จีนพัฒนาระบบ AI ที่รู้วิธีการ “หลอกล่อ” คู่ต่อสู้ในการจำลองการรบในอวกาศได้ในที่สุด
TNN ช่อง16
16 มิถุนายน 2565 ( 11:48 )
80
- นักวิจัยชาวจีนอ้างว่าได้พัฒนาระบบปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่รู้วิธีการ “หลอกล่อ” คู่ต่อสู้ในการจำลองการรบในอวกาศ
- สำนักข่าว SCMP (South China Morning Post) รายงานการทดลองด้านอวกาศล่าสุดของจีน เผยว่า ได้ทดลองระบบ AI ที่กำหนดให้ดาวเทียมขนาดเล็กสามดวงเข้าไปและจับกุมเป้าหมายที่เป็นสถานีอวกาศมาแล้วนับหมื่นครั้ง โดยรายงานระบุว่า ยานอวกาศฝ่ายเป้าหมายเรียนรู้ที่จะตรวจพบถึงภัยคุกคามที่กำลังจะเกิดขึ้น และยังเรียนรู้การปรับทิศทางไอพ่นเครื่องขับดันเพื่อหลบหนีการไล่ล่า
- ในส่วนของฝ่ายผู้ล่านั้น ตอนแรก AI สั่งให้ดาวเทียมผู้ล่าทั้งสามลำเบี่ยงออกจากเส้นทางเดิม โดยแสร้งเหมือนกับว่าจะเลิกไล่ล่า จากนั้นก็สร้างกับดักขึ้น จนกระทั่งระยะห่างระหว่างผู้ล่ากับผู้ถูกล่าเหลือน้อยกว่า 10 เมตร และดาวเทียมผู้ล่า 1 ลำก็พลิกกลับทิศทางอย่างกะทันหันและสามารถจับกุมผู้ล่าได้ในที่สุด ซึ่งแสดงถึงความสามารถในการหลอกล่อนั่นเอง
- บทความการวิจัยนี้ ถูกตีพิมพ์เมื่อวันที่ 25 เมษายน ในวารสารวิชาการ Aerospace Shanghai ของจีน โดย ศ.ตั้ง เจ้าหุ่ย (Dang Jaohui) ศาสตราจารย์ด้านอวกาศศาสตร์ที่มหาวิทยาลัย Northwestern Polytechnical ในเมืองซีอาน ประเทศจีน กล่าวว่า "เหตุการณ์นี้น่าทึ่งอย่างมาก"
- ทีมงานเบื้องหลังการทดลองยังเผยว่า แท้จริงแล้ว การไล่ตามเป้าหมายขนาดใหญ่ในวงโคจรโลกนั้นไม่ง่ายอย่างที่คนส่วนใหญ่คิด รายงานการวิจัยก่อนหน้านี้ ส่วนใหญ่พบว่า การไล่ตามเป้าหมายในวงโคจรหรือในอวกาศ นับเป็นการยกระดับปัญหาทางคณิตศาสตร์และการคำนวณ โดยปัจจุบันนี้ เทคโนโลยี AI ของมนุษย์ยังคงอยู่ในขั้นที่ต้องกำหนดให้เป้าหมายต้องมีความเชื่องช้า ไม่สามารถสื่อสารได้ อีกทั้งยังมองไม่เห็นภัยคุกคามที่จะเกิดขึ้น แต่ในอนาคต เทคโนโลยีอาจทำให้ AI ควบคุมยานได้โดยอิสระ และจะถูกยกระดับความสามารถในการโจมตี และการตั้งรับในสถานการณ์สงครามได้เหนือมนุษย์ไปอีกหลายเท่า
- ปัจจุบัน ประเทศมหาอำนาจ ปกป้องทรัพย์สินในอวกาศด้วยเครือข่ายระบบเฝ้าระวังภัย และเซ็นเซอร์หลากหลายประเภท พร้อมกับใช้ระบบปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในการดูแลความปลอดภัยของดาวเทียม รายงานชิ้นนี้ยังชี้ด้วยว่า การจู่โจมดาวเทียม โดยเฉพาะอย่างยิ่งดาวเทียมแจ้งเตือนภัยคุกคาม มักถูกมองว่าเป็นหมุดหมายแห่ง "สงครามนิวเคลียร์" ขณะที่ ศ.ตั้ง เจ้าหุ่ย (Dang Jaohui) และเพื่อนร่วมงานของเขาจาก Shanghai Institute of Aerospace System Engineering อ้างว่า จะไม่มีที่เหลือให้กับมนุษย์ในสงครามอวกาศรูปแบบใหม่ โดย AI จะเป็นผู้ควบคุมทั้งเป้าหมายและนักล่า
- ทั้งนี้ นักวิจัยเหล่านี้ยังทดลองให้ AI เล่นเกมแมวจับหนูอย่างต่อเนื่องโดยปราศจากการแทรกแซงของมนุษย์ และให้ผู้ประเมิน AI ตรวจสอบผลการแข่งขันในแต่ละรอบ โดยมอบรางวัลและบทลงโทษตัวอย่างที่ทำให้ฝ่ายผู้ล่าต้องเสียค่าปรับ ก็คือการใช้กำลังหนักขึ้น ใช้เวลามากเกินไป หรือการชนกับเพื่อนร่วมทีม ซึ่งหากเกิดปัญหาเหล่านี้ ฝ่ายตรงข้ามจะได้รับคะแนนพิเศษ
- ในการฝึกซ้อม 10,000 รอบแรก ทั้ง 2 ฝ่ายประสบปัญหา โดยจำนวนบทลงโทษทั้งหมดมีมากกว่ารางวัลหลายเท่า แต่หลังจากการฝึกฝนผ่านไปประมาณ 20,000 รอบ ดาวเทียมผู้ล่ามีอัตราการเรียนรู้ที่เร็วขึ้น โดย ศ. ตั้ง ชี้ว่า อาจเป็นเพราะการทำงานเป็นทีม
- หลังจากความพ่ายแพ้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ในไม่ช้า ดาวเทียมฝ่ายถูกล่า ก็เริ่มเรียนรู้ที่จะรู้จักกลยุทธ์ง่าย ๆ ของดาวเทียมผู้ล่า และยกระดับความสามารถในการหลบเลี่ยงการถูกไล่ล่าของตนเอง และกฎของเกมก็เริ่มเปลี่ยนไป และถูกปรับใช้ด้วยเทคนิคที่ซับซ้อนมากขึ้น เช่น การทำงานเป็นทีม การวางแผน และการหลอกล่อ ซึ่งเพิ่มโอกาสในการจับกุมตัวมากขึ้น
- ศ. ตั้ง ยังเผยว่า “หลังจากการฝึกฝนมากกว่า 220,000 รอบ ฝ่ายถูกไล่ล่า ก็ไม่ทำผิดพลาดอีกต่อไป”
ที่มาของข้อมูล eurasiantimes.com
ที่มาของรูปภาพ Twitter