เกาหลีใต้ “สกัดกั้น” ฝูงบินรบทัพจีน-รัสเซียตีเนียนเข้าเขตแสดงตัว

เกาหลีใต้ “สกัดกั้น” - รอยเตอร์และ สเตรตส์ไทมส์ รายงานวันที่ 20 พ.ย. ถึงความตึงเครียดทางการทหารในเอเชียตะวันออก หลังจากเครื่องบินของจีนและรัสเซียบินเข้าเขตแสดงตนเพื่อป้องกันภัยทางอากาศของเกาหลีใต้ (เคเอดีไอซี)

คณะเสนาธิการกองทัพเกาหลีใต้ต้องส่งเครื่องบินขับไล่ 2 ลำและเครื่องบินเติมน้ำมันอีก 1 ลำขึ้นสู่พื้นที่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของเขตเคเอดีไอซี เพื่อเตือนฝูงบิน 9 ลำ เป็นเครื่องบินของจีน 2 ลำ และเครื่องบินรัสเซียอีก 7 ลำว่ากำลังรุกล้ำ

อย่างไรก็ตาม กองทัพจีนชี้แจงว่าฝูงบินจีนและรัสเซียอยู่ระหว่างปฏิบัติภารกิจตามปกติ “เราประเมินว่าสถานการณ์นี้เป็นการซ้อมรบร่วมของจีนและรัสเซีย ถึงอย่างนั้นเราจำเป็นต้องวิเคราะห์ข้อมูลเพิ่มเติม” คณะเสนาธิการกองทัพเกาหลีใต้ระบุในแถลงการณ์

ก่อนหน้านี้มีรายงานว่าเครื่องบินรบของจีนและรัสเซียบินเข้าเขตแสดงตนของหลายประเทศในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา และเพราะเขตเอดีไอซีไม่ใช่น่านฟ้า แต่เป็นพื้นที่ที่ประเทศต่างๆ อาจเรียกร้องให้เครื่องบินต่างชาติดำเนินการพิเศษเพื่อระบุตัวตนเพียงฝ่ายเดียว รวมทั้งไม่มีกฎหมายระหว่างประเทศควบคุม

รัสเซียจึงไม่ยอมรับการกำหนดเขตแสดงตนเพื่อป้องกันภัยทางอากาศของเกาหลีใต้ ส่วนจีนระบุว่าพื้นที่ดังกล่าวไม่ใช่น่านฟ้าของประเทศใดประเทศหนึ่งและทุกประเทศควรมีเสรีภาพทางอากาศ

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงที่จีนเพิ่มกิจกรรมทางการทหารทั่วภูมิภาคเอเชีย รวมถึงกรณีส่งเครื่องบินขับไล่ เครื่องบินต่อต้านเรือดำน้ำ และเครื่องบินสอดแนม รวม 8 ลำเข้าเขตแสดงตนของไต้หวัน เมื่อต้นเดือนพ.ย.ที่ผ่านมา และเพิ่งเกิดการเผชิญหน้าระหว่างเรือยามชายฝั่งของจีนกับเรือขนส่งของฟิลิปปินส์ในทะเลจีนใต้เมื่อวันที่ 16 พ.ย.

นอกจากนี้เครื่องบินรบของเกาหลีใต้เคยกระหน่ำยิงหลายร้อยนัดเพื่อเตือนเครื่องบินขับไล่ของรัสเซียหลังบินเข้าน่านฟ้าเกาหลีใต้ขณะร่วมภารกิจลาดตระเวนกับกองทัพจีนเมื่อปี 2562 พร้อมประณามจีนและรัสเซียอย่างดุเดือดต่อการรุกล้ำน่านฟ้าของประเทศ แต่ทางการจีนและรัสเซียยืนกรานปฏิเสธ