สำหรับน้องๆคนไหนที่กำลังเรียนอยู่ประถมศึกษาก็ดี มัธยมศึกษาก็ดี หรือเรียนกวดวิชาอยู่ก็ดี กำลังขะมักเขม้นกับการอ่านหนังสืออยู่ เพราะเดือน ก.พ. - มี.ค. ถือเป็นช่วงมหกรรมการสอบของนักเรียนไทยเลยไม่ว่าจะเป็นการสอบเลื่อนชั้น สอบเข้าโรงเรียน มหาวิทยาลัย หรือโรงเรียนทหาร ทุกคนต่างก็ต้องการคะเเนนดีๆเพื่อให้ได้ที่เรียนที่ตนเองสมหวัง การเรียนในห้องถือว่ามีความสำคัญไม่น้อยเพราะมีครูผู้สอนอธิบายขยายความจากในหนังสือเเละเวลาที่ไม่เข้าใจนักเรียนก็สามารถถามครูผู้สอนได้ตรงๆเลยเเล้วพอกลับไปที่บ้านก็ไปอ่านหนังสือทบทวนความรู้อีกครั้ง หลายคนมีปัญหาเวลาที่เรียนในห้องเรียนมักจะไม่ค่อยมีสมาธิเลยทำให้เรียนในห้องเรียนไม่รู้เรื่อง ผู้เขียนเลยมีเทคนิคการเรียนในห้องเรียนอย่างไรให้เกิดสมาธิมาเเบ่งปันกัน ขอขอบคุณภาพจาก https://bit.ly/2saH5uq1.กินอาหารให้พอดีไม่อิ่มเกินไป เมื่อเรากินอาหารประเภทเเป้งเข้าไปเยอะ ระบบประสาทจะสั่งการให้ร่างกายรีบเผาผลาญอาหารในกระเพาะเลยทำให้เลือดเเละพลังงานในร่างกายทำงานช้าลงเป็นสาเหตุทำให้ง่วง เมื่อรู้ตัวว่าจะเข้าห้องเรียนไม่ควรกินอาหารจนอิ่มเกินไปเเละควรเคี้ยวอาหารอย่างช้า ๆ ละเอียด ๆ เพื่อลดความเสี่ยงที่จะเกิดความง่วง ขอขอบคุณภาพจาก https://bit.ly/2FIGFhW2.เข้าห้องน้ำให้เรียบร้อย ก่อนที่ครูผู้สอนจะเข้ามาสอนสัก 30 นาทีควรฝึกเข้าห้องน้ำให้เป็นนิสัย เผื่อใครจะไปทำธุระหนักเบาหลังจากนั้นจะได้มีเวลาไปเตรียมอุปกรณ์ เอกสารการเรียนได้ทันเเละเพื่อไม่ให้เกิดเหตุฉุกเฉินระหว่างการเรียนทำให้เราอาจพลาดบทเรียนที่สำคัญไป ขอขอบคุณภาพจาก https://bit.ly/35KpjvT3.นั่งสมาธิสัก 5 นาที หลังจากที่เข้าห้องน้ำเสร็จจัดเตรียมอุปกรณ์เเละเอกสารเรียบร้อยเเล้ว ถ้ามีเวลาว่างให้ลองนั่งสมาธิดูเเค่ 5 นาทีทำจิตใจให้ว่างเปล่า ปล่อยวางทุกอย่างเเละผ่อนคลายที่สุด เป็นการเคลียร์ (Clear) สมองให้โล่งทิ้งสิ่งที่เป็นอุปสรรคต่อการเรียนออกไปให้หมด ให้พร้อมที่จะรับความรู้ในการเรียนเข้ามา ลองฝึกดูให้ทำได้ทุกวันนะครับ ภาพถ่ายโดยผู้เขียนเอง4.นั่งให้ถูกท่า จริงอยู่ที่การนอนอ่านมันสบายเเต่รู้สึกบ้างไหมครับว่านอนอ่านยังไงก็ไม่จำ เเต่ลองเปลี่ยนมาท่านั่งอ่านกลับมีสมาธิจำได้ดีกว่า เพราะว่าท่านั่งอ่านสมองจะทำงานได้มีประสิทธิภาพกว่าท่านอนอ่าน เเละควรนั่งหลังตรง ไหล่ไม่ห่อ ไม่งอตัว ทำให้เป็นผลดีต่อกระดูกสันหลังด้วย ใครที่ว่าเรานั่งเเอ๊กก็ปล่อยเขาไปเถอะครับ สุขภาพหลังผมนะ555+ภาพถ่ายโดยผู้เขียน5.จดจ่อกับสิ่งที่เรียน พยายามทิ้งสิ่งที่ไม่เกี่ยวกับการเรียนออกไปจากสมองเราก่อน ให้เหลือเเต่พื้นที่ที่พร้อมจะรับการเรียนรู้เข้ามาในสมอง จดจ่ออยู่กับสิ่งที่ครูสอน เเล้วคล้อยตามในสิ่งที่ครูสอนจะทำให้เราไม่วอกเเวก จดบันทึกเนื้อหาที่สำคัญในสมุด ถ้าสงสัยตรงไหนให้จดข้อซักถามไว้เเล้วเก็บไว้ถามท้ายชั่วโมง ถ้าท่านผู้อ่านได้อ่านบทความนี้เเล้วลองนำไปใช้ดูในวันที่จะมีการฝึกหัดศึกษาครับ ทำตามขั้นตอนที่ผมได้เขียนไว้ตามลำดับเเล้วท่านจะมีสมาธิในการเรียนในห้องเรียนพร้อมที่จะเปิดประตูสู่สนามสอบที่จะมาถึงในเวลาอันใกล้นี้เเล้วครับ