สวัสดีค่ะทุก ๆ คน การเดินทางนั้นเป็นสิ่งที่ทุกคนหลีกเลี่ยงไม่ได้อย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางในประเทศ หรือต่างประเทศก็ตาม แต่การเดินทางนั้นจะทำอย่างไร จึงจะปลอดภัยทั้งไปและกลับ วันนี้ผู้เขียน มี 4 วิธี เดินทางให้ปลอดภัย มาฝากคุณผู้อ่านทุก ๆ คนกันด้วยค่ะ ส่วน 4 วิธีนี้จะทำยากง่ายเพียงใด ใครอยากรู้ตามมาอ่านพร้อมกันกับผู้เขียนได้เลยค่ะ4 วิธี เดินทางให้ปลอดภัยระหว่างการเดินทาง ไม่ว่าจะเป็นกลางวันหรือกลางคืน ถ้ามีคนมาโบกมือข้างทาง ไม่ว่าจะเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง วัยใดอายุใดก็ตาม ไม่ควรรับขึ้นรถเด็ดขาดนะคะ เพราะว่าในยุคนี้โจรขโมยเยอะมาก โจรขโมยเหล่านี้จะมีจิตวิทยารู้ว่าคนในปัจจุบันนี้โลกสวยและมีนิสัยขี้สงสาร จึงอาศัยช่องว่างตรงนี้ ในการหากินกับคนดีด้วยการใช้เด็กผู้หญิง คนชรา คนแก่มาโบกรถ โดยพวกเขาจะซ่อนอยู่ในป่า ในระหว่างที่คนแก่ขึ้นรถหรือเด็กขึ้นรถ ด้วยความเชื่องช้า เขาจะ ย่องเข้าข้างหลังและใช้อาวุธมีดอาวุธปืนจี้เราทันที โดยเราไม่อาจจะตั้งตัวได้ ซึ่งถ้าอย่างมากก็แค่เอารถเอาเงินเราไป แต่ถ้าหนักกว่านั้น ที่น่ากลัวที่สุดก็คือ เขากลัวเราจำหน้าเขาได้ เขาก็จะทำร้ายให้ถึงแก่ชีวิตได้ ยิ่งโดยเฉพาะกลางคืนน่ากลัวที่สุด ดังนั้นการเดินทางไกลจึงไม่ควรรับใครขึ้นรถเด็ดขาดค่ะควรตรวจเช็คสภาพรถยนต์ ของคุณทุกครั้งก่อนออกเดินทาง ไม่ว่าจะใกล้หรือไกลก็ตาม โดยเฉพาะลมยางและหม้อน้ำ และน้ำมัน 3 อย่างนี้เป็นปัจจัยสำคัญมาก เพราะถ้าเกิดปัญหาขึ้นมาระหว่างการเดินทาง ในจุดที่ไม่มีผู้คนอาศัยอยู่ นั่นหมายถึงอันตราย ต่าง ๆ อาจจะเกิดขึ้นกับเราได้อย่างแน่นอนค่ะ โดยอย่างที่เราเคยได้ยินข่าวว่ามีผู้หญิง รถไปเสียอยู่ระหว่างทางและมีมิจฉาชีพเข้ามาทำทีเป็นช่วยเหลือ แต่กลับปล้นเอารถไป นี่เป็นสิ่งที่ย้ำเตือนให้เรา ควรตรวจเช็คสภาพยานพาหนะของเราให้ดี ก่อนออกเดินทางจะดีที่สุดค่ะ เพื่อป้องกันอันตรายที่จะมาเกิดกับตัวเรา และคนที่เรารักได้ค่ะ ถ้าจะให้ดีที่สุดก่อนออกเดินทางควรเข้าศูนย์ที่ไว้ใจได้ ตรวจเช็คสภาพเครื่องยนต์และรถของคุณผู้อ่านให้ดีเต็มร้อย ก่อนออกเดินทางจะดีที่สุดค่ะไม่ควรขับเร็วเกินไป ในเส้นทางที่เราไม่คุ้นเคย เพราะการเดินทางไม่ว่าใกล้หรือไกลนั้น บางครั้งการที่เราดู GPS ก็ไม่ได้หมายความว่าจะชัวร์เสมอไป ถ้าเราขับเร็วเกินไปอาจจะทำให้เกิดอันตรายถึงแก่ชีวิตได้ค่ะ ในทุกวันนี้การเดินทางของคนส่วนใหญ่ มักจะเร่งรีบ เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย เร่งความเร็วรถ ทั้งมอเตอร์ไซค์และรถยนต์กันอย่างเต็มที่ โดยลืมนึกถึงชีวิตอันมีค่าของตัวเองไปเพราะทางที่เราไม่รู้และไม่เคยไปนั้น อาจจะเกิดอันตรายได้มากมาย เช่น อาจจะมีชาวบ้านเลี้ยงวัวและปล่อยวัววิ่งหลุดออกมากลางถนน จนทำให้เราชนก็เป็นได้หรืออาจจะเป็นชาวบ้านที่เป็นคนบ้านนอก ขับรถโดยไม่รู้กฎจราจรมาเลี้ยวตัดหน้าเรา ก็อาจจะทำให้เราชนและเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงได้ ดังนั้น การเดินทางไกลหรือใกล้ที่ดีที่สุด ที่เราควรปฏิบัติคือ อย่าขับเร็ว เกิน 80 - 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมงจะดีกว่าค่ะ อย่างน้อยถ้ามีอะไรมาตัดหน้ารถเรา เราก็ยังเบรคได้ทันค่ะเมื่อเดินทางไม่ว่าใกล้หรือไกลก็ตาม เมื่อคุณเป็นผู้ขับถ้าเกิดความง่วงขึ้นมาอย่างกะทันหัน ไม่ควรฝืนขับต่ออย่างเด็ดขาด ควรลดความเร็วลง และพยายามขับหาโรงแรมที่อยู่ข้างทาง หรือปั๊มน้ำมันเข้าพักนอนอย่างน้อย 30 นาทีจะดีกว่าค่ะ เพื่อให้สมองได้พักผ่อน และมีความสดชื่น แล้วจะให้ดีที่สุดควรใช้ผ้าเย็นที่หาซื้อได้จากเซเว่น หรือซุปเปอร์มาร์เก็ตที่อยู่ในปั๊มเช็ดหน้า ลูบต้นคอหรือเช็ดต้นคอก็ได้ ก็จะช่วยเพิ่มความสดชื่นให้กับเราได้เป็นอย่างดีค่ะ เมื่อเราสดชื่นแล้วเราพักผ่อนแล้ว เราก็สามารถเดินทางต่อได้อย่างปลอดภัย โดยไม่ต้องกลัวว่าจะเกิดอันตรายในการขับขี่ แต่ทุกวันนี้คนส่วนใหญ่ที่เกิดอุบัติเหตุ เกิดมาจากการฝืน เมื่อง่วงก็ไม่ยอมนอน สมองของคนเรานั้นเมื่อถึงจุดจุดหนึ่ง ที่ฝืนความง่วงจัดสมองจะตัดวงจรของตัวเองทันที ซึ่งเมื่อสมองทำเช่นนั้น เราก็จะเกิดอาการหลับใน ซึ่งเป็นอุบัติเหตุที่เราได้พบเห็นบ่อยในทุกวันนี้ เมื่อหลับในแล้วเราก็จะไม่รู้สึกตัว และเท้าของเราก็เหยียบคันเร่งไปด้วยความเร็วมากกว่าเก่า และไปชนกับรถข้างหน้า จนทำให้เกิดอุบัติเหตุที่น่าเศร้าตามมาได้ค่ะ ดังนั้นเมื่อเดินทางถ้าเกิดความง่วงเมื่อใดควรพักนอนทันที แล้วล้างหน้าล้างตาให้สะอาดสดชื่นจะดีกว่าค่ะ แล้วค่อยเดินทางต่อ ถ้าทำแบบนี้ได้รับรองว่า ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางไกลแค่ไหน คุณและครอบครัวก็จะปลอดภัยค่ะและทั้งหมดนี้ก็คือ 4 วิธี เดินทางให้ปลอดภัย ที่ผู้เขียนอยากแนะนำกับคุณผู้อ่านทุก ๆ ท่าน หวังว่าบทความนี้คงจะเป็นประโยชน์กับคุณผู้อ่านทุกท่านบ้างไม่มากก็น้อยนะคะ สำหรับวันนี้ผู้เขียนขอตัวลาไปก่อน ไว้พบกันได้ไหมในบทความต่อไปสำหรับวันนี้สวัสดีค่ะ (เครดิตปก /ภาพที่1 /ภาพที่2 /ภาพที่3/ภาพที่4)