สีจิ้นผิงจะไม่ยอม บี้วิถีรวยกระจุก สั่งตั้งระบบกระจายความมั่งคั่ง

สีจิ้นผิงจะไม่ยอม - ซีเอ็นเอ็น รายงานว่า สี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน ประกาศกระจายความมั่งคั่งในประเทศซึ่งสร้างแรงกดดันให้กับกลุ่มมหาเศรษฐีที่และธุรกิจที่ร่ำรวยที่สุดในประเทศ
สำนักข่าวซินหัว สื่อทางการของจีนรายงานว่า สีกล่าวต่อผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์เมื่อวันอังคารว่ารัฐบาลจะต้องสร้างระบบเพื่อกระจายความร่ำรวยเพื่อประโยชน์ที่เป็นธรรมต่อสังคมและจำเป็นต้องออกกฎระเบียบเพื่อจูงใจให้กลุ่มคนที่มีรายได้สูงมากและธุรกิจร่ำรวยคืนความร่ำรวยสู่สังคม
แฟ้มภาพ สี จิ้งผิง / Xinhua
แม้ซินหัวไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดว่าสีจะทำให้บรรลุเป้าหมายได้อย่างไร แต่กล่าวว่ารัฐบาลจะพิจารณาภาษีหรือวิธีการอื่นๆ เพื่อกระจายรายได้และความมั่งคั่ง
สียังกล่าวถึงความจำเป็นที่ชาวจีนจะมีความรุ่งเรืองถ้วนหน้า ท่ามกลางกระแสวิจารณ์พรรคคอมมิวนิสต์ในโอกาสครบรอบ 100 ปี เพื่อสืบอำนาจและพัฒนาประเทศไปสู่ประเทศที่พัฒนาแล้วโดยสมบูรณ์ ร่ำรวยและทรงอำนาจ ภายในปี 2592 หรืออีก 28 ปีข้างหน้า
สีกล่าวในที่ประชุมผู้นำว่าด้วยเศรษฐกิจชาติว่าความเจริญโดยทั่วเป็นความเจริญของประชาชนทั้งปวง ไม่ใช่ความรุ่งเรืองของคนเพียงหยิบมือเดียว
สีจิ้นผิง เลขาธิการใหญ่คณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน รับฟังเรื่องราวการพัฒนาอุตสาหกรรมชาของท้องถิ่นระหว่างเยี่ยมชมไร่ชาที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมในเมืองหนานผิง มณฑลฝูเจี้ยนทางตะวันออกของจีน วันที่ 22 มี.ค. 2021 / Xinhua
ถ้อยคำสำคัญ
คำกล่าวของประธานาธิบดีย้อนให้ระลึกถึงคำพูดของประธานเหมา เจ๋อตง อดีตผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์ซึ่งเคยกล่าวไว้ในช่วงกลางศตวรรษที่แล้วว่าจะมุ่งมั่นปฏิรูปเศรษฐกิจครั้งใหญ่เพื่อกระจายอำนาจจากเจ้าของที่ดินและเกษตรกรที่ร่ำรวย รวมทั้ง ชนชั้นสูงในชนบท
เหมาปกครองประเทศในช่วงเปลี่ยนผ่านเศรษฐกิจและสังคมขนานใหญ่ แต่ประสบปัญหามากมาย การปฏิรูปวัฒนธรรมสิ้นสุดลงพร้อมกับการอสัญกรรมของเหมาในปี 2519
REUTERS
หลังจากนั้น จีนเริ่มเปิดเสรีทางเศรษฐกิจเป็นเวลาหลายทศวรรษภายใต้การนำของเติ้ง เสี่ยวผิง
เติ้งใช้วลีของตนเองว่า “ความเจริญโดยทั่วไป” เมื่อกล่าวถึงจีนในยุคที่กำลังเข้าสู่ตลาดเสรีตามหลักเศรษฐกิจสังคมนิยมและเปิดประเทศสู่โลกตะวันตก
ครั้งหนึ่ง เติ้งเคยกล่าวว่าผู้แทนนักบริหารองค์กรชาวอเมริกันเมื่อปี 2528 ว่าบางพื้นที่และบางคนต้องรวยก่อน จากนั้น จะนำคนอื่นๆและช่วยเหลือพื้นที่อื่น รวมทั้ง คนอื่นให้รวยตามซึ่งความเจริญโดยทั่วไปจะสำเร็จได้อย่างค่อยเป็นค่อยไป
นครเซี่ยงไฮ้ / Xinhua
หลายปีที่ผ่านมา จีนเปลี่ยนผ่านสถานะจากประเทศยากจนมาเป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก เป็นหนึ่งในผู้นำด้านธุรกิจและเทคโนโลยีที่ยิ่งใหญ่ การเติบโตอย่างรวดเร็วทำให้จีนแซงหน้าสหรัฐฯ ในฐานะที่เป็นผู้นำเศรษฐกิจโลกภายในทศวรรษเดียว
ความเหลื่อมล้ำมากขึ้น
ภาคเอกชนและจำนวนคนร่ำรวยทะยานสูงขึ้น ในปี 2562 จีนมีจำนวนคนรวยมากกว่าเศรษฐีอเมริกันเป็นครั้งแรก แต่ช่องว่างระหว่างคนรวยและคนจนและคนในเมืองและคนชนบทถ่างขึ้นทุกขณะ
ปัญหานี้ก่อกวนใจสีอย่างมาก ผู้นำจีนให้คำมั่นกับพรรคคอมมิวนิสต์เมื่อวันอังคารว่าจะยอมให้บางคนรวย บางพื้นที่รวยก่อนตามการปฏิรูปซึ่งย้อนกลับไปเมื่อ 40 กว่าปีก่อน
เขตชนบทจีน / Xinhua
ย้อนแย้งกับคำพูดของตนเองที่เคยกล่าวไว้เมื่อขึ้นดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีเมื่อปี 2555 ว่าต้องตระหนักว่าความเจริญโดยทั่วไปของประชาชนทั้งปวงเป็นสิ่งสำคัญ
สีจิ้นผิงจะไม่ยอม สั่งปราบคอร์รัปชั่น
สีมุ่งมั่นกับการกระจายความมั่งคั่งตามเป้าหมายด้านเศรษฐกิจของรัฐบาล เมื่อไม่กี่เดือนมานี้ จีนปราบปรามความเสี่ยงทางการเงินทั้งในแวดวงเทคโนโลยี การศึกษาและภาคอื่นๆ เพื่อปกป้องเศรษฐกิจ รวมทั้ง ขจัดการคอร์รัปชันเพื่อพิทักษ์ความมั่นคงของชาติและปกป้องผลประโยชน์ประชาชน
A screen shows Chinese President Xi Jinping during a show commemorating the 100th anniversary of the founding of the Communist Party of China at the National Stadium in Beijing, China June 28, 2021. REUTERS/Thomas Peter
ขณะที่หน่วยงานกำกับดูแลตำหนิภาคเอกชนที่ก่อปัญหาเศรษฐกิจและสังคมอย่างกว้างขวางส่งผลกระทบให้สังคมไร้เสถียรภาพและกระทบต่ออำนาจของพรรคซึ่งการล้มล้างองค์กรเอกชนสร้างความตื่นตระหนกให้กับนักลงทุนทั่วโลกและความวิตกกังวลต่อนวัตกรรมและการเติบโตทางเศรษฐกิจของจีน
แต่ที่ผ่านมา เศรษฐกิจของจีนแสดงสัญญาณความอ่อนแอ ข้อมูลที่เปิดเผยเมื่อวันจันทร์ที่ 16 ส.ค. ระบุว่าเศรษฐกิจฟื้นตัวช้า ขณะที่อัตราการว่างงานในกลุ่มคนหนุ่มสาวพุ่งสูงขึ้นสู่ระดับที่เลวร้ายที่สุดในรอบปี
ด้านนักเศรษฐศาสตร์ชี้ให้เห็นปัจจัยหลายประการที่ฉุดรั้งการเติบโตทางเศรษฐกิจ ได้แก่ การระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา ภัยพิบัติธรรมชาติ ความเสี่ยงด้านหนี้สินที่เพิ่มขึ้นและทัศนคติของนักลงทุนต่อกฎระเบียบ
วันเดียวกัน เทนเซนต์ บริษัทเกมยักษ์ใหญ่ แจ้งผลประกอบการไตรมาสที่สองของบริษัท ว่ารายได้เพิ่มร้อยละ 20 เป็นจำนวน 21,300 ล้านดอลลาร์ และทำกำไรเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 29 คิดเป็นจำนวน 6,600 ล้านหยวน
ยักษ์ใหญ่วงการออนไลน์จีน
การแถลงผลประกอบการดังกล่าว ถูกจับตาเป็นพิเศษ เพราะอยู่ในช่วงที่ทางการจีนเพิ่มการควบคุมภาคเอกชน จนถึงขั้นกวาดล้าง นับเฉพาะกรณีเทนเซนต์ ก็สูญเสียมูลค่าในตลาดไปถึง 4 แสนดอลลาร์ หลังจากกรรมการกำกับหลักทรัพย์ใช้กฎระเบียบใหม่ และสั่งให้ยกเครื่องธุรกิจบางส่วน
มาร์ติน หลิว ประธานเทนเซนต์ กล่าวว่า สมควรแล้วที่จะใช้กฎระเบียบใหม่ มุ่งไปที่อุตสาหกรรมที่ไม่ชอบมาพากล และเพื่อปรับกฎให้มีประสิทธิภาพ