สวัสดีค่ะ ช่วงนี้สภาพแวดล้อมดูแปลก ๆ นะคะ วันหนึ่งบางทีก็มีทั้งฟ้าหลัว เมฆครึ้ม ลมแรง แดดจัด ดูข่าวส่วนมากก็เป็นข่าวเกี่ยวกับเรื่องร้าย ๆ ร้อน ๆ ไม่ค่อยมีข่าวดี เป็นบรรยากาศที่ออกเครียด ๆ ตึง ๆ อึดอัด ผู้เขียนเลยคิดว่าน่าจะเขียนเกี่ยวกับเรื่องที่ละมุนหัวใจ ทำให้เราต่างก็มีกำลังใจ อยากต่อสู้กับอุปสรรค มีแรงบันดาลใจที่จะสร้างสรรค์เรื่องราวดี ๆ นวัตกรรมใหม่ ๆ กันนะคะ เรื่องที่ว่าคือเรื่อง " ความรัก " ค่ะ ตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบัน ความรักก็อยู่คู่โลกนี้มาตลอด ไม่ว่าจะเป็นรักระหว่างคนกับคน รักระหว่างคนกับสัตว์ รักระหว่างสัตว์กับสัตว์ รักสำหรับบางชนชั้น บางสถานการณ์ก็พบอุปสรรคมากมายแต่เพื่อความรัก หลายคนก็พยายามฟันฝ่าเพื่อให้สามารถรักษาไว้ซึ่งความรัก เราจึงมีงานเขียน งานละคร งานภาพยนต์ งานมโหรสพ ลิเก และอื่น ๆ อีกมากมายที่เกี่ยวข้องกับความรัก "คำว่ารัก" และการแสดงให้รู้ว่า "รัก" นั้นเป็นสารสำคัญและศักดิ์สิทธิ์ต่อหัวใจเพราะเป็นพลังบวกทำให้เกิดความคิดดี ๆ งาม ๆ เป็นยาอายุวัฒนะและเป็นตัวช่วยทำให้ยาตำราต่าง ๆ กิดประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น เป็นเครื่องเยียวยาที่ช่วยประสานและสมานรอยร้าวได้เกือบทุกกรณี นอกจากนี้ยังเป็นสิ่งมีค่าที่ไม่ต้องซื้อหา ผู้เขียนเกิดจากครอบครัวที่ฐานะค่อนไปทางยากจน แต่ก็เป็นคนที่มั่นใจในตัวเอง เป็นคนมีพลังในการสู้ชีวิต เพราะมีความรักจากพ่อแม่เป็นทุน มีเบ้าหลอมจากความห่วงใย เอาใจใส่จากคนในครอบครัว วิธีการสื่อให้รู้ว่ารักลูกจากพ่อกับแม่ของผู้เขียนที่แสดงให้เห็น ให้รับรู้คือ การเอาใจใส่ดูแลทั้งอาหารการกิน ความรู้สึก ความเป็นอยู่ ท่านทั้งสองตรากตรำทำงานเพื่อหาเงินมาซื้อหาอาหาร ค่าใช้จ่ายในการเล่าเรียน ขณะเดียวกันก็ต้องแบ่งเงินส่วนหนึ่งเก็บออมไว้สร้างบ้านเพื่อเปลี่ยนจากกระท่อมหลังคาจากเป็นเรือนไม้ใต้ถุนสูงหลังคาจั่วมุงสังกะสี จากฝาไม้ไผ่ขัดแตะเป็นฝาไม้จริง ตั้งแต่เล็กจนโต แม่จะออกจากบ้านแต่เช้ามืดเพื่อไปขายของที่ตลาดในเมือง วิธีไปคือนั่งรถโดยสารซึ่งเป็นรถสองแถวคันใหญ่ กลับจากขายของก็เกือบมืดซึ่งเป็นเวลาที่รถเมล์เที่ยวสุดท้ายวิ่ง แม่มักกลับมาพร้อมตะกร้าใส่ของกินต่าง ๆ ทั้งของสดสำหรับไว้ทำกับข้าว ขนม ผลไม้ (ที่เหลือจากการ ขาย) แม่เคยบอกว่า จะยากดีมีจนยังไง ท้องก็ต้องอิ่มไว้ก่อน เพราะแม่เคยกินไม่อิ่มมาก่อนเลยเป็นเด็กที่ไม่แข็งแรงเท่าที่ควร แม่ไม่เคยแสดงความรักด้วยการกอด ดูเป็นเรื่องเคอะเขินสำหรับแม่ แต่วิธีบอกให้รู้ว่ารักคือความห่วงใยและใส่ใจ แม้จะเหน็ดเหนื่อยจากการขายของหาบเร่แต่เมื่ออยู่ที่บ้านแม่ไม่เคยบ่นว่าเหนื่อย แม่มักคอยอยู่เป็นเพื่อนเวลาทำการบ้าน แม่สอนไม่เป็นเพราะแม่จบป.4 และเขียนอ่าน ไม่คล่อง แม่จึงปอกผลไม้มาให้ลูกบ้าง ขนมบ้าง บางครั้งเห็นลูกทำการบ้านจนดึกแม่ก็หวีผมให้บ้าง นวดไหล่ให้บ้างเพื่อผ่อนคลาย จำได้ว่าแม่ไม่เคยตีผู้เขียนและน้องเลย อย่างมากก็บ่น บ่นจนผู้เขียนยอมปรับปรุงตัวเอง ช่วงที่เรียนระดับอุดมศึกษา ผู้เขียนสอบติดที่มหาวิทยาลัยสงขลานครินท์ซึ่งอยู่ที่จังหวัดปัตตานี ห่างจากบ้านเกิดของผู้เขียนเกือบ 1,000 กิโลเมตร แม่ก็นั่งรถไฟชั้นสามไปเยี่ยมพร้อมของกินอีกตามเคย สำหรับรถไฟชั้นสามนั้นเป็นที่รู้กันว่าราคาถูกที่สุด ต้องยืนไปก่อนแล้วก็หาที่นั่งตามพื้นรถ เนื่องจากเป็นรถไฟสายยาวจากกรุงเทพไปภาคใต้ ผู้โดยสารส่วนใหญ่จะขึ้นมาจากหัวลำโพง ที่นั่งจึงเต็ม คนที่ขึ้นระหว่างทางอย่างแม่จึงมักไม่มีที่ว่างให้นั่ง หากโชคดีมีคนลงกลางทางก็อาจได้นั่ง เมื่อไปถึงมหาวิทยาลัย แม่มีแต่รอยยิ้มและความห่วงใย ไม่เคยบ่นว่าเมื่อย ว่าเหนื่อยจากการเดินทาง สำหรับพ่อของผู้เขียน วิธีบอกรักและความห่วงใยคือพ่อจะเตรียมอาหารเช้าให้กินทั้งก่อนไปโรงเรียนและหลังกลับจากโรงเรียน พ่อรับจ้างทุกอย่างเท่าที่ทำได้ เพื่อหารายได้มาจุนเจือครอบครัว ทั้งรับจ้างขุดดิน เกี่ยวข้าว (ด้วยมือ) ตัดอ้อย มือของพ่อมีแต่รอยด้าน พ่อมักคอยหัดให้ผู้เขียนเรียนรู้การช่วยเหลือตัวเองและเอาตัวรอด เช่นหัดให้ทำกับข้าว หาฟืน หาปลา ทำงานบ้านต่าง ๆ รวมทั้งหัดถีบจักรยาน หัดขับรถมอร์เตอร์ไซค์ แม้เกิดที่บ้านนอก การศึกษาเพียงป.4 แต่พ่อก็คอยสนับสนุนให้ลูกได้เรียนมากกว่าพ่อเพราะพ่อไม่อยากให้ลูกต้องลำบากอย่างพ่อ ที่น่าแปลกคือพ่อจะไม่เคยพูดคำหยาบกับลูก ไม่เคยตี ความรักยังเป็นมีพลังวิเศษเพราะเป็นลมใต้ปีกคอยประคองและดันให้เราต่างก็บินทะยานขึ้นสู่ฟากฟ้า แม้ในยามที่ปีกหัก รักก็งอกปีกสำรองมาประคองไม่ให้เราต่างก็ตกลงมาบาดเจ็บ เมื่อมีรัก ร่ำรวยรัก เราก็สามารถใช้จ่ายความรักได้อย่างฟุ่มเฟือย ไม่ว่าจะมอบให้คนหรือสัตว์ สารแห่งรักก็สามารถส่งถึงได้โดยไม่ต้องมีล่าม ไม่ต้องตีความ และแน่นอนผู้ให้รักก็มักได้รักกลับมาและอาจเพิ่มมากกว่าที่ให้ ผู้เขียนเองก็ขอส่งมอบความรักผ่านบทความนี้ไปยังท่านผู้อ่านทุกท่านนะคะ ขอขอบคุณเครดิตภาพดังรายละเอียดต่อไปนี้ค่ะภาพหน้าปก 1 โดย Kelly Sikkemaภาพหน้าปก 2 โดย Simon Hurryภาพที่ 1 โดย Kelly Sikkemaภาพที่ 2 โดย Ekaterina Shakharova ภาพที่ 3 โดย Simon Hurryภาพที่ 4 โดย James Lee เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !