ที่แท้คนคุ้นเคย! มือมีดฟีนสาวอสม.ดับมอบตัวแล้ว ตร.เผยชนวนสังหารโหด

ที่แท้คนคุ้นเคย! มือมีดฟีนสาวอสม.ดับโผล่มอบตัวแล้ว เป็นคนหมู่บ้านใกล้กัน ญาติยื่น 4 แสนประกันตัว แจ้งข้อหาหนัก ตร.เผยชนวนสังหารโหด

กรณีคนร้ายใช้อาวุธมีดฟัน นางธิราณี แดงใหญ่ อายุ 33 ปี ชาว ต.กระโทก อ.โชคชัย จนนางธิราณี ซึ่งเป็นอสม. และเป็นนายหน้าขายที่ดิน ได้รับบาดเจ็บสาหัส ก่อนคนร้ายจะขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป และนางธิราณีฯ ทดพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในเวลาต่อมา ที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ตามที่เสนอข่าวไปนั้น

ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 26 ก.ค. พ.ต.อ.สุรจิตร์ วิวรรธน์สมบัติ ผกก.สภ.โชคชัย เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โชคชัย ลงพื้นที่ตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ และเรียกพยานในหมู่บ้านมาสอบปากคำกว่า 10 ราย ซึ่งก็ได้เบาะแสผู้ต้องหารายนี้ว่า เป็นคนในหมู่บ้านใกล้เคียงกัน

ต่อมาก็มีญาติของผู้ต้องหา ติดต่อมาที่สภ.โชคชัย เพื่อขอนำตัวผู้ต้องหามามอบตัว กระทั่งเมื่อวันที่ 25 ก.ค. เวลา 18.30 น. นายเชาว์ ออมกระโทก อายุ 58 ปี ชาวบ้านบิง อ.โชคชัย จ.นครราชสีมา ผู้ต้องหา เดินทางมาพร้อมกับญาติ เข้ามามอบตัวกับพนักงานสอบสวน สภ.โชคชัย

นายเชาว์ สารภาพว่ามูลเหตุเกิดจากความขัดแย้งกับผู้ตาย เนื่องจากผู้ตายซึ่งเป็นนายหน้าขายที่ดิน นำที่ดินของตนประมาณ 11 ไร่ ไปขายฝากกับนายทุนรายหนึ่ง ในราคา 2,000,000 บาท ซึ่งเป็นราคาที่ต่ำกว่าราคาที่ดินจริงๆ หลายเท่า แต่ต่อมาเมื่อตนจะไปไถ่ถอนคืน กลับไถ่ถอนไม่ได้ เพราะขาดสัญญาไปนานแล้ว จึงไม่พอใจอย่างมาก เมื่อมาทวงถามกับนางธิราณี ก็ได้รับการบ่ายเบี่ยงมาโดยตลอด จึงเกิดบันดาลโทสะ ใช้มีดอีโต้ฟันนางธิราณีจนเสียชีวิตดังกล่าว ยืนยันว่าคดีนี้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีชู้สาวแน่นอน

โดยภายหลังจากผู้ต้องหามามอบตัวแล้ว ญาติก็นำหลักทรัพย์มูลค่ากว่า 400,000 บาท พร้อมกับมีญาติที่เป็นข้าราชการครู มาเซ็นรับรองค้ำประกันให้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเห็นว่าไม่มีพฤติกรรมหลบหนี จึงอนุญาตให้ประกันตัวออกไปได้ โดยพนักงานสอบสวนแจ้งข้อกลาวหา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ซึ่งผู้ต้องหาก็รับสารภาพทุกข้อกล่าวหา และผู้ต้องหาไม่ประสงค์จะทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ทั้งนี้ก็เป็นสิทธิ์ของผู้ต้องหาและไม่มีผลกับรูปคดีแต่อย่างใด

ต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านของผู้ตายที่ ต.กระโทก อ.โชคชัย จ.นครราชสีมา โดยที่บ้านตั้งศพบำเพ็ญกุศลตามประเพณี มีชาวบ้านมาช่วยงานเป็นจำนวนมาก ซึ่งบรรยากาศเป็นไปด้วยความเศร้าโศกเสียใจ

นายชลิต แดงใหญ่ สามีผู้ตาย กล่าวว่า ภายหลังจากที่ทราบข่าวว่าภรรยาถูกคนร้ายใช้มีดอีโต้ฟันเสียชีวิต ก็รู้สึกตกใจมาก เพราะไม่รู้ว่าสาเหตุมาจากอะไร ภรรยาไม่เคยเล่าเรื่องความขัดแย้งอะไรกับใครให้ฟังมาก่อน ส่วนตนนั้นไปทำงานอยู่ที่ จ.สระบุรี นานๆ ครั้งจะมาเยี่ยมบ้าน รู้แต่เพียงว่าภรรยาประกอบอาชีพเป็นนายหน้าค้าที่ดิน

ส่วนนายเชาว์ผู้ก่อเหตุนั้น ก็เป็นคนคุ้นเคยกัน อยู่หมู่บ้านใกล้กัน ไม่คิดว่าจะฆ่าภรรยาตนได้ลงคอ เรื่องความขัดแย้งขายที่ดินนั้น ตนรู้แต่ว่าเคลียร์กันแล้วตั้งแต่ต้นปี แต่ไม่ได้รู้รายละเอียดอะไร ดังนั้นเมื่อผู้ก่อเหตุยอมมามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว ก็ขอให้เป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมาย

พร้อมที่จะให้อโหสิกรรมกับผู้ก่อเหตุ หากจะมากราบขอขมาศพก็ได้ เพราะถูกจับดำเนินคดีแล้ว ตนไม่ติดใจเคียดแค้นอะไรอีก ส่วนหลังจากนี้ก็จะตั้งหน้าตั้งตาทำงาน ส่งเงินมาให้ลูกสาว 2 คน วัย 14 ปี กับ 8 ปี ซึ่งอยู่กับตา ยาย และกำลังเรียนหนังสืออยู่ เพื่อให้เขามีอนาคตที่ดีต่อไป