รีเซต

‘เคอนิกเส็กก์’บุกไทย 2ไฮเปอร์คาร์‘400ล้าน’

‘เคอนิกเส็กก์’บุกไทย 2ไฮเปอร์คาร์‘400ล้าน’
มติชน
23 ตุลาคม 2563 ( 13:00 )
157
‘เคอนิกเส็กก์’บุกไทย 2ไฮเปอร์คาร์‘400ล้าน’

 เมื่อเร็วๆ นี้ ที่โรงแรม พาร์คไฮแอท กรุงเทพฯ มีการจัดงานเปิดตัว เคอนิกเส็กก์ (Koenigsegg) แบรนด์รถไฮเปอร์คาร์สมรรถนะสูงสัญชาติสวีเดน โดยร่วมกับบริษัท เจเนอร์รัล ออโต้ ซัพพลาย จำกัด (ในเครือชาริช โฮลดิ้ง) นำโดย อภิชาติ ลีนุตพงษ์ ประธานกรรมการ และ ศักดิ์ นานา กรรมการ จัดงาน เคอนิกเส็กก์ แบงคอก ดิ อัลติเมท เพอฟอร์แมนซ์ (Koenigsegg Bangkok: The Ultimate Performance) เปิดบ้านในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ

 

เมื่อเคอนิกเส็กก์ ออโตโมทีฟ เอบี (Koenigsegg Automotive AB) ประกาศแต่งตั้งให้เป็นตัวแทนจำหน่ายไฮเปอร์คาร์ เคอนิกเส็กก์ อย่างเป็นทางการในประเทศไทย ร่วมด้วยไฮไลต์ส่งตรงจากสวีเดนสู่กรุงเทพมหานคร กับการเผยโฉมนวัตกรรมไฮเปอร์คาร์ 2 รุ่น มูลค่ารวมกว่า 400 ล้านบาท อย่าง เคอนิกเส็กก์ เกเมร่า เมกา-จีที (Koenigsegg Gemera Mega-GT) สี่ที่นั่งคันแรกของโลก (The World’s First Mega-GT and Koenigsegg’s First For Four) และเคอนิกเส็กก์ เยสโก แอบโซลุท (Koenigsegg Jesko Absolut) ไฮเปอร์คาร์ที่เร็วและแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ของ เคอนิกเส็กก์

 

เคอนิกเส็กก์ ก่อตั้งขึ้นในปี 1994 จากปณิธานอันแน่วแน่ของเด็กหนุ่มวัย 22 ปี ต้องการสร้างรถยนต์ที่สมบูรณ์แบบโดยไร้ขีดจำกัด คริสเตียน ฟอน เคอนิกเส็กก์ คือผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เคอนิกเส็กก์ ออโตโมทีฟ เอบี ขั้นตอนตั้งแต่การผลิตโครงสร้างคาร์บอนไฟเบอร์ ไปจนถึงการตกแต่งภายในของเคอนิกเส็กก์ ถูกสร้างขึ้นอย่างพิถีพิถันด้วยมือ รถทุกคันจึงเปรียบดังงานศิลป์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ สร้างขึ้นตามมาตรฐานสูงสุดของแบรนด์ ความล้ำสมัยทางนวัตกรรมก็เป็นที่ขึ้นชื่อ หลายปีที่ผ่านมาแบรนด์เดินหน้าเปิดตัวและจดสิทธิบัตรเทคโนโลยีใหม่ๆ มากมาย ทำลายสถิติโลกอย่างต่อเนื่องในรถหลากหลายรุ่น

 

คริสเตียน ฟอน เคอนิกเส็กก์ ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร คอนิกเส็กก์ ออโตโมทีฟ เอบี กล่าวว่า ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประเทศไทยถือเป็นตลาดสำคัญของรถยนต์ซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่ ศักยภาพของ เจเนอร์รัล ออโต้ ซัพพลาย และบริษัทในเครือภายใต้การบริหารของ อภิชาติ ลีนุตพงษ์ สั่งสมประสบการณ์ในแวดวงยานยนต์มานาน จึงทำให้เชื่อมั่นว่า เคอนิกเส็กก์ จะสามารถเริ่มต้นการเดินทางครั้งใหม่ได้อย่างมั่นคงและแข็งแกร่งทั้งในตลาดเมืองไทยและในภูมิภาค

 

อภิชาติ ลีนุตพงษ์ ประธานกรรมการ บริษัท เจเนอร์รัล ออโต้ ซัพพลาย จำกัด (ในเครือชาริช โฮลดิ้ง) กล่าวว่า สำหรับวัตกรรมไฮเปอร์คาร์ 2 รุ่น ที่เดินทางข้ามทวีปมาถึงกรุงเทพมหานครเป็นครั้งแรก อย่าง เคอนิกเส็กก์ เยสโก้ แอบซูลุท ไฮเปอร์คาร์ที่เร็วและแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ของ เคอนิกเส็กก์และจะไม่ผลิตรถคันไหนที่เร็วและแรงกว่า เยสโก้แอบซูลุท อีกแล้วในอนาคต ทุกส่วนประกอบออกแบบมาเพื่อลดค่าสัมประสิทธิ์การต้านลมของตัวถัง และยังเพิ่มความนิ่งของตัวรถเมื่อใช้ความเร็วสูงขึ้นอีกด้วย มีค่าสัมประสิทธิ์แรงฉุดของอากาศเพียง 0.278 ด้วยเส้นสายและการออกแบบของตัวรถที่มีความปราดเปรียวและดุดันมากยิ่งขึ้นด้วยครีบฉลามคู่ด้านท้ายที่ได้แรงบันดาลใจจากเครื่องบินรบ F-15

 

ตัวครีบฉลามคู่ทำหน้าที่คอยรีดอากาศด้านหลังให้ไหลเวียนได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อลดแรงเฉี่อยจากลมเมื่อต้องวิ่งด้วยความเร็วสูง ดีไซน์ด้านหน้าปรับแต่งให้เก็บหลังคาได้เพื่อความสะดวกในการใช้งาน และจัดเก็บเมื่อต้องการเปิดประทุน ช่วงล่างปรับแต่งให้นุ่มมากขึ้นเพื่อการขับขี่ที่สนุกเมื่อขับขี่ในสนามแข่ง และยังคงสะดวกสบายเมื่อใช้งานบนถนนสาธารณะ เครื่องยนต์เบนซิน V8 เทอร์โบคู่ สร้างกำลังสูงสุดได้ที่ 1,600 แรงม้า เมื่อใช้เชื้อเพลิง E85 และยังสามารถลากรอบได้ถึง 8,500 รอบต่อนาที ตัวเครื่องยนต์ถูกเชื่อมต่อเข้ากับระบบส่งกำลังแบบใหม่พัฒนาและผลิตโดย เคอนิกเส็กก์ เอง ระบบส่งกำลังเป็นแบบ 9 จังหวะที่เรียกว่า ไลต์ สปีด ทรานส์มิสชั่น (Light Speed Transmission-LST) มาพร้อมกับระบบ อัลติเมท เพาเวอร์ ออน ดีมานด์ (Ultimate Power On Demand-UPOD) ช่วยให้การเปลี่ยนเกียร์ตอบสนองได้ใกล้เคียงความเร็วของแสง พร้อมทั้งยังมีขนาดเล็กและน้ำหนักเบาเพียง 90 กิโลกรัมเท่านั้น

 

เคอนิกเส็กก์ เกเมร่า เมกา-จีที (Koenigsegg Gemera Mega-GT) สี่ที่นั่งคันแรกของโลกของ เคอนิกเส็กก์ (The World’s First Mega-GT and Koenigsegg’s First Four Four) ถูกออกแบบมาตอบโจทย์ทุกการใช้งาน ที่นั่งรองรับสรีระของผู้ใหญ่ได้ 4 ที่นั่ง เก็บกระเป๋าสัมภาระได้ 4 ใบ มาพร้อมที่วางแก้ว 8 จุด จอแสดงผลข้อมูลต่างๆ ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง จุดชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย ระบบแอปเปิล คาร์เพลย์ ลำโพง 11 จุด และระบบเบาะปรับด้วยไฟฟ้า

 

หัวใจหลักของเกเมร่า คือเครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ เทอร์โบคู่ ขนาด 2.0 ลิตร ที่ชื่อ ทินี่ เฟรนด์ลี ไจแอนท์ (Tiny Friendly Giant -TFG) มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้า 3 มอเตอร์ พละกำลังสูงสุด 1,700 แรงม้า แรงบิดสูงสุดที่ 3,500 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 1.9 วินาทีเท่านั้น

 

 

ด้านเทคโนโลยีช่วยเหลือในการขับขี่ ติดตั้งทั้งระบบเลี้ยวล้อหลังและระบบกระจายแรงบิด เพื่อการควบคุมที่ฉับไวและมั่นใจขึ้นเพื่อให้ผู้ขับขี่พร้อมเผชิญทุกสภาพถนน นอกจากสมรรถนะเครื่องยนต์เร้าใจแล้ว ยังสามารถขับเคลื่อนได้ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าเพียงอย่างเดียวด้วยความเร็วสูงสุดถึง 300 กม./ชม. และมีพิสัยเดินทางสูงสุด 50 กม. เมื่อต้องการเดินทางโดยปราศจากมลพิษหรือสามารถขับเคลื่อนในรูปแบบไฮบริด

 

เกเมร่า ถูกออกแบบมาให้รองรับน้ำมันเชื้อเพลิง E85 ได้หากต้องใช้เครื่องยนต์ในการขับเคลื่อน และมีพิสัยเดินทางไกลสุด 950 กม. และยังถูกออกแบบด้วยแนวคิดการใช้งานครอบคลุมทั้งการใช้ในเมืองด้วยความเร็วต่ำและขับขี่บนทางหลวงด้วยความเร็วสูง

 

 

ระบบความปลอดภัยตั้งแต่โครงสร้างตัวถังแบบ คาร์บอน ไฟเบอร์ โมโนคอก (Carbon Fiber Monocoque) ถุงลมนิรภัย 6 ใบ ระบบช่วยเหลือการทรงตัว ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี ระบบเบรกเอบีเอส และระบบช่วยเหลือการขับขี่ เอดีเอเอส (ADAS) 2.5 มีจุดยึด ไอโซฟิกซ์ (ISOFIX) สำหรับเบาะหลังทั้ง 2 ที่นั่ง

 

ดีไซน์ภายนอกออกแบบประตูใหม่เรียกว่าเคอนิกเส็กก์ ออโตเมท ทวิสต์ ซิงโครเฮลิกซ์ แอคทูเอชั่น ดอร์ส (Koenigsegg Automated Twisted Synchrohelix Actuation Doors-KATSAD) สามารถเปิดได้กว้างพอที่ผู้โดยสารด้านหน้าและด้านหลังสามารถเข้ารถไปได้พร้อมกันในเวลาเดียวกัน

 

ทั้งยังคงรูปลักษณ์แบบรถสปอร์ต 2 ประตู บริเวณด้านบนประตูนั้นติดตั้งกล้องที่แสดงภาพของรถด้านหลัง เป็นครั้งแรกของเคอนิกเส็กก์ นำมาใช้บนรถแทนกระจกมองข้างทั่วไป ล้อขนาด 20 และ 21 นิ้ว ผลิตจากวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ล้วน มีน้ำหนักไม่ถึง 9 กิโลกรัมต่อล้อ

 

ด้านท้ายของเกเมร่า ติดตั้งท่อไอเสียจากแอคราโพวิค (Akrapovic) เพิ่มความดุดันทั้งด้านรูปลักษณ์และซุ่มเสียงของเครื่องยนต์คำรามพร้อมจะเคลื่อนที่ไปข้างหน้า

 

ภายในเบาะปรับไฟฟ้าแบบ 4 ทิศทาง ด้านหน้าแลถูกเสริมด้วยเมมโมรี่โฟม เพื่อรองรับสรีระผู้โดยสารให้สบายขึ้นทั้ง 4 ที่นั่ง ผู้โดยสารทั้ง 4 ที่นั่งสามารถควบคุมระบบเครื่องเสียงความบันเทิงและระบบปรับอากาศได้ด้วยตัวเอง พร้อมทั้งยังมีช่องเก็บสัมภาระของแต่ละที่นั่ง เพื่อเป็นสัดส่วนอีกด้วย

 

สำหรับเกเมร่านี้ มีเพียงแค่ 300 คันทั่วโลก ราคาอยู่ที่ 2.998 ล้านยูโร (ประมาณ 111 ล้านบาท)