เวียดนามเตรียมความพร้อมรับมือไต้ฝุ่นกำลังแรง “หว่ามก๋อ”

วันนี้ (15พ.ย.63) “หว่ามก๋อ” ไต้ฝุ่นกำลังแรง ซึ่งคร่าชีวิตประชาชนในฟิลิปปินส์ไปอย่างน้อย 53 รายและสูญหายอีกหลายสิบราย ขณะนี้ เคลื่อนตัวมุ่งหน้าสู่เวียดนาม ส่งผลให้ประชาชนหลายหมื่นคน ทิ้งบ้านเรือนอพยพไปอยู่ในที่ปลอดภัย โดยคาดว่าไต้ฝุ่นมรณะลูกนี้ จะพัดขึ้นฝั่งภาคตะวันออกของเวียดนามในวันนี้ สนามบินและชายหาดท่องเที่ยวต่าง ๆ ต้องปิดให้บริการ และชาวประมงได้รับการแจ้งเตือนให้กลับเข้าฝั่ง 

สำนักงานพยากรณ์อากาศของรัฐบาล แถลงในวันเสาร์ว่า ประเทศเตรียมพร้อมรับมือไต้ฝุ่นที่เคลื่อนตัวด้วยความเร็วลม 103 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และคาดว่าจะพัดเข้าถล่มพื้นที่ชายฝั่งไล่ไปตั้งแต่จังหวัดห่าติ๋ญ (Ha Tinh) จนถึงจังหวัดกว๋างหงาย (Quang Ngai) ขณะที่นายกรัฐมนตรีเหงียน ซวน ฟุก ของเวียดนาม กล่าวว่า นี้เป็นไต้ฝุ่นที่มีกำลังแรงมาก พร้อมเตือนหลายจังหวัดที่คาดว่า “หว่ามก๋อ” จะเคลื่อนตัวผ่าน เตรียมพร้อมรับผลกระทบ

สื่อท้องถิ่นรายงานอ้างถ้อยแถลงของสำนักงานบริหารจัดการภัยพิบัติของรัฐบาล ที่ระบุว่า หลายจังหวัดเตรียมแผนอพยพประชาชนเกือบ 500,000 คนไปอยู่ในที่ปลอดภัยภายในวันเสาร์ หลังจากไต้ฝุ่นลูกนี้ พัดถล่มเกาะลูซอน ซึ่งเป็นเกาะใหญ่ที่สดุของฟิลิปปินส์ ทำให้เกิดน้ำท่วมและดินถล่มเป็นบริเวณกว้างเมื่อวันพุธที่ผ่านมา ห่างกันเพียงหนึ่งสัปดาห์หลังไต้ฝุ่น “โคนี” ซึ่งเป็นพายุที่กำลังแรงที่สุดในโลก พัดกระหน่ำฟิลิปปินส์ในรอบ 7 ปี

สำหรับเวียดนามเตรียมความพร้อมรับมือกับ “หว่ามก๋อ” เป็นอย่างดี สั่งอพยพประชาชนใน 4 จังหวัดภาคกลางเรียบร้อยแล้ว จากการเปิดเผยของสำนักงานป้องกันภัยพิบัติแห่งชาติ 

ทั้งนี้ พายุหลายลูกเรียงหน้าถล่มเวียดนามในช่วงไม่กี่สัปดาห์มานี้ และมีผู้เสียชีวิตแล้วมากกว่า 100 ราย ในเหตุการณ์น้ำท่วมเมื่อเดือนที่แล้ว หลังจากฝนตกหนัก ซึ่งจากข้อมูลของกาชาดสากล ระบุว่า มีบ้านเรือนประชาชนประมาณ 400,000 หลังถูกทำลายเสียหาย สภาพอากาศที่เลวร้ายยังทำลายถนนและสะพานหลายแห่งและสร้างความเสียหายต่อแหล่งอาหารและพืชผลทางการเกษตรด้วย   

เหงียน ที ซวน ธู ประธานกาชาดเวียดนาม กล่าวกับเอเอฟพีว่า ประชาชนมากกว่า 8 ล้านคนในภาคกลางของประเทศ ยังไม่ฟื้นตัว แต่ละครั้งที่พวกเขาเริ่มที่จะบูรณะซ่อมแซมอาคารบ้านเรือนและชีวิตความเป็นอยู่ ก็ต้องมาพบกับพายุอีกลูกเสมอ

ส่วนในฟิลิปปินส์นั้น เจ้าหน้าที่ป้องกันภัยฉุกเฉินถูกส่งเข้าไปในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือเมื่อวันเสาร์ เพื่อช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัยน้ำท่วมเลวร้ายมากกว่า 340,000 คน แต่เพราะกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวกรากในแม่น้ำคากายัน เกาะลูซอน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กลายเป็นอุปสรรคขัดขวางเจ้าหน้าที่กู้ภัยไม่ให้เข้าถึงประชาชนอีกหลายร้อยคนที่ติดอยู่บนหลังคาบ้าน 

ฟิลิปปินส์เคยชินกับพายุโซนร้อนและไต้ฝุ่น แต่การเตรียมความพร้อมรับมือในปีนี้ ต้องพบกับอุปสรรคใหญ่จากการระบาดของไวรัสโควิด-19