เป็นประจำทุกปีในช่วงเดือนตุลาคมถึงพฤศจิกายน จะเป็นช่วงเวลาเกี่ยวข้าวของชาวเกษตรกร ดังนั้นผู้คนในชุมชนจะช่วยกันลงแขกเกี่ยวข้าวกัน บทความนี้จะมารีวิวการลงแขกเกี่ยวข้าวอีกครั้งในรอบหลายปี ว่ามันจะมีบรรยากาศในรูปแบบไหน จะเหนื่อย ร้อน หรือสนุกมากน้อยแค่น้อย ลองติดตามอ่านดูครับเริ่มแรกเลย ด้วยบรรยากาศช่วงเดือนตุลาคมจะเป็นช่วงปลายฝนต้นหนาว บรรยากาศในตอนเช้าของพื้นที่ชนบทจะมีอากาศเย็นสบาย บรรยากาศเหมาะแก่การพักผ่อนจริงๆ หมอกลงไม่หนามาก แต่ก็เรียกความสดชื่นมาให้ร่างกายที่พร้อมจะไปเกี่ยวข้าวได้เป็นอย่างดีในด้านของเจ้าภาพ ก็จัดการเตรียมอาหารสด เพื่อจะทำให้ผู้เกี่ยวข้าวได้ทานในตอนกลางวัน เช่น หมู ปลา ผัก ฯลฯ เท่าที่จะหาได้ตามพื้นที่ แต่สิ่งที่ขาดไม่ได้คือ เหล้า เพราะตามธรรมเนียม ก่อนจะทานข้าวกลางวันกัน ก็จะมีการรินเหล้าให้แก่กัน รวมทั้งให้ผู้เฒ่าผู้แก่เขาได้อธิฐานขอเจ้าที่เจ้าทาง ผีป่านางไม้ช่วยปกปักรักษา ให้ผลผลิตเป็นไปตามที่ต้องการ เป็นการสร้างขวัญกำลังใจตามประเพณีที่สืบทอดกันมาอย่างยาวนานเรื่อยมาเมื่อได้เวลาลงเกี่ยวข้าว ทุกคนจะมีเคียวคนละอัน ก็จะช่วยกันเกี่ยวใครเกี่ยวมัน แต่ในอดีตเคียว 1 อันจะใช้คน 2 คน เนื่องจากต้องใช้คนมัด 1 คน ทำให้ต้องใช้จำนวนคนเยอะมาก มาในปัจจุบันเมื่อต่างคนต่างก็ใช้เคียวโดยไม่ต้องมัดแล้ว ทำให้การเกี่ยวข้าวเสร็จไวขึ้นมาก โดยในจำนวนเนื้อที่ประมาณ 1 ไร่ มีคนลงแขกประมาณ 20 คน เที่ยงวันก็เสร็จเรียบร้อยแล้ว ซึ่งในการเกี่ยวข้าวต่างคนต่างขะมักเขม้นเกี่ยวกันอย่างเมามัน ในขณะเดียวกัน คนหนุ่มคนสาว พ่อบ้านแม่บ้าน ได้เม้าท์มอยกันสนั่นปาก ถือว่าเป็นบรรยากาศที่สนุกมากกว่าคำว่าเหนื่อยไม่น่าเชื่อว่า ในปัจจุบันมีการนำเครื่องจักรทางการเกษตรมาใช้เป็นเครื่องทุ่นแรง แต่บางพื้นที่การใช้เครื่องจักรอาจไม่ตอบโจทย์เกษตรกร จึงยังมีการลงแขกเกี่ยวข้าวกันแบบดั้งเดิมอยู่อย่างต่อเนื่อง ทำให้ให้ยังได้พบกับความสนุกสาน ความสามัคคี ของผู้คนในชุมชนสำหรับผู้เขียน ถือว่าได้สัมผัสบรรยากาศการเกี่ยวข้าวอีกครั้งในรอบ 10 ปี ถามว่าเหนื่อยไหม ไม่เหนื่อยเท่าไหร่ มีร้อนบ้างแต่ก็ไม่เยอะ เป็นความรู้สึกสนุกมากกว่าคำว่าเหนื่อยกับร้อน การได้เม้าท์มอยกับผู้คนมากหน้าหลายตา เป็นความรู้สึกเหมือนกับว่าได้ผักผ่อนมากกว่าการรู้ว่าได้ไปทำงาน ความสุขมันอยู่ตรงนี้นี่เอง เรื่องและภาพโดยผู้เขียนเปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !