รีเซต

WARRIX น่าจับตา! 'หยวนต้า' มองปีแรกกำไรลุ้น Upside กว่าเสี่ยงขาลง

WARRIX น่าจับตา! 'หยวนต้า' มองปีแรกกำไรลุ้น Upside กว่าเสี่ยงขาลง
ทันหุ้น
11 มีนาคม 2568 ( 12:34 )
13

#ทันหุ้น - บล.หยวนต้า ส่องหุ้น บริษัท วอริกซ์ สปอร์ต จำกัด (มหาชน) หรือ WARRIX ประชุมนักวิเคราะห์วันที่ 10 มี.ค. คงมุมมองเชิงบวก มองอาจเป็นปีแรกที่กำไรถูก Upgrade มากกว่า Downgrade

 

ทั้งนี้ บริษัทยังคงเป้ารายได้ปี 2569 ที่ 2,700 ลบ. (ประมาณการของฝ่ายวิจัยคาดที่ 2,257 ลบ.) โดยตั้งเป้ารายได้ปี 2568 ที่ 2,000 ลบ. (+29% YoY) สูงกว่าประมาณการของฝ่ายวิจัย 6% ด้วย GPM ที่ไม่ต่ำกว่า 50% เทียบกับประมาณการของฝ่ายวิจัยที่ 49.2% และปี 2567 อยู่ที่ 49.0% 

 

ตลอดช่วง Q3-Q4/67 ที่มีการเปลี่ยนตัวแทนบริหารคลังสินค้าที่หมดสัญญาไปเป็นรายใหม่ต่อเนื่องถึงรายใหม่ที่ไม่สามารถส่งสินค้าได้ทัน ทำให้ลูกค้ายกเลิกคำสั่งซื้อไป รายได้ของบริษัทถูก กระทบไปจากประเด็นนี้เกือบ 200 ลบ. ซึ่งบริษัทปรับแผนมาเช่าคลังสินค้าและใช้รถขนส่งและคนของบริษัทในการบริหารจัดการเอง โดยลงทุนราว 10 ลบ. ปัจจุบันเริ่มใช้การกระขายสินค้าของบริษัทเองราว 50% และจะครบ 100% ในวันที่ 1 พ.ค. นี้ ทั้งนี้เพื่อรองรับการเติบโตของช่องทางออนไลน์  

 

บริษัทตั้งเป้ารายได้จากช่องทางออนไลน์ที่ 25% หรือราว 500 ลบ. เนื่องจากเป็นช่องทางที่มีความเป็น Seasonal น้อยกว่าสินค้าหน้าร้าน และมี GPM สูงกว่ากลุ่ม Traditional trade ที่ต้องให้ส่วนลดค่อนข้างมาก ทำให้ GPM สูงขึ้น 

 

การตั้ง JV ร่วมกับ KSL ซึ่ง KSL เป็นลูกค้ากลุ่ม Traditional trade รายใหญ่ที่สุด 1 ใน 2 อันดับแรกมียอดขายหลักจากการขายออนไลน์ และขายสินค้าของ WARRIX ราว 85% ของยอดขายทั้งหมด ทั้งนี้การ JV จะช่วยลดความเสี่ยงจากการพึ่งพาลูกค้ารายใหญ่ นอกจากนี้ธุรกิจทั้งหมดของ KSL จะมาอยู่ภายใต้ JV และ KSL ถือหุ้น 49% ท าให้ WARRIX จะสามารถรวมงบการเงินของ JV ได้ บริษัทตั้งเป้ารายได้ทั้งปี 2568 ของ JV ที่ 250 ลบ. กำไรสุทธิราว 20 – 30 ลบ. เป็นส่วนของ WARRIX ราว 51% (ยังไม่รวมในประมาณการของฝ่ายวิจัย) เริ่มรับรู้ในช่วง Q2/68 เป็นต้นไป  

 

นอกจาก KSL จะเป็นลูกค้ารายใหญ่ ยังเป็นลูกหนี้การค้ารายใหญ่เช่นกันซึ่งใช้ระยะเวลาเก็บหนี้นานเนื่องจากจำนวนธุรกรรมค่อนข้างมากและ KSL ยังไม่มีระบบที่ดีพอทำให้การเช็คยอดและการจ่ายหนี้ค่อนข้างนาน ดังนั้นการตั้ง JV ทำให้ลดความเสี่ยงในการเก็บหนี้ เพราะเป็นส่วนหนึ่งของบริษัทแล้ว บริษัทมีกรรมการควบคุมการดำเนินงาน การรวมงบการเงินจะไม่มีลูกหนี้การค้า ส่วนนี้ทำให้ระยะเวลาการเก็บหนี้ของ WARRIX ในงบการเงินรวมสั้นลงอย่างมีนัยสำคัญ  

 

ยอดขายสินค้า WARRIX ใน Outlet ของ Himaxx ในจีนค่อนข้างดี และมีโอกาสดีกว่าเป้าของ Himaxx โดย Himaxx มี Outlet จำนวน 24 แห่งในเซี่ยงไฮ้ โดยขายสินค้าของ WARRIX จำนวน 22 แห่ง Himaxx มีแผนเพิ่มสาขาให้เป็น 100 แห่งภายในสิ้นปีนี้ จากปัจจุบันมี 42 แห่ง ยอดขายสินค้าของ WARRIX ช่วงเดือน ก.ย. – ธ.ค. 2567 อยู่ที่ 13 ล้านหยวนหรือราว 60 ลบ. ขณะที่ 2 เดือนแรกของปี 2568 มียอดขายไปแล้ว 106 ลบ. เทียบกับเป้าทั้งปีที่ 250 ลบ. ถือว่าทำได้ดีกว่าแผน โดย WARRIX จะเริ่มได้ Royalty fee ในปี 2569 เป็นปีแรก ขณะที่ในปี 2569 บริษัทฯ มีการปรับแผนจะไม่ส่งสินค้าจากไทยไปขายในจีนแล้ว เนื่องจาก Position สินค้าในจีนวางตำแหน่งค่อนข้าง Premium การนำของไทยไปขายในราคาที่แตกต่างกันมากอาจทำให้ภาพลักษณ์เสีย แต่จะนำสินค้าบางตัวจากจีนมาขายแทน และอยู่ระหว่างใช้ Sourcing จากผู้ผลิตเดียวกับ Himaxx เพื่อให้ได้ต้นทุนที่ถูกลง โดยจะเริ่มต้นจากสินค้ากลุ่มเสื้อโปโลในช่วงกลางปี ซึ่งจะลดต้นทุนได้ราว 10%  

 

รายได้ 2 เดือนแรกของปีเติบโตแล้วไม่น้อยกว่า 20% YoY ขณะที่ Q1/67 มีขาดทุนจากบริษัทในสิงคโปร์แต่ Q1/68 ไม่มี จึงคาดว่ากำไร Q1/68 ควรเติบโตไม่น้อยกว่ารายได้ คาดเบื้องต้นที่ราว 25 ลบ.+/- ราคาหุ้นปัจจุบันซื้อขายด้วย PER 2568 ต่ำเพียง 11.0 เท่า และหากพิจารณาประเด็น ต่างๆ ข้างต้นจะเห็นได้ว่าประมาณการกำไรของฝ่ายวิจัยมีโอกาสปรับขึ้นมากกว่าลง คงคำแนะนำซื้อ ราคาเหมาะสม 6.50 บาท

 

 

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง