ไม่มีเจ้าของ หรือหาเจ้าของไม่พบ
- “ไม่ใช่ที่อยู่” เป็นวัตถุที่ควรจะอยู่บริเวณอื่น มากกว่าบริเวณที่พบ
- “ดูไม่เรียบร้อย” เป็นวัตถุที่มีลักษณะภายนอกไม่เรียบร้อย ผิดปกติ หรือผิดไปจากรูปแบบที่ควรเป็น
“ขั้นตอนปฏิบัติเมื่อพบวัตถุต้องสงสัย” สำหรับพี่น้องประชาชน หรือผู้ที่รับผิดชอบในการดูแลสถานที่ดังกล่าว มีขั้นตอนในการปฏิบัติ ดังนี้
1. “ห้ามแตะ ห้ามจับ ห้ามเคลื่อนย้าย” โดยห้ามแตะต้องวัตถุต้องสงสัยเด็ดขาด หรือทำให้เกิดการสั่นสะเทือนในบริเวณใกล้เคียง
2. “เว้นระยะห่างจากวัตถุต้องสงสัยทันที” โดยควรปิดกั้นพื้นที่อย่าให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าใกล้วัตถุต้องสงสัย และเว้นระยะห่างอย่างน้อย 100 – 150 เมตร
3. “โทรแจ้ง 191 ในทันที” โดยบอกรายละเอียดเกี่ยวกับวัตถุต้องสงสัยให้ชัดเจน เช่น บริเวณที่พบ ลักษณะภายนอก ขนาด สี เป็นต้น
ทั้งนี้ แม้ว่าเหตุระเบิดในประเทศไทยจะเกิดขึ้นไม่บ่อยนัก แต่เหตุระเบิดสามารถก่อให้เกิดความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สินได้อย่างร้ายแรง พี่น้องประชาชนจึงควรศึกษาและปฏิบัติตามแนวทางเมื่อพบวัตถุต้องสงสัย เพื่อเสริมสร้างสังคมที่ปลอดภัยและลดความเสี่ยงในการเกิดความสูญเสีย
สุดท้ายหากพี่น้องประชาชนพบเห็นวัตถุต้องสงสัย ให้แจ้งให้ผู้รับผิดชอบสถานที่ดังกล่าวทราบโดยเร็ว และโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ที่ สายด่วน 191 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง