ย้อนกลับไปในสมัยที่เครื่อง Playstation กำลังเริ่มเฟื่องฟู ผมในวัยเด็กยังคงจดจ่ออยู่กับเครื่อง Super Famicom เครื่องเก่ง และแน่นอนว่าหนึ่งในซีรีส์เกมที่ผมหลงใหลเป็นอย่างมากคือ Mega Man X ด้วยความทรงจำอันแสนสนุกจาก Mega Man X4 ที่ทั้งภาพสวย ดนตรีเพราะ และระบบการเล่นที่ลื่นไหล ทำให้ผมตั้งตารอคอยภาคต่ออย่างใจจดใจ และแล้ว Mega Man X5 ก็มาถึง แม้ในตอนนั้นจะรู้สึกว่าภาพและเสียงดูด้อยลงไปเล็กน้อยเมื่อเทียบกับภาคก่อน แต่ด้วยความผูกพันธ์ที่มีต่อซีรีส์นี้ ผมก็ยังคงตื่นเต้นที่จะได้กลับไปโลดแล่นในโลกของ X และ Zero อีกครั้ง วันนี้ ผมจะพาทุกท่านย้อนเวลากลับไปสัมผัสกับความทรงจำในวัยเด็กของผมผ่าน Mega Man X5 ภาคต่อที่แม้จะไม่สมบูรณ์แบบ แต่ก็เต็มไปด้วยเสน่ห์และความประทับใจ เนื้อเรื่อง: โลกที่กำลังจะล่มสลาย และการตัดสินใจที่ยากลำบาก Mega Man X5 เปิดฉากด้วยฉากคัทซีนสุดอลังการที่แสดงให้เห็นถึงโคโลนีอวกาศยูเรเซียขนาดมหึมา กำลังพุ่งชนโลก! ซึ่งเบื้องหลังเหตุการณ์นี้ก็คือ Sigma ปรปักษ์ตัวฉกาจที่ฟื้นคืนชีพขึ้นมาอีกครั้ง ภัยพิบัติครั้งนี้ไม่เพียงแต่สร้างความเสียหายทางกายภาพเท่านั้น แต่มันยังส่งผลกระทบต่อจิตใจของผู้คน ทำให้เกิดความหวาดกลัวและสิ้นหวังไปทั่วโลก ในภาคนี้ X และ Zero ต้องเผชิญหน้ากับสถานการณ์ที่ยากลำบาก พวกเขาต้องตัดสินใจเลือกว่าจะใช้ "Enigma Cannon" อาวุธสุดท้ายที่อาจจะหยุดยั้งยูเรเซียได้ หรือจะเสี่ยงส่งยานอวกาศขึ้นไปทำลายยูเรเซียโดยตรง ซึ่งภารกิจนี้มีความเสี่ยงสูงมาก และอาจต้องแลกมาด้วยชีวิตของใครสักคน ความน่าสนใจของเนื้อเรื่องในภาคนี้คือการนำเสนอประเด็นเกี่ยวกับความสิ้นหวัง การเสียสละ และการต่อสู้เพื่อความอยู่รอดของมนุษยชาติ ตัวละครอย่าง Alia ที่ต้องต่อสู้กับความรู้สึกผิด หรือ Signas ที่ต้องแบกรับภาระอันหนักอึ้งในการตัดสินใจ ล้วนทำให้เนื้อเรื่องมีความลึกซึ้งและน่าติดตามมากยิ่งขึ้น ผมจำได้ว่าในตอนนั้น ผมรู้สึกอินไปกับชะตากรรมของตัวละครเหล่านี้มาก และเอาใจช่วยให้พวกเขาผ่านพ้นวิกฤตนี้ไปได้ กราฟิกและดนตรีประกอบ: ความงามแบบ 16-bit ที่เริ่มจางหาย แต่ยังคงตราตรึง ในยุคที่เกม 3D กำลังมาแรง Mega Man X5 ยังคงยึดติดกับรูปแบบ 2D แบบ 16-bit ซึ่งแน่นอนว่ามันทำให้ภาพรวมของเกมดูด้อยลงไปเมื่อเทียบกับเกมยุคใหม่ ฉากหลังในบางด่านดูเรียบง่าย ขาดรายละเอียด และสีสันที่สดใส อย่างไรก็ตาม ผมก็ยังคงประทับใจกับงานออกแบบตัวละคร เอฟเฟกต์ และอนิเมชั่นต่าง ๆ ที่ยังคงทำออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม โดยเฉพาะท่าไม้ตายของ X และ Zero ที่ดูอลังการและทรงพลัง ดนตรีประกอบในภาคนี้ แม้จะไม่ได้โดดเด่นเท่า Mega Man X4 แต่ก็ยังคงมีเพลงที่ติดหูและเข้ากับบรรยากาศของเกมได้เป็นอย่างดี เช่น เพลงธีมของ Zero ที่ให้ความรู้สึกเศร้าสร้อย เพลงในด่านของ Duff McWhalen ที่ให้ความรู้สึกตื่นเต้น และเพลงประกอบฉากต่อสู้กับ Sigma ที่เร้าใจและยิ่งใหญ่ ทุกวันนี้ เมื่อผมได้ยินเพลงเหล่านี้ มันก็ทำให้ผมนึกถึงช่วงเวลาที่ได้เล่น Mega Man X5 และหวนคิดถึงความทรงจำในวัยเด็ก เกมเพลย์: ความท้าทายที่คุ้นเคย แต่แฝงไปด้วยลูกเล่นใหม่ ๆ ระบบการเล่นใน Mega Man X5 ยังคงเป็นแบบแอคชั่น 2D sidescrolling ที่เราคุ้นเคยกันดี โดยเราสามารถเลือกเล่นได้ทั้ง X และ Zero ซึ่งทั้งสองตัวละครจะมีความสามารถและอาวุธที่แตกต่างกัน X จะเน้นการยิงแบบระยะไกล และสามารถเปลี่ยนเกราะเพื่อเพิ่มความสามารถได้ ส่วน Zero จะเน้นการต่อสู้ระยะประชิดด้วยดาบ และมีท่าโจมตีที่รวดเร็วและรุนแรง ด่านต่าง ๆ ในเกมยังคงมีความหลากหลาย เช่น ด่านเปิดของ Grizzly Slash ที่เราต้องบังคับรถถังฝ่าดงศัตรู ด่านใต้น้ำของ Duff McWhalen ที่เราต้องระวังการขาดอากาศหายใจ หรือด่านอวกาศของ Dynamo ที่เราต้องต่อสู้กับแรงโน้มถ่วง สิ่งที่ผมชอบในภาคนี้คือระบบ Parts System ที่ทำให้เราสามารถตามหาชิ้นส่วนมาประกอบเป็นเกราะ อาวุธ และไอเท็มเสริมต่าง ๆ ซึ่งเพิ่มความสนุกในการเล่นและการสำรวจด่าน นอกจากนี้ ระบบการอัพเกรด ก็ทำให้เราสามารถพัฒนาความสามารถของ X และ Zero ได้หลากหลายมากขึ้น เช่น การเพิ่มพลังโจมตี การเพิ่มความเร็วในการเคลื่อนที่ หรือการเพิ่มความสามารถในการป้องกัน ความทรงจำในวัยเด็ก: มิตรภาพ การแข่งขัน และความสนุก ผมจำได้ว่าตอนที่ Mega Man X5 วางจำหน่าย ผมและเพื่อน ๆ ต่างก็ตื่นเต้นกันมาก เราพากันไปซื้อเกมมาเล่น และแข่งขันกันว่าใครจะสามารถเคลียร์เกมได้ก่อน ใครจะเก็บไอเท็มได้ครบกว่ากัน เราใช้เวลาว่างส่วนใหญ่หลังเลิกเรียนไปกับการเล่นเกมนี้ แลกเปลี่ยนเทคนิค และช่วยเหลือกันผ่านด่านต่าง ๆ ความทรงจำในตอนนั้นยังคงชัดเจน มันเป็นช่วงเวลาแห่งมิตรภาพ การแข่งขัน และความสนุก ที่ผมไม่มีวันลืม Mega Man X5 ไม่ใช่แค่เกม แต่มันคือส่วนหนึ่งของชีวิต และความทรงจำในวัยเด็กของผม สรุป: ความทรงจำสีจาง ๆ ที่ยังคงงดงาม Mega Man X5 อาจจะไม่ใช่ภาคที่ดีที่สุดในซีรีส์ Mega Man X และอาจมีข้อบกพร่องอยู่บ้าง แต่สำหรับผม มันเป็นเกมที่มีคุณค่าทางใจ และเต็มไปด้วยความทรงจำในวัยเด็ก แม้กราฟิก ดนตรี และเนื้อเรื่อง อาจจะไม่ได้โดดเด่นเท่าภาคก่อน ๆ แต่เกมเพลย์ที่สนุก ท้าทาย ระบบ Parts System และระบบการอัพเกรดที่หลากหลาย ก็ทำให้ Mega Man X5 เป็นเกมที่คุ้มค่าแก่การเล่น และเป็นเกมที่ผมอยากจะแนะนำให้กับแฟน ๆ เกมแอคชั่น 2D ทุกคน ลองหามาเล่นดูครับ แล้วคุณอาจจะได้สัมผัสกับความสนุกแบบเรโทร และความทรงจำในอดีตที่คุณอาจหลงลืมไปแล้วก็ได้ เครดิตภาพ ทางผู้เขียนได้ซื้อเกมนี้มาเล่นเองถ่ายรูปลงเอง เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !