วันนึงที่ผมได้เห็นข่าวดีจากการได้เห็นเพจทรูอินเทรน ซึ่งเปิดโอกาสให้นักเขียนคนพิเศษของเราที่มีบัญชีทรูไอดีและเคยมีผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บไซต์ได้เข้าร่วมส่งผลงานภายใต้โจทย์ “เรื่องเล่าจากเจ้าถิ่น” ผมเลยนึกอยากที่จะค้นหาเรื่องเล่าจากเจ้าถิ่น ผมกับเพื่อนจึงลง "ชุมชน" เพื่อหาเรื่องเล่าจาก "เจ้าถิ่น" และเจ้าถิ่นที่พวกเราเลือกนั้นคือ เจ้าถิ่นจากชุมชนสุเหร่าใหม่เจริญผมกับเพื่อนเริ่มต้นวางแผนการเตรียมตัวตัังแต่เช้า และเริ่มค้นหาว่า "เจ้าถิ่น" ในชุมชนสุเหร่าใหม่เจริญนี้คือใคร ความคิดของผมก็ปิ๊งแว๊บขึ้นมาทันทีว่า บรรดาเจ้าถิ่นของที่นี่ หนีไม่พ้นที่จะรวมตัวกันที่ "สุเหร่า" อย่างแน่นอนสุเหร่าใหม่เจริญตั้งอยู่ที่ตำบลบางโพธิ์เหนือ อำเภอสามโคก จังหวัดปทุมธานี สถานที่นี้เต็มไปด้วยชีวิตชีวาเมื่อผมเข้าไปถึงเนื่องจากช่วงเวลาที่ผมลงไปหาเจ้าถิ่นนั้น ผมไปช่วงที่เจ้าถิ่นทุกคนกำลังเข้าเข้ามาที่สุเหร่าเพื่อมาละหมาดตามพิธีกรรมทางศาสนา ผมและเพื่อนๆ เริ่มทักทายผู้คน และหา "เรื่องเล่า" ทันใดนั้นก็มีชายหนุ่มคนหนึ่งดูภูมิฐานมีเมตตาเดินเข้ามาหา และถามพวกผมว่า มาทำอะไร? ผมรีบตอบไปอย่างทันทีว่า "ผมกับเพื่อนมาลงชุมชนครับ มาสำรวจชุมชนเพื่อหาเรื่องราวไปเขียนบทความ" ชายคนนั้นเริ่มแนะนำตัวเองว่า เขาเป็นอิหม่าม ผมกับเพื่อนรีบยกมือสวัสดีทันที และนึกในใจว่า "เจอเจ้าถิ่นแล้ว" อิหม่ามเริ่มพูดกับพวกเราว่า จะมาหาเรื่องเล่าเหรอ มาๆ ตามผมมา ผมจะแนะนำสุเหร่าใหม่เจริญให้ฟัง พร้อมๆ กับพาเยี่ยมชมบรรยากาศภายในสุเหร่าใหม่เจริญตั้งแต่โถงอาคารรับแขกด้านนอก สถานที่ประกอบพิธีกรรมทางศาสนา และที่สำคัญคือ ตู้เก็บคัมภีร์ที่ทุกๆ คนพร้อมที่จะหยิบมาเปิดอ่านด้วยความศรัทธาอิหม่ามเริ่มเล่าประวัติของชุมชนนี้ว่า"...ชุมชนสุเหร่าใหม่เจริญ เดิมอยู่ที่ตำบลสวนพริกไทย อำเภอเมือง จังหวัดปทุมธานี ต่อมาได้กระจายตัวออกมาอยู่อาศัยในบริเวณรอบนอกคือ ตำบลคูบางหลง อำเภอลาดหลุมแก้ว จังหวัดปทุมธานี โดยมีการตั้งเป็นชุมชนและได้สร้างมัสยิดขึ้น นั่นคือมัสยิดเราะห์มาตุลเลาะห์ หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่ามัสยิด 200 ปี เวลาต่อมาเมื่อชุมชนเริ่มมีการขยายตัวผนวกกับมีผู้ศรัทธาในอิสลามมากขึ้นจึงได้รวมตัวกันเป็นชุมชนและด้วยระยะทางที่ห่างไกลจากมัสยิดเดิม จึงได้มีการสร้างมัสยิดแห่งใหม่ขึ้นซึ่งก็คือมัสยิดนูรุ้ลอิสลามหรือที่สุเหร่าใหม่เจริญ มัสยิดแห่งนี้มีอายุประมาณ100กว่าปี และมีผู้นำหรืออิหม่ามมาถึงปัจจุบันจำนวน 4 รุ่น ได้แก่ รุ่นที่ 1 ชื่อคุณซักการี มะหะหมัด รุ่นที่ 2 คุณมะนุวัน โมหะมัด รุ่นที่ 3 คุณอับดุลวาฮับ มะหะหมัด และรุ่นที่ 4 คือผมเอง อับดุลเลาะห์ มะหะหมัด..."อิหม่ามเล่าต่อว่า"...คนในชุมชนที่นี่ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพรับจ้าง พวกเราอยู่กันอย่างพอเพียงตามหลักศาสนา ชาวบ้านที่นี่มีทักษะทางงานฝีมือจากการที่ชาวบ้านรวมตัวกันก่อตั้งกลุ่มขึ้นมาประกอบกับทางภาครัฐได้จัดโครงการต่างๆ เพื่อช่วยเหลือพัฒนาทักษะให้ เช่น โครงการส่งเสริมทักษะอาชีพด้านช่างเชื่อม การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) ในพื้นที่ได้เข้ามาเพื่อส่งเสริมให้ชาวบ้านประกอบอาชีพโดยการทำขนมหวานและเครื่องแกง และโครงการหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ (OTOP) เข้ามาสอนให้ชาวบ้าน..."อย่างไรก็ตาม "...ชีวิตของชาวบ้าน ไม่ว่าจะประสบกับความเปลี่ยนแปลงอะไร พวกเขาก็จะมีหลักศาสนาคอยชี้นำ..." อิหม่ามทิ้งท้ายหลังจากนั้นพวกเราก็คุยกันเรื่องสัพเพเหระสักพัก ผมจึงขอตัวลากลับ ความรู้สึกประทับใจคือ เจ้าถิ่นที่นี่มีความเป็นมิตรกับผมมาก แรกที่ผมเข้าไปหา เจ้าถิ่นหาขนม หาน้ำหาท่ามาให้ผมและเพื่อทาน ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ ผมกับเพื่อเคยมีความรู้สึกว่า ผมกับเพื่อจะทำตัวอย่างไรให้ไม่ให้รู้สึกแปลกแยก แตกต่าง และไม่คุ้นเคย แต่เจ้าถิ่นกลับมาต้อนรับผมกับเพื่อนๆ อย่างดี เป็นกันเองจนผมกับเพื่อนเกิดความคุ้นเคยและสนิทสนมกับเจ้าถิ่นอย่างรวดเร็ว