รีเซต

หนุ่มขาดยา ประสาทหลอนคลุ้มคลั่งจุดไฟเผาบ้านตัวเอง

หนุ่มขาดยา ประสาทหลอนคลุ้มคลั่งจุดไฟเผาบ้านตัวเอง
มติชน
5 กันยายน 2563 ( 11:17 )
88
หนุ่มขาดยา ประสาทหลอนคลุ้มคลั่งจุดไฟเผาบ้านตัวเอง

หนุ่มขาดยา ประสาทหลอนคลุ้มคลั่งจุดไฟเผาบ้านตัวเอง

 

เมื่อเวลา 06.30 น. วันนี้ 5 กันยายน 2563 หน่วยกู้ภัยฮุก 31 จุดอำเภอเสิงสาง จังหวัดนครราชสีมา ได้ร่วม กับเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรเสิงสางและฝ่ายปกครองของเทศบาลโนนสมบรูณ์ ต.โนนสมบรูณ์ อ.เสิงสางเข้าระงับเหตุบุคคลเกิดอาการหลอน ขาดยาอาละวาด เผาบ้านตัวเอง ที่บ้าน 2 ชั้น ครึ่งปูนครึ่งไม้ เลขที่ 62 หมู่ที่ 9 บ้านห้วยหิน ต.โนนสมบูรณ์ อ.เสิงสาง จ.นครราชสีมา ทราบชื่อภายหลัง คือ นายสนั่น ไวกระโทก อายุ 50 ปี โดยเจ้าหน้าที่พยายามเกลี้ยกล่อม แต่นายสนั่น ที่คลุ้มคลั่งและเกิดอาการหลอนคิดว่ามีคนตามมาฆ่าได้ถืออาวุธมีดตะขออยู่ตลอดเวลา

 

จนเวลาผ่านไปนายสนั่น ได้จุดไฟเผาเสื้อผ้าตัวเองที่บริเวณที่นอนชั้นสองของบ้านและใช้สิ่งของปาเข้าใส่เจ้าหน้าที่ที่พยายามจะเข้าไประงับเหตุและใช้ตู้มาปิดกั้นประตูไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้าถึงตัวและหลบซ่อนตัวบนชั้น 2 ของบ้าน ซึ่งต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ขอรับการสนับสนุนรถดับเพลิงจากเทศบาลตำบลโนนสมบูรณ์ มาฉีดน้ำเพื่อดับเพลิงและฉีดใส่ตัวนายสนั่นก่อนจะรื้อฝาบ้านแล้วบุกเข้าไปชาร์ทจับกุมตัวได้ในที่สุดและนำส่งโรงพยาบาลเสิงสางเพื่อให้แพทย์รักษาจึงสงบสติอารมณ์ลงได้ และจากการตรวจสอบบริเวณบ้านที่เกิดเหตุพบว่าชั้น 2 ของบ้าน มีร่องรอยการเผาเสื้อผ้าและที่นอนได้รับความเสียหาย

 

จากการสอบถามนางน้อย (นามสมมุติ) แม่ของชายที่คลุ้มคลั่งให้การว่า บุตรชายเป็นผู้ป่วยจิตเวชมีประวัติรักษาตัวที่โรงพยาบาลจิตเวชนครราชสีมาราชนครินทร์ แต่เมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมา ลูกชายไม่ยอมไปรับยาตามที่แพทย์สั่งทำให้ขาดยาจึง มีอาการประสาทหลอนคิดว่ามีคนจำนวนมากมาตามฆ่าจำใครก็ไม่ได้ จึงเกิดอาการคลุ้มคลั่งจุดไฟเผาเสื้อผ้าตัวเองที่บริเวณชั้น 2 เมื่อช่วงเย็นวันที่ 4 กันยายน 2563 แต่ตนเองก็เสี่ยงเข้าไปดับไฟได้ แต่ลูกชายก็ยังไม่สงบสติอารมณ์และยังถือมีดตะขอติดตัวอยู่ตลอดเวลาพร้อมทั้งจุดไฟเผาเสื้อผ้าอีก จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยกู้ภัยฮุก 31 จุดมาช่วยระงับเหตุ ตั้งแต่เวลา 16.30 น.ของวันที่ 4 กันยายน 2563 จนถึงเวลา 07.30 น.ของวันที่ 5 กันยายน 2563 ใช้เวลาร่วม 17 ชั่วโมงจึงสามารถเข้าควบคุมตัวไว้ได้ ทุกวันนี้ตนผู้เป็นแม่ก็อยู่อย่างผวาไม่รู้จะถูกลูกชายทำร้ายเมื่อไหร่ จึงอยากวิงวอนให้แพทย์และฝ่ายปกครองนำตัวลูกชายไปรักษาอาการประสาทหลอนให้หายขาดเพื่อความสงบสุขของครอบครัว