สืบสานวัฒนธรรมภาคใต้ “ครูหมอโนรา” ความเชื่อที่มีมายาวนานจากอดีตสู่ปัจจุบัน ในดินแดนภาคใต้ของประเทศไทย ที่เปี่ยมไปด้วยวัฒนธรรมและประเพณีอันเก่าแก่ หนึ่งในมรดกที่ทรงคุณค่าที่สุดคือ “โนรา” หรือ “มโนราห์” ศิลปะการแสดงพื้นบ้านที่งดงามและแฝงไว้ด้วยจิตวิญญาณความศรัทธาต่อครูบาอาจารย์และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่สืบทอดกันมาหลายชั่วอายุคน โนราไม่ได้เป็นเพียงการร่ายรำเพื่อความบันเทิงเท่านั้น แต่ยังเป็นพิธีกรรมที่เชื่อมโยงระหว่างโลกของคนกับโลกของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เป็นสัญลักษณ์ของ “ครูหมอ” หรือ “ครูโนรา” ที่ชาวใต้นับถือกันอย่างลึกซึ้ง ในปี พ.ศ. 2564 องค์การยูเนสโก (UNESCO) ได้ประกาศขึ้นทะเบียน “โนรา” เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ (Intangible Cultural Heritage of Humanity) ซึ่งถือเป็นเกียรติภูมิของประเทศไทย และเป็นเครื่องยืนยันถึงคุณค่าทางจิตใจและศิลปะที่บรรพบุรุษได้สืบทอดไว้ให้ลูกหลานอย่างไม่เสื่อมคลาย “โนรา” มีต้นกำเนิดมาจากตำนานอันศักดิ์สิทธิ์เกี่ยวกับ “พระสุธนมโนราห์” ซึ่งเป็นเรื่องราวรักระหว่างเจ้าชายกับนางกินรี การร่ายรำของโนราจึงได้รับแรงบันดาลใจจากการร่ายรำของนางมโนราห์ในตำนาน ผสมผสานกับจารีตและพิธีกรรมของท้องถิ่นภาคใต้ ทำให้เกิดการแสดงที่มีทั้งลีลาอ่อนช้อย ท่วงท่าคมชัด และจังหวะกลองปี่อันเร้าใจ โนราไม่ได้เป็นเพียงศิลปะการแสดงเท่านั้น แต่ยังเป็นพิธีกรรมที่มีพลังทางจิตวิญญาณ โดยเฉพาะใน “พิธีไหว้ครูหมอโนรา” ที่จัดขึ้นเพื่อบูชาครูบาอาจารย์และ “ตาพรานบุญ” ผู้ถือเป็นครูใหญ่ของหมอโนรา ซึ่งชาวใต้มักเรียกว่า “ครูหมอโนรา” หรือ “ครูพรานบุญ” ผู้เป็นผู้ให้กำเนิดและปกปักรักษาศิลปะนี้ให้คงอยู่สืบมา 🔥 ตาพรานบุญ – ครูใหญ่แห่งโนรา “ตาพรานบุญ” เป็นบุคคลสำคัญในตำนานของชาวใต้ เชื่อกันว่าเป็นผู้มีอิทธิฤทธิ์และวิชาความรู้สูง มีความเกี่ยวพันกับเรื่องราวของพระสุธนมโนราห์ และเป็นผู้ถ่ายทอดวิชาให้แก่หมอโนรา ตาพรานบุญจึงถูกยกย่องเป็น “ครูใหญ่” หรือ “ครูหมอ” ที่ทุกคนต้องเคารพบูชา ทุกครั้งที่มีพิธีไหว้ครูหมอโนรา หรือพิธีรำโนราใหญ่ จะต้องมีการบูชาตาพรานบุญก่อน เพื่อขออนุญาตเปิดพิธี และขอพรให้แสดงรำได้อย่างราบรื่น ไม่เกิดอุปสรรค และได้รับพรแห่งความรุ่งเรือง 🕯️ พิธีขึ้นหิ้งตาพรานบุญ – พิธีศักดิ์สิทธิ์แห่งความศรัทธา เมื่อไม่นานมานี้ ผู้เขียนได้มีโอกาสร่วมเป็นสักขีพยานในพิธี “ขึ้นหิ้งตาพรานบุญ”(ของน้าสาว) ซึ่งเป็นพิธีศักดิ์สิทธิ์ของชาวใต้และหมอโนรา เป็นพิธีที่แสดงถึงการให้เกียรติและระลึกถึงครูบาอาจารย์ที่สืบทอดวิชามา การตั้งหิ้งตาพรานบุญ หิ้งครูถือเป็นสถานที่สำคัญ เป็นเหมือน “ที่ประทับ” ของครูพรานบุญและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่คุ้มครองผู้ประกอบพิธี โดยมีหลักการตั้งที่ถือปฏิบัติกันมาแต่โบราณ ดังนี้ ตำแหน่ง: หิ้งตาพรานบุญต้องตั้ง ต่ำกว่าพระพุทธรูป เพื่อแสดงความเคารพต่อพระรัตนตรัย ทิศทาง: หันหน้าไปทาง ทิศเหนือ ตะวันออก หรือ ตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งถือเป็นทิศมงคลสำหรับการบูชา ของไหว้บูชา: พวงมาลัย ธูป 9 ดอก เทียน 1 เล่ม หมากพลูยาสูบ 1 ชุด น้ำเปล่า ผลไม้ หรือขนมไทย ของที่ใช้ในการบนบาน ในกรณีที่ผู้บูชามีความต้องการขอพรหรือบนบานตาพรานบุญ มักใช้สิ่งของดังนี้ เหล้าขาว 1 ขวด ผ้าขาวม้า 1 ผืน บางครั้งเพิ่มมะพร้าวอ่อน ประทัด หรือหัวหมูต้ม ขั้นตอนการบูชา 1. จัดเตรียมของไหว้ให้พร้อม วางบนหิ้งครู 2. จุดธูปเทียน พร้อมตั้งจิตอธิษฐานระลึกถึงตาพรานบุญ 3. กล่าวคาถาบูชา เช่น > “นะ ชา ลี ติ ออ อา ออ แอ รึก รือ ลึก ลือ ชัยยะ ชัยยะ สิริโภคา นะมาสะโย” 4. กล่าวชื่อของตนเองและสิ่งที่ตั้งใจจะขอพร 5. หลังบูชาแล้ว ควรสำรวมจิต ตั้งใจทำความดีตามที่บนบานไว้ การไหว้ตาพรานบุญไม่ใช่เพียงการขอพร แต่เป็นการแสดงความกตัญญูต่อ “ครูหมอ” และสืบสานสายสัมพันธ์ระหว่างคนกับจิตวิญญาณแห่งโนรา 💫 ครูหมอโนรา – ผู้สืบสายศิลป์และจิตวิญญาณ “ครูหมอโนรา” ไม่ได้หมายถึงเพียงผู้ที่รำโนราได้ แต่ยังเป็นผู้ที่ได้รับการถ่ายทอดวิชาและพิธีกรรมจากรุ่นสู่รุ่น ผ่านการ “ครอบครู” ซึ่งเป็นพิธีที่สำคัญอย่างยิ่งในสายโนรา การครอบครูเปรียบเสมือนการประกาศตนว่าได้รับอนุญาตจากครูหมอให้ประกอบพิธีและรำโนราได้อย่างถูกต้องตามจารีต ภายในพิธีครอบครู จะมีการร่ายรำบูชาครู การขับร้องบทครู และการกล่าวคำสัตย์สาบานว่าจะไม่ลบหลู่หรือผิดครู เมื่อพิธีเสร็จสิ้น ผู้ผ่านการครอบครูจะถูกยกย่องเป็น “ลูกศิษย์ครูหมอโนรา” อย่างสมบูรณ์ สิ่งที่น่าประทับใจคือ แม้ในยุคสมัยที่เทคโนโลยีและความบันเทิงสมัยใหม่เข้ามาแทนที่ แต่หมอโนราและลูกศิษย์ทั่วภาคใต้ยังคงรักษาขนบนี้ไว้ ด้วยความเคารพและศรัทธาอย่างแรงกล้า เพราะพวกเขาเชื่อว่า “หากลืมครู หมายถึงลืมรากเหง้าแห่งตัวตน” 🎭 โนราในยุคปัจจุบัน – ศิลป์แห่งจิตวิญญาณที่ยังหายใจ ทุกวันนี้ โนราไม่ได้ถูกจำกัดอยู่เพียงในเวทีวัดหรืองานบุญเท่านั้น แต่ยังได้รับการสืบสานและปรับรูปแบบให้เข้ากับยุคสมัย มีการจัดแสดงในงานวัฒนธรรมระดับชาติ งานมหกรรมศิลปะ และยังเข้าสู่เวทีโลกในฐานะ “ศิลปะมรดกของมนุษยชาติ” หลายโรงเรียนในภาคใต้ได้บรรจุ “การรำโนรา” ไว้ในหลักสูตร เพื่อปลูกฝังให้เยาวชนรู้จักและภาคภูมิใจในวัฒนธรรมท้องถิ่น ขณะเดียวกันยังมี “ครูหมอโนรารุ่นใหม่” ที่กลับมาสืบทอดและถ่ายทอดความรู้จากบรรพบุรุษ โดยยังคงรักษาหัวใจสำคัญของศิลปะนี้ไว้ คือ “ความกตัญญู ความเคารพครู และความเชื่อในพลังศักดิ์สิทธิ์แห่งจิตใจ” 🪶 ความเชื่อและพลังแห่งศรัทธา เบื้องหลังการร่ายรำที่งดงามของโนรา คือความศรัทธาที่ลึกซึ้งต่อ “ครูหมอ” และ “ตาพรานบุญ” ชาวใต้มักกล่าวกันว่า > “ผู้ใดรำโดยไม่ไหว้ครู วิชานั้นไม่ขึ้น” เพราะในความเชื่อของโนรา ทุกการร่ายรำคือการสื่อสารกับครูบาอาจารย์ เป็นการรำถวายครู เพื่อให้ครูประสิทธิ์พร และปกป้องผู้แสดงจากอันตรายทั้งปวง แม้โลกจะเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัล แต่ศรัทธาในครูหมอโนรายังคงมั่นคงไม่เสื่อมคลาย ผู้คนในชุมชนยังคงตั้งหิ้งครู บูชาตาพรานบุญ และจัดพิธีไหว้ครูอย่างต่อเนื่อง เพื่อสืบสานรากเหง้าแห่งจิตวิญญาณใต้ที่งดงามไม่รู้จบ “โนรา” ไม่ได้เป็นเพียงการแสดง แต่คือ ชีวิต ศรัทธา และความภาคภูมิใจของคนใต้ ทุกท่วงท่าการร่ายรำคือบทสวดแห่งความเคารพต่อครูหมอและตาพรานบุญ ทุกเสียงปี่กลองคือการบอกเล่าเรื่องราวของความเชื่อที่สืบต่อกันมาหลายร้อยปี วันนี้ เมื่อเรามองเห็นการรำโนราบนเวที ไม่ว่าจะเป็นในงานวัด งานบุญ หรือเวทีนานาชาติ จงระลึกไว้ว่า เบื้องหลังความงามนั้น คือหัวใจแห่งศิลปินผู้ศรัทธาในครูหมอ คือจิตวิญญาณแห่งคนใต้ที่ยังคงเต้นอยู่ไม่ต่างจากเสียงกลองโนราในอดีตกาล > “โนรา” – ไม่ใช่เพียงมรดกของภาคใต้ แต่คือ มรดกแห่งหัวใจไทยทั้งชาติ โนรา คือความงามของศิลปะและศรัทธา 🕯️ ครูหมอโนรา คือจิตวิญญาณแห่งความกตัญญู 🌿 ตาพรานบุญ คือครูผู้ปกปักรักษาวัฒนธรรมใต้ให้ยั่งยืนชั่วลูกชั่วหลาน ภาพประกอบ/ภาพหน้าปก:ผู้เขียน เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !