นานาชาติเริ่มส่งความช่วยเหลือกาซา หลังบรรลุข้อตกลงหยุดยิง

Middle East: ขบวนรถบรรทุกความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมขบวนแรก เดินทางถึงฉนวนกาซาแล้วในวันเสาร์ (22 พฤษภาคม) หลังข้อตกลงหยุดยิง ระหว่างอิสราเอล และกลุ่มติดอาวุธปาเลสไตน์มีผลบังคับใช้ ขณะที่ชาวปาเลสไตน์หลายพันคนเดินทางกลับเข้าบ้าน เพื่อตรวจสภาพความเสียหาย ซึ่งเจ้าหน้าที่กล่าวว่า อาจต้องใช้เวลานานหลายปีในการสร้างเมืองขึ้นใหม่

รถบรรทุกจากหน่วยงานความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมหลายแห่ง ซึ่งรวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับสหประชาชาติ หรือ UN เริ่มนำเวชภัณฑ์ที่จำเป็น อาหารและเชื้อเพลิง ทยอยเข้าสู่กาซา หลังจากอิสราเอลเปิดจุดผ่านแดนเคเรม ชาลอม อีกครั้ง

กองทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ หรือ UNICEF แถลงว่า มีประชาชนมากกว่า 100,000 คนในกาซา ซึ่งควบคุมโดยกลุ่มติดอาวุธฮามาส ทิ้งบ้านเรือนหลบหนี และเกือบ 800,000 คน ไม่สามารถเข้าถึงน้ำประปาได้ 

เจ้าหน้าที่ปาเลสไตน์ กล่าวว่า จะต้องใช้เงินจำนวนมหาศาลหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในการฟื้นฟูกาซา พื้นที่นี้ถือเป็นดินแดนยากจน ที่กำลังประสบปัญหาการระบาดของไวรัสโควิด-19 ด้วย

มาร์กาเรต แฮร์ริส โฆษกหญิงขององค์การอนามัยโลก หรือ WHO เรียกร้องให้ส่งความช่วยเหลืออุปกรณ์ด้านสาธารณสุขและบุคลากร ในกาซาทันที โดยบอกว่า หน่วยงานด้านสาธารณสุขของกาซา เสี่ยงที่จะรับมือกับผู้บาดเจ็บหลายพันคนจนล้นโรงพยาบาล 

วันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (20 พฤษภาคม) กระทรวงการเคหะของกาซา แถลงว่า มีที่พักอาศัย 1,800 ยูนิต ที่ไม่แข็งแรงพอที่จะอยู่อาศัย และ 1,000 หลังถูกทำลายพังยับเยิน 

ฟาบริซิโอ คาร์โบนี ผู้อำนวยการคณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ (The International Committee of The Red Cross) หรือ ICRC ประจำตะวันออกกลาง กล่าวว่า ความเสียหายเกิดขึ้นไม่ถึงสองสัปดาห์ แต่จะใช้เวลาหลายปี หรือหลายสิบปี ในการสร้างขึ้นมาใหม่

การต่อสู้กันระหว่างอิสราเอลและกลุ่มติดอาวุธปาเลสไตน์ในกาซา เริ่มต้นขึ้นในวันที่ 10 พฤษภาคม หลังเกิดความตึงเครียดระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์พุ่งสูงขึ้นตลอดระยะเวลาหลายสัปดาห์ ซึ่งมีการปะทะกันหลายครั้งที่มัสยิดอัล-อักซอ สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของทั้งชาวมุสลิมและยิว ในพื้นที่ด้านตะวันออกของเยรูซาเลม 

กลุ่มฮามาสเริ่มยิงจรวดเข้าใส่อิสราเอล หลังคำเตือนให้อิสราเอลถอนกองกำลังรักษาความมั่นคงออกจากสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ ซึ่งก็จุดชนวนให้อิสราเอลตอบโต้ด้วยปฏิบัติการโจมตีทางอากาศ มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 248 คน รวมทั้งผู้หญิงและเด็กมากกว่า 100 คน 

ส่วนอิสราเอลระบุว่า ได้สังหารสมาชิกกลุ่มติดอาวุธอย่างน้อย 225 คน ระหว่างการสู้รบ แต่กลุ่มฮามาสไม่ได้เปิดเผยจำนวนที่แท้จริงของนักรบที่เสียชีวิต 

ส่วนในอิสราเอล มีผู้เสียชีวิต 13 คน ซึ่งรวมทั้งเด็ก 2 คน และทหารอิสราเอล 1 นาย 

ขณะเดียวกัน ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐฯ แถลงว่า การแก้ปัญหา 2 รัฐ เป็นวิธีเดียวที่จะคลี่คลายความขัดแย้ง และกล่าวเพิ่มเติมว่า คงไม่มีสันติภาพจนกว่าภูมิภาคนี้ จะยอมรับอย่างชัดเจนต่อสิทธิการดำรงอยู่ของอิสราเอล เขากล่าวด้วยว่า สหรัฐฯ จะขอความช่วยเหลือจากนานาชาติในการฟื้นฟูกาซา ที่ได้รับความเสียหายอย่างหนัก