"Temu ถูกบุกตรวจปมเงินอุดหนุนจีนเสี่ยงบิดเบือนการแข่งขัน

แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซสัญชาติจีน Temu กำลังเผชิญแรงกดดันรอบใหม่ในยุโรป หลังมีรายงานว่าสำนักงานใหญ่ประจำยุโรปในกรุงดับลิน ไอร์แลนด์ ถูกเจ้าหน้าที่คณะกรรมาธิการยุโรปเข้าตรวจค้นแบบไม่แจ้งล่วงหน้า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา จากความกังวลเรื่องการได้รับเงินอุดหนุนหรือการสนับสนุนจากภาครัฐจีนในลักษณะที่อาจบิดเบือนการแข่งขันภายในตลาดอียู การลงพื้นที่ครั้งนี้ดำเนินการภายใต้กฎว่าด้วยเงินอุดหนุนจากต่างประเทศ หรือ Foreign Subsidies Regulation ที่อียูออกมาเพื่อรับมือกับการแข่งขันจากบริษัทนอกภูมิภาคที่อาจได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลประเทศต้นทาง ทั้งในรูปแบบเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ การจัดหาเงินทุนต่ำกว่าต้นทุนจริง สิทธิประโยชน์ทางภาษี หรือมาตรการสนับสนุนอื่น ๆ ซึ่งหากพบการกระทำผิด กฎดังกล่าวเปิดช่องให้อียูสามารถปรับบริษัทได้สูงสุดถึงร้อยละ 10 ของรายได้รวมต่อปี

แรงกดดันต่อ Temu และแพลตฟอร์มจากจีนเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง หลังอียูเผชิญกระแสนำเข้าสินค้าราคาต่ำจากจีนจำนวนมาก โดยอาศัยข้อยกเว้นภาษีศุลกากรสำหรับพัสดุที่มีมูลค่าต่ำกว่า 150 ยูโร ผู้ค้าปลีกยุโรปจำนวนมากมองว่า ระบบนี้ทำให้แพลตฟอร์มอย่าง Temu และ Shein ได้เปรียบด้านราคาเหนือผู้ประกอบการในยุโรป จนคณะกรรมาธิการยุโรปมีแผนยกเลิกข้อยกเว้นดังกล่าวภายในสิ้นปีหน้า

แม้คณะกรรมาธิการยุโรปไม่ได้เปิดเผยชื่อบริษัทและสถานที่ตรวจค้นอย่างเป็นทางการ แต่แหล่งข่าวระบุว่าเป้าหมายคือ Temu ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ PDD Holdings ยักษ์ใหญ่ด้านอีคอมเมิร์ซจากจีน Temu เติบโตอย่างรวดเร็วจากการขายสินค้าหลากหลายตั้งแต่สมาร์ตโฟนไปจนถึงของใช้ในบ้านในราคาถูกแบบหั่นไม่ยั้ง และในยุโรปมีผู้ใช้งานเฉลี่ยต่อเดือนแล้วราวกว่า 100 ล้านบัญชี ทั้งที่เพิ่งเปิดให้บริการในตลาดยุโรปเมื่อเดือนเมษายน 2023

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ Temu ถูกเพ่งเล็งในยุโรป ก่อนหน้านี้ คณะกรรมาธิการยุโรปได้เปิดการสอบสวนภายใต้กฎหมาย Digital Services Act ว่า Temu ดูแลการขายสินค้าในแพลตฟอร์มเพียงพอหรือไม่ โดยเฉพาะสินค้าที่อาจผิดกฎหมายหรือไม่เป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัยของอียู ขณะที่ฝั่งจีนยังรักษาดุลการค้าเกินดุลระดับสูงเป็นประวัติการณ์ ส่งออกสินค้าจำนวนมากมายังยุโรป ออสเตรเลีย และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ท่ามกลางความตึงเครียดด้านการค้าและภาษีกับสหรัฐฯ ที่ยังยืดเยื้อ

กรณี Temu จึงถูกจับตามองในฐานีตัวอย่างสำคัญของศึกการค้าระหว่างอียูกับจีน ที่ผสมผสานทั้งประเด็นการแข่งขันที่เป็นธรรม ความมั่นคงทางเศรษฐกิจ และการคุมเข้มแพลตฟอร์มดิจิทัลข้ามพรมแดนในยุคอีคอมเมิร์ซครองโลก