ผู้ประท้วงเนปาลเสนอชื่อ "อดีตประธานศาลฎีกาหญิง" นั่งนายกฯ เฉพาะกาล

ตัวแทนของกลุ่มผู้ประท้วง "Gen Z" ในเนปาล ประกาศต่อกลุ่มผู้ชุมนุมที่รวมตัวกันอยู่หน้ากองบัญชาการกองทัพเนปาล ว่าพวกเขาเสนอชื่ออดีตประธานศาลฎีกาหญิง "สุชิลา การ์กี" (Sushila Karki) เป็นนายกรัฐมนตรีเฉพาะกาล ขณะกาฐมาณฑุอยู่ภายใต้เคอร์ฟิว เรียกเสียงเชียร์จากกลุ่มผู้ประท้วงดังกึกก้อง 

ขณะที่ทหารยังรักษาความปลอดภัยบริเวณอาคารรัฐสภา และลาดตระเวนตามถนนที่ว่างเปล่าในกรุงกาฐมาณฑุ ซึ่งอยู่ภายใต้คำสั่งเคอร์ฟิว หลังเกิดการประท้วงต่อต้านการคอร์รัปชันที่รุนแรงติดต่อกันสองวัน จนทำให้ นายกรัฐมนตรี เค.พี.ชาร์มา โอลี ลาออกจากตำแหน่ง

กองทัพเนปาล แถลงว่า ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกำลังประสานงานกันเพื่อจัดการกับสถานการณ์ และแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น ขณะเดียวกัน สื่อท้องถิ่นรายงานว่า มีความพยายามจัดการเจรจาระหว่างเจ้าหน้าที่รัฐกับกลุ่มผู้ประท้วง แม้ยังไม่มีรายละเอียดที่ชัดเจน 

อย่างไรก็ตาม หนึ่งในข้อเรียกร้องของผู้ชุมนุมคือการให้ สุชิลา การ์กี อดีตประธานศาลฎีกา ผู้เป็นที่รู้จักในด้านความโปร่งใสและการต่อต้านคอร์รัปชัน เข้าดำรงตำแหน่ง นายกรัฐมนตรีเฉพาะกาล

รามาน กุมาร การ์มา เลขาธิการสมาคมทนายความศาลฎีกา กล่าวว่า กลุ่มผู้ประท้วงได้ปรึกษากับเขาเกี่ยวกับการเสนอชื่อการ์กี และเขายืนยันว่า เธอ “ตอบรับ” ข้อเสนอเมื่อได้รับการร้องขอ ซึ่งการ์กี กล่าวกับสถานีข่าว CNN-News18 ของอินเดียว่า เมื่อพวกเขาขอให้เธอรับตำแหน่ง เธอก็ยอมรับ

ตัวแทน “Gen Z” กล่าวเพิ่มเติมกับผู้สื่อข่าวว่า พวกเขาได้พบกับเจ้าหน้าที่ทหาร หลังการประกาศ และเสนอชื่อการ์กี อย่างเป็นทางการให้เป็นผู้นำรัฐบาลเฉพาะกาลในช่วงเปลี่ยนผ่าน

อย่างไรก็ตาม เหตุวุ่นวายครั้งนี้เริ่มต้นจากการสั่งแบนสื่อสังคมออนไลน์ ซึ่งรัฐบาลประกาศใช้เมื่อสัปดาห์ก่อน แต่ได้ยกเลิกไปหลังจากเกิดเหตุความรุนแรงในวันจันทร์ ที่ตำรวจยิงแก๊สน้ำตาและกระสุนยางใส่กลุ่มผู้ชุมนุม 

โดยผู้ประท้วงส่วนใหญ่เป็นเยาวชน ที่แสดงความไม่พอใจรัฐบาลล้มเหลวในการแก้ปัญหาการคอร์รัปชัน และการขาดโอกาสทางเศรษฐกิจ ทำให้การเคลื่อนไหวครั้งนี้ถูกขนานนามว่า “การประท้วงของเจน Z” (Gen Z protests)

ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุขของเนปาลระบุว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากการประท้วงเพิ่มขึ้นเป็น 25 คน ในวันพุธ ขณะที่ผู้ได้รับบาดเจ็บมีจำนวน 633 คน