ปลูกผักชีฝรั่งในกระถางหน้าบ้าน ทำอะไรได้บ้าง ดูแลยังไงให้งาม มารู้กันเลย! เขียนโดย ภัคฒ์ชาลิสา จำปามูล ทุกวันนี้ผู้คนหันมาใส่ใจเรื่องสุขอนามัยและคุณภาพชีวิตมากขึ้น การปลูกผักกินเองภายในบ้านจึงกลายเป็นทางเลือกที่หลายครอบครัวนิยม เพราะช่วยให้ได้ผักสดใหม่ปลอดภัยไว้ใช้ในทุกมื้ออาหาร อีกทั้งยังเป็นวิธีที่ช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย และลดความเสี่ยงจากสารเคมีตกค้างในผักที่ซื้อมาจากตลาด และการปลูกผักไม่เพียงเป็นกิจกรรมที่สร้างความเพลิดเพลิน แต่ยังทำให้บ้านมีสีเขียวธรรมชาติ เพิ่มความสดชื่นและบรรยากาศผ่อนคลาย แม้จะมีพื้นที่จำกัด เช่น บ้านในเมืองหรือคอนโด ก็สามารถใช้วิธีปลูกในกระถางหรือภาชนะเล็กๆ ได้อย่างง่ายดาย และเมื่อพูดถึงผักสวนครัวที่เหมาะสำหรับการปลูกในกระถาง หนึ่งในนั้นที่ไม่ควรมองข้ามก็คือ ผักชีฝรั่งค่ะ โดยหลายคนยังไม่รู้ว่า ผักชนิดนี้เป็นพืชสมุนไพรที่ทั้งปลูกง่าย ใช้พื้นที่ไม่มาก และยังให้ผลผลิตได้ต่อเนื่องตลอดปี ซึ่งผักชีฝรั่งมีลักษณะเด่นตรงกลิ่นหอมเฉพาะตัวที่ช่วยชูรสอาหารไทยหลากหลายเมนูค่ะ โดยเฉพาะส้มตำ ลาบ น้ำตก และต้มยำ การมีผักชีฝรั่งปลูกไว้หน้าบ้าน จึงมีส่วนช่วยให้ทุกมื้ออาหารพิเศษขึ้นทันที นอกจากนั้นยังช่วยเพิ่มความเขียวสดชื่นให้บริเวณบ้าน และกลายเป็นกิจกรรมที่ทั้งสนุกและคุ้มค่า เหมาะกับทุกครอบครัวที่อยากมีผักสดไว้ใช้เองตลอดเวลานะคะ ซึ่งคุณผู้อ่านรู้ไหมคะว่า ผักชีฝรั่งเป็นพืชล้มลุก ที่มีลำต้นสั้นมากจนแทบจะมองไม่เห็น มักขึ้นรวมกันเป็นกอแน่น ลักษณะใบเรียวยาว สีเขียวเข้ม และเป็นใบเลี้ยงเดี่ยว ขอบใบเหมือนฟันเลื่อย จนทำให้บางคนเรียกผักชนิดนี้ว่า “ผักใบเลื่อย” แต่ที่ปลายใบแหลม ใบแบน ร่องกลางใบเห็นชัดเจน เนื้อใบค่อนข้างเหนียวแต่บางพอให้ฉีกง่าย มีสีเขียวเข้มสดและผิวใบเรียบเป็นมันเล็กน้อย ใบขึ้นเป็นกระจุกแน่นบริเวณโคนต้น ทำให้มองเห็นเป็นกอเขียวสดที่สวยงามค่ะกลิ่นของใบค่อนข้างแรงและเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งถือเป็นเสน่ห์ที่ทำให้อาหารไทยหลายชนิดขาดผักชนิดนี้ไม่ได้ โดยใบสามารถยาวได้ประมาณ 20–40 เซนติเมตร ที่มีความกว้างประมาณ 2–5 เซนติเมตรค่ะ สำหรับระบบรากของผักชีฝรั่ง เป็นรากฝอยที่กระจายตัวได้ดีในดินร่วนซุย จึงดูดน้ำและธาตุอาหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ เมื่อต้นสมบูรณ์ดีจะออกช่อดอกเล็กสีขาวอมเขียว มีกลิ่นหอมอ่อนๆ ที่สามารถดึงดูดแมลงมาช่วยผสมเกสรได้ เมล็ดของผักชีฝรั่งสามารถนำมาใช้เพาะพันธุ์ได้ค่ะ แต่โดยทั่วไปคนมักนิยมขยายพันธุ์ด้วยการแบ่งกอ เพราะรวดเร็วและได้ต้นแข็งแรงกว่า หลายคนอาจยังไม่รู้ว่า ใบผักชีฝรั่งมีกลิ่นหอมแรงเฉพาะตัวที่ไม่เหมือนผักชนิดอื่น เมื่อเด็ดหรือขยี้ใบจะได้กลิ่นฉุนชัดเจน ใช้เป็นเอกลักษณ์ในการปรุงอาหาร โดยเฉพาะเมนูรสจัดแบบอีสาน เช่น ลาบ ส้มตำ น้ำตก และต้มยำ ซึ่งความแข็งแรงของใบทำให้ทนต่อการเหี่ยวเฉาได้ดีเมื่อเก็บเกี่ยว และสามารถเก็บไว้ในตู้เย็นเพื่อคงความสดได้หลายวัน และถือเป็นส่วนสำคัญที่สุดของพืชชนิดนี้ ที่นำมาใช้ประโยชน์ทั้งด้านอาหารและสมุนไพรค่ะ ผักชีฝรั่งเป็นผักสวนครัวที่ปลูกง่ายและดูแลง่าย เหมาะสำหรับคนที่มีพื้นที่จำกัดหรืออยู่ในเมืองที่ไม่มีพื้นที่ทำสวนใหญ่ การปลูกในกระถางถือเป็นทางเลือกที่สะดวก เพราะใช้เพียงกระถางดินเผาหรือพลาสติกขนาดกลาง ดินที่ใช้ควรเป็นดินร่วนซุยผสมปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักเล็กน้อย เพื่อให้รากเจริญเติบโตได้ดี การปลูกในกระถางยังช่วยให้ควบคุมปริมาณน้ำและปุ๋ยได้ง่ายกว่าในแปลงดินนะคะ และสามารถยกย้ายไปวางในจุดที่เหมาะสมได้อย่างสะดวกอีกด้วย นอกจากความง่ายในการปลูกแล้ว ผักชีฝรั่งยังเป็นพืชที่ทนต่อสภาพอากาศร้อนชื้นได้ดี จึงเหมาะกับสภาพภูมิอากาศเมืองไทย และมักไม่ค่อยเจอปัญหาศัตรูพืชรบกวนมากนัก การปลูกในกระถางหน้าบ้านยังช่วยประหยัดพื้นที่ และเพิ่มความเขียวสดชื่นให้กับบ้าน ทำให้บรรยากาศดูร่มรื่นยิ่งขึ้น ที่สำคัญคือยังสามารถเก็บเกี่ยวใบสดๆ ได้ทันทีเมื่อทำอาหาร ทำให้ครัวเรือนมีผักปลอดภัยไว้ใช้ตลอดทั้งปีค่ะ ซึ่งการมีผักชีฝรั่งปลูกไว้ในกระถางหน้าบ้าน ยังช่วยให้เราสามารถเก็บใบสดๆ มาใช้ได้ทันที ไม่ว่าจะเป็นการทำส้มตำ ลาบ น้ำตก ต้มยำ หรือเมนูอาหารไทยรสจัดอื่นๆ ที่ต้องการกลิ่นหอมเฉพาะตัวของผักชนิดนี้ สำหรับความแตกต่างของผักชีฝรั่งสดจากต้น คือ ความเข้มข้นของกลิ่นและรสชาติที่หอมกว่าการซื้อจากตลาดค่ะ อีกทั้งยังมั่นใจได้ในความสะอาด ปลอดสารเคมี และปลอดภัยต่อสุขอนามัยของทุกคนในครอบครัวด้วย และนอกจากใช้เพิ่มรสชาติอาหารแล้ว ผักชีฝรั่งยังมีสรรพคุณทางสมุนไพร จึงเหมาะที่จะปลูกไว้ใช้ทั้งเป็นผักเครื่องเคียงและสมุนไพรประจำบ้าน เมื่อมีปลูกไว้เองจึงไม่ใช่เพียงเพื่อการปรุงอาหาร แต่ยังเป็นการสร้างคลังสมุนไพรเล็กๆ ไว้ใช้ได้ในทุกๆ วันอีกด้วยค่ะ และรู้ไหมคะว่า ผักชีฝรั่งเป็นพืชที่ชอบแสงแดดจัดถึงแดดรำไร การวางกระถางในที่ที่ได้รับแสงอย่างน้อยวันละ 5–6 ชั่วโมง จะช่วยให้ใบมีสีเขียวเข้มและมีกลิ่นหอมแรงขึ้น ดินที่เหมาะสมควรเป็นดินร่วนซุยที่ระบายน้ำได้ดี ผสมกับปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักเพื่อเพิ่มอินทรียวัตถุ การรดน้ำควรทำวันละครั้งในตอนเช้าให้ดินชุ่ม แต่หลีกเลี่ยงน้ำขัง เพราะจะทำให้รากเน่าและต้นโทรมง่าย การดูแลเพิ่มเติมคือควรหมั่นตัดแต่งใบที่แก่หรือเสียหายทิ้ง เพื่อกระตุ้นการแตกใบใหม่อย่างสม่ำเสมอ ใส่ปุ๋ยอินทรีย์หรือปุ๋ยละลายช้าเดือนละครั้ง เพื่อให้ต้นได้รับธาตุอาหารครบถ้วนและแข็งแรง หากปลูกในกระถางที่เริ่มแน่นเกินไป ควรแยกกอออกมาปลูกใหม่ เพื่อให้ต้นมีพื้นที่พอในการเจริญเติบโต การดูแลอย่างสม่ำเสมอเช่นนี้จะทำให้ผักชีฝรั่งงามสดอยู่ตลอดปี และเก็บเกี่ยวได้ต่อเนื่องโดยไม่ต้องปลูกซ้ำบ่อยๆ ค่ะ ผักชีฝรั่งนอกจากจะเป็นผักสวนครัวที่ใช้ทำอาหารแล้ว ยังมีความโดดเด่นในด้านความสวยงามของใบนะคะ จากที่มีใบเรียวยาว สีเขียวเข้มสดใส เมื่อปลูกเป็นกอในกระถางจะดูหนาแน่นและเป็นระเบียบ จัดวางตรงหน้าบ้านหรือริมทางเดินก็ช่วยเพิ่มความร่มรื่นให้พื้นที่เล็กๆ ดูน่าอยู่มากขึ้น ซึ่งความเรียบง่ายของใบยังให้ความรู้สึกสบายตา และกลายเป็นอีกหนึ่งต้นไม้ประดับที่มีประโยชน์ในตัวเองค่ะ หากปลูกผสมรวมกับสมุนไพรและผักสวนครัวชนิดอื่น เช่น กะเพรา โหระพา ตะไคร้ หรือพริก จะช่วยสร้างบรรยากาศแบบสวนครัวในกระถาง ที่มีทั้งความสวยงามและความคุ้มค่า นอกจากนี้กลิ่นหอมเฉพาะตัวของผักชีฝรั่งยังช่วยไล่แมลงบางชนิดได้ จึงถือว่าเป็นทั้งไม้ประดับเพิ่มเสน่ห์ให้บ้าน และยังเป็นตัวช่วยเสริมสุขอนามัยในครัวเรือนไปพร้อมกันค่ะ และหลายคนยังไมรู้ว่า ผักชีฝรั่งเป็นพืชที่สามารถขยายพันธุ์ได้ง่ายและหลากหลายวิธี แต่วิธีที่นิยมที่สุดคือการแยกกอจากต้นแม่ โดยเลือกต้นที่แข็งแรง มีรากสมบูรณ์ แล้วถอนขึ้นมาเพื่อตัดแบ่งเป็นส่วนๆ จากนั้นนำไปปลูกในกระถางใหม่ ที่มีดินร่วนผสมปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก วิธีนี้ช่วยให้ต้นใหม่ตั้งตัวได้เร็วและเติบโตแข็งแรงต่อเนื่อง โดยไม่ต้องใช้เวลานานในการเพาะเหมือนการใช้เมล็ดค่ะ อีกวิธีหนึ่งคือการใช้เมล็ดจากต้นที่ออกดอกแล้ว เมล็ดผักชีฝรั่งมีลักษณะเล็กและสีน้ำตาล เมื่อเก็บและตากแห้งจนได้ที่ สามารถนำมาเพาะลงในกระถางหรือแปลงเพาะได้ แต่จะใช้เวลานานกว่าต้นจะแตกใบและเติบโต วิธีนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการปลูกจำนวนมากหรือทำเป็นแปลงผักจริงจัง การขยายพันธุ์ไม่ว่าจะด้วยการแยกกอหรือใช้เมล็ด ล้วนช่วยให้มีผักชีฝรั่งไว้ใช้ต่อเนื่อง และเพิ่มจำนวนต้นได้เรื่อยๆ ตามความต้องการค่ะ ผักชีฝรั่งสามารถเริ่มเก็บเกี่ยวได้เมื่อใบมีความยาวประมาณ 20–30 เซนติเมตร ซึ่งเป็นช่วงที่ใบยังอ่อน กรอบ และมีกลิ่นหอมแรงที่สุด การเก็บควรใช้กรรไกรหรือมีดตัดใบออกที่โคนต้น เพื่อให้ต้นแตกใบใหม่ได้อย่างรวดเร็ว ควรเก็บทีละส่วน ไม่ตัดจนหมดทั้งกอในคราวเดียว เพราะจะทำให้ต้นโทรมและใช้เวลาฟื้นตัวนาน การเก็บเกี่ยวในตอนเช้าเป็นเวลาที่ดีที่สุดนะคะ เพราะใบยังสดและมีความชุ่มน้ำเต็มที่ เมื่อเก็บใบมาแล้ว หากใช้ไม่หมดทันที สามารถเก็บรักษาไว้ในถุงพลาสติกเจาะรูเล็กๆ แล้วแช่ในช่องแช่ผักของตู้เย็น จะช่วยยืดอายุความสดได้หลายวัน ใบผักชีฝรั่งที่สดใหม่จะยังคงสีเขียวเข้ม กลิ่นหอมชัดเจน และไม่เหี่ยวเร็ว การเก็บเกี่ยวอย่างสม่ำเสมอทุกสัปดาห์ ยังช่วยกระตุ้นให้ต้นออกใบใหม่ตลอด ทำให้มีผักสดไว้ใช้ต่อเนื่องโดยไม่ต้องปลูกซ้ำบ่อยๆ และเป็นการใช้ประโยชน์จากพื้นที่เล็กๆ ได้อย่างคุ้มค่าค่ะ ในสถานการณ์จริงถึงแม้ว่าผักชีฝรั่งจะเป็นพืชที่ค่อนข้างแข็งแรงและทนทาน แต่ก็ยังอาจเผชิญกับศัตรูพืชบางชนิดค่ะ เช่น เพลี้ยอ่อน หนอนกัดกินใบ หรือแมลงปากกัดที่ทำให้ใบเป็นรู หากปลูกในกระถางหน้าบ้าน ควรหมั่นสังเกตสภาพใบเป็นประจำ หากพบใบมีร่องรอยการทำลาย ควรตัดแต่งทิ้งทันทีเพื่อไม่ให้ลุกลาม ซึ่งปัญหาที่พบบ่อยอีกอย่างคือเชื้อราในช่วงฤดูฝน หากดินมีความชื้นสูงเกินไป ต้นอาจเกิดอาการใบเหลืองและรากเน่าได้ง่ายนะคะ ซึ่งการป้องกันที่ดีที่สุด คือ การดูแลรักษาสภาพแวดล้อมของกระถางให้สะอาด วางในที่อากาศถ่ายเทดี และรดน้ำพอประมาณไม่ให้ขัง ใช้ปุ๋ยอินทรีย์แทนสารเคมีเพื่อสร้างภูมิต้านทานตามธรรมชาติ หากมีแมลงรบกวนสามารถใช้น้ำสบู่เจือจางหรือน้ำส้มควันไม้ฉีดพ่นแทนสารกำจัดศัตรูพืช วิธีนี้ไม่เพียงช่วยป้องกันแมลง แต่ยังปลอดภัยต่อผู้บริโภค ทำให้มั่นใจได้ว่าผักชีฝรั่งที่ปลูกไว้กินเองสดสะอาดและปลอดภัยทุกครั้งที่เก็บมาใช้ค่ะ จากที่เราก็รู้กันมาแล้วว่า ผักชีฝรั่งถือเป็นผักสมุนไพรที่มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว นิยมใช้เป็นส่วนประกอบสำคัญในอาหารรสจัดของไทย โดยเฉพาะเมนูอีสาน เช่น ส้มตำ ลาบ น้ำตก และก้อย ซึ่งจะช่วยเพิ่มความหอมฉุนและรสสัมผัสที่เป็นเอกลักษณ์ การนำมาใช้ประโยชนืก็ง่ายมากค่ะ เพียงนำใบสดที่หั่นหรือฉีกแล้วใส่ในอาหาร เพียงเท่านี้ก็จะทำให้รสชาติจัดจ้านขึ้นทันที นอกจากนี้ยังนิยมใช้ในต้มยำและแกงรสเผ็ดเพื่อเสริมกลิ่นหอมที่เข้มข้นยิ่งขึ้นนะคะ นอกจากอาหารไทยแล้วผักชีฝรั่งยังสามารถนำมาประยุกต์ใช้ในอาหารนานาชาติได้ เช่น ซุป สลัด หรืออาหารปิ้งย่าง เพื่อตัดเลี่ยนและเพิ่มความสดชื่นของรสชาติค่ะ เพราะกลิ่นหอมที่เฉพาะของผักชีฝรั่งทำให้เมนูดูโดดเด่นขึ้น อีกทั้งยังสามารถทานสดเป็นผักเคียงคู่กับน้ำพริก เป็นผักแนมกับก๋วยเตี๋ยว กินคู่กับขนมจีนน้ำยา ทำตำป่าตำมั่ว เป็นผักสดสำหรับเมี่ยงปลาเผา เป็นผักอีกอย่างในการทำแจ่วฮ้อน กินแกล้มกับยำแหนมข้าวทอดและอื่นๆ อีกหลายอย่างได้อย่างลงตัวค่ะ การมีผักชีฝรั่งสดไว้หน้าบ้านจึงช่วยให้การทำอาหารในทุกๆ วันง่ายขึ้น หลากหลายขึ้น และเต็มไปด้วยรสชาติที่หอมชวนกินนะคะ ที่โดยสรุปแล้วผักชีฝรั่งเป็นผักสวนครัวที่ขึ้นชื่อเรื่องการปลูกง่าย ใช้พื้นที่ไม่มากและไม่ต้องการการดูแลซับซ้อน เพียงมีกระถางขนาดกลาง ดินร่วนซุย และแสงแดดเพียงพอ ก็สามารถเติบโตได้สวยงามแล้วค่ะ มีใบเขียวเข้มสดและมีกลิ่นหอมเฉพาะตัวที่ช่วยเพิ่มรสชาติให้กับอาหารหลายชนิด ความทนทานต่ออากาศร้อนและศัตรูพืชที่ค่อนข้างน้อย ยิ่งทำให้ผักชีฝรั่งเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้เริ่มต้นปลูกผักในบ้านนะคะ และการปลูกผักชีฝรั่งในบ้านยังมีข้อดีเรื่องความสะดวกสบาย สามารถเก็บเกี่ยวใบสดๆ ได้ทันทีเมื่อทำอาหาร ไม่ว่าจะเป็นเมนูส้มตำ ลาบ ต้มยำ หรืออาหารอื่นๆ ที่ต้องการกลิ่นหอมแรง ก็สามารถเด็ดจากต้นมาใช้ได้เลย นอกจากช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายแล้ว ยังมั่นใจได้ในความสะอาด ปลอดสารเคมี และเป็นการเพิ่มความมั่นใจในคุณภาพอาหารที่นำเข้าสู่ครอบครัวทุกมื้อค่ะ ที่สำคัญกว่านั้น คือ การปลูกผักชีฝรั่งในบ้านยังเป็นกิจกรรมที่ช่วยเพิ่มความร่มรื่นและสร้างความสุขเล็กๆ จากการดูแลต้นไม้ การเห็นต้นงอกงามและได้เก็บมาใช้จริงเป็นความภูมิใจที่จับต้องได้ ทำให้ผักชีฝรั่งไม่เพียงเป็นผักสวนครัวธรรมดา แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของวิถีชีวิตเรียบง่ายและการพึ่งพาตนเองที่เหมาะกับทุกครัวเรือนค่ะ สำหรับผู้เขียนนั้นต้องบอกว่า ภาพทั้งหมดที่เห็นในบทความนี้เป็นการปลูกผักชีฝรั่งครั้งแรกค่ะ ที่ได้ผลเกินคาด เพราะปกตินั้นผู้เขียนมักไปเก็บผักชีฝรั่งที่บ้านสวน ที่เกิดเองตามธรรมชาติ ที่เป็นนั้นได้ก็เริ่มจากที่แม่ของผู้เขียนได้นำผักชีฝรั่งมาปลูก จากนั้นแม่จะปล่อยให้ออกดอกและได้เมล็ดแก่ ซึ่งแม่ก็ปล่อยให้ธรรมชาตทำงานค่ะ ให้ลมพัดพาเมล็ดไปเกิดที่อื่นบ้าง น้ำฝนไหลพัดพาเมล็ดกระจายไปจุดที่ไม่มีบ้าง ที่ว่างๆ แม่ก็เก็บไปหว่าน และผู้เขียนมองว่า ผักชีฝรั่งปลูกครั้งเดียวเกิดเองเป็นพันครั้งค่ะ เจ๋งมากๆ สำหรับผักชนิดนี้ โดยในส่วนของผักชนิดนี้ที่นี่ที่ปลูกในกระถาง กำลังแตกช่อดอกค่ะ แต่ว่าผู้เขียนได้เก็บออกอ่อนบางส่วนมาเป็นผักสดและใส่ลงไปในเมนูอาหารไทย และคิดว่าจะไม่ปล่อยให้เป็นดอกค่ะ เนื่องจากผู้เขียนชอบขยายพันธุ์ด้วยต้นใหม่ที่แตกออกมามากกว่า เพาะไม่ต้องเดาว่าจะเกิดไม่เกิด เกิดก็คือเห็น ไม่เกิดก็ไปแผนสองได้แบบไม่ต้องไปคิดนานค่ะ ซึ่งถ้าจะให้ผู้เขียนสรุปในย่อหน้าเดียวเกี่ยวกับการปลูกผักชีฝรั่งของที่นี่นั้น มีดังนี้ค่ะ ผู้เขียนได้เริ่มจากการใช้ดินที่มีอยู่แล้วในกระถางเดิมค่ะ คือก่อนหน้านี้กระถางที่ปลูกผักชีฝรั่งในตอนนี้ เคยปลูกผักมาหลายรุ่นมาก โดยรุ่นสุดท้ายคือต้นกะเพราและต้นแมงลัก ผู้เขียนพบว่าดินที่ผ่านการปลูกพืชมาก่อน ทำให้ต้นผักชีฝรั่งเกิดได้ดีค่ะ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นหลังจากปลูกได้ไม่นานและพบว่าการเจริญเติบโตช้าลง ผู้เขียนได้นำปุ๋ยคอกมาใส่เพิ่มลงไป ใช้อีเอ็มที่ขยายเองมาเจือจางน้ำรด รวมไปถึงใส่ปุ๋ยเคมีสูตรที่มีธาตุอาหารหลักทุกตัว ใส่ประมาณครึ่งช้อนโต๊ะค่ะ ปุ๋ยให้ผักชีฝรั่งต้องมีตลอดนะคะ เหมือนเรากินอาหารทุกวัน ไม่ใช่ว่าใส่ครั้งเดียวใช้ได้ตลอดชีพ เพราะพืชได้นำปุ๋ยไปสร้างส่วนต่างๆ ดินก็เลยหมดธาตุอาหารนะคะ จากนั้นเราก็แอบมองทุกวัน วันไหนรู้สึกว่าไม่โตหรือโตช้า เราก็ใช้แผนเดิมคือเติมปุ๋ยเท่านั้นเอง ซึ่งตอนนี้ผักชีฝรั่งงามมากค่ะ ขนาดใบเท่ากับสองนิ้วมือคนวางติดกัน ที่อาจจะใหญ่กว่าบางร้านที่ขายที่ตลาดด้วยซ้ำไป และที่สำคัญคือสดใหม่และปลอดสารพิษค่ะ ก็ลองไปหาต้นผักชีฝรั่งมาปลูกกันค่ะทุกคน ถ้ามีพื้นที่หรือแค่มีกระถางก็ทำได้แล้ว มีผักชีฝรั่งเกิดก็ยังดีกว่ามีหญ้าเกิด หรือปล่อยให้กระถางว่างเปล่าและผุพังแบบไม่ได้ประโยชน์นะคะ ก็ขอเป็นกำลังใจให้กับการเริ่มต้นปลูกหอมเปค่ะ โดยคำว่า “หอมเป” นั้น เป็นคำพูดในภาษาอีสานที่ใช้เรียกผักชีฝรั่งนะคะ เผื่อว่ามาจากที่อื่นแล้วโดนใช้ให้ไปเก็บหอมเปที่ปลูกไว้หน้าบ้าน จะได้ไม่งง! และด้วยความตั้งใจ ผู้เขียนหวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับผู้อ่านไม่มากก็น้อย หากคุณผู้อ่านชื่นชอบเนื้อหาแนวนี้ อย่าลืมกดติดตามหรือบันทึกโปรไฟล์ไว้ เพื่อจะได้ไม่พลาดข้อมูลใหม่ๆ ในบทความถัดไป หากสนใจอ่านบทความทั้งหมดของผู้เขียน ก็สามารถกดเข้าไปดูได้จากโปรไฟล์เช่นกันค่ะ #ผักชีฝรั่ง #ผักสวนครัวรั้วกินได้ #ผักมีกลิ่นหอมตามธรรมชาติ #ผักปลูกง่าย #ปลูกผักในกระถาง_หน้าบ้าน เครดิตรูปภาพประกอบบทความ รูปภาพทำหน้าปกและออกแบบหน้าปกโดยผู้เขียน ใน Canva รูปภาพประกอบเนื้อหาโดยผู้เขียน เกี่ยวกับผู้เขียน ภัคฒ์ชาลิสา จำปามูล จบการศึกษา: พยาบาลศาสตรบัณฑิต จากวิทยาลัยพยาบาลศรีมหาสารคาม กระทรวงสาธารณสุข และสาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต (อนามัยสิ่งแวดล้อม) จากมหาวิทยาลัยขอนแก่น มีความสนใจและประสบการณ์เกี่ยวกับ: สุขภาพ จิตวิทยาเชิงบวก การบำบัดน้ำเสียและกำจัดสิ่งปฏิกูล ปลูกชะพลูในกระถาง ให้งาม ดูแลง่าย ทำแบบไหนดี ปลูกตะไคร้หน้าบ้าน ดีและมีประโยชน์ ป้องกันดินพังได้ ปลูกกระชายให้หัวใหญ่ หน้าบ้าน ทำไงดี กี่เดือนเก็บได้ เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !