เจียไต๋ – เครือเจริญโภคภัณฑ์ ต้อนรับศักราชใหม่ 2567 จัดพิธีทำบุญตักบาตร และพิธีเจริญพระพุทธมนต์ ฉลองครบรอบ 103 ปี เพื่อความเป็นสิริมงคลในการดำเนินธุรกิจ
เจียไต๋ – เครือเจริญโภคภัณฑ์ ต้อนรับศักราชใหม่ 2567 จัดพิธีทำบุญตักบาตร และพิธีเจริญพระพุทธมนต์ ฉลองครบรอบ 103 ปี เพื่อความเป็นสิริมงคลในการดำเนินธุรกิจ
วันที่ 26 มกราคม 2567 เครือเจริญโภคภัณฑ์ จัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์ฉลอง 103 ปี เจียไต๋ - เครือเจริญโภคภัณฑ์ โดยมี นายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานอาวุโส เครือเจริญโภคภัณฑ์ นายสุภกิต เจียรวนนท์ ประธานกรรมการ เครือเจริญโภคภัณฑ์ นายณรงค์ เจียรวนนท์ รองประธานอาวุโส และ นายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหาร เครือเจริญโภคภัณฑ์ พร้อมด้วยซีอีโอ ผู้บริหาร และพนักงาน จากทุกกลุ่มธุรกิจในเครือฯ ร่วมทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ 104 รูป พร้อมประกอบพิธีเจริญพระพุทธมนต์ เลี้ยงพระ ถวายปัจจัยไทยธรรม โดยมี เจ้าประคุณ สมเด็จพระธีรญาณมุนี กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าอาวาสวัดเทพศิรินทราวาส เป็นประธานในพิธีสงฆ์ และได้ประทานสัมโมทนียกถา พร้อมประพรมน้ำพระพุทธมนต์ เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ผู้บริหารและพนักงานเครือเจริญโภคภัณฑ์และบริษัทในเครือฯ ณ อาคาร ซี.พี.ทาวเวอร์ สีลม
ในการนึ้ เจ้าประคุณ สมเด็จพระธีรญาณมุนี ประธานในพิธีสงฆ์ ได้ประทานสัมโมทนียกถาเพื่อเป็นคติธรรมนำทางและเป็นสิริมงคลในการบริหารกิจการของเครือฯ ผ่านหลักธรรมในเรื่อง อิทธิบาท 4 ได้แก่ ฉันทะ คือความพอใจในหน้าที่ที่รับผิดชอบ อาจรู้สึกติดขัดบ้างแต่ให้นึกถึงประโยชน์ในสิ่งที่ทำ วิริยะ คือความพากเพียร หากพากเพียร ก็จะทำให้งานสำเร็จได้ไม่ยาก แต่ต้องรู้จักฝึกฝนและพัฒนาตัวเอง จิตตะ คือความมุ่งมั่น รับผิดชอบต่อสิ่งที่ทำ และสุดท้ายวิมังสา คือการใช้เหตุผลและปัญญา ทั้งหมดนึ้เพื่อทำให้การทำงานไม่เกิดความผิดพลาด สามารถใช้เป็นแนวทางสู่ความสำเร็จในชีวิต ท่ามกลางคณะผู้บริหารและพนักงานจากทุกกลุ่มธุรกิจเข้าร่วมฟังเพื่อเป็นแนวทางในการทำงานในอนาคตต่อไป
ทั้งนี้ เจียไต๋-เครือเจริญโภคภัณฑ์ ได้ดำเนินธุรกิจมาอย่างยาวนานจนถึง 103 ปี ซึ่งบริษัทในกลุ่มเจียไต๋ และบริษัทในกลุ่มเครือเจริญโภคภัณฑ์ ทั้งในประเทศไทยและในต่างประเทศอีก 21 ประเทศทั่วโลก และพนักงานกว่า 400,000 คน พร้อมที่จะก้าวเดินต่อไปสู่ปีที่ 104 และอีกหลายร้อยปีต่อจากนี้ ภายใต้การดำเนินธุรกิจตามหลักธรรมาธิบาล ยึดมั่นในการบริหารจัดการโดยคำนึงถึง 3 ประโยชน์หลัก คือ ประเทศชาติ ประชาชนและบริษัท เพื่อมุ่งสู่การเป็นองค์กรที่ดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนต่อไป