สวัสดีค่ะผู้อ่านที่น่ารักทุกท่าน วันนี้ผู้เขียนอยากแนะนำการเลี้ยงปลาที่ช่วยประหยัดต้นทุนมาฝากกันค่ะ โดยวิธีนี้เป็นวิธีที่ผู้เขียนเองใช้เลี้ยงปลาในบ่อที่สวนของผู้เขียนเองค่ะ ปลาที่เลี้ยงไว้ก็จะใช้วิธีเลี้ยงรวมกัน เช่น ปลานิล ปลาทับทิม ปลาตะเพียน ปลายี่สก ปลานวลจันทร์ ปลาสวาย ปลาดุก ปลาคัง ซึ่งปลาเหล่านี้สามารถอยู่ร่วมกันได้แบบพึ่งพาอาศัยกัน แต่เราจะต้องรู้ชนิดของปลาด้วยว่าเป็นปลาชนิดไหน รวมถึงลักษณะนิสัย กินอะไรได้บ้างและอัตราการปล่อยระหว่างปลากินพืชและปลากินเนื้อแบบ 3:1 เนื่องจากปลากินเนื้อ เช่น ปลาดุก ปลาคัง ปลาสวาย นิสัยจะค่อนข้างดุร้ายและหวงถิ่น ดังนั้นเราจึงปล่อยในอัตราที่น้อยกว่าปลากินพืช เพื่อให้ปลากินเนื้อได้กำจัดเศษซากอาหารที่อยู่ใต้น้ำ ส่วนปลากินพืช เช่น ปลานิล ปลาทับทิม ปลาตะเพียน ยี่สก สามารถกินพืชผัก ผลไม้ได้ทุกชนิด วันนี้ผู้เขียนจะพามาดูวิธีการเลี้ยงปลาแบบประหยัดต้นทุนและทำให้ปลาโตไวมาฝากกันคะ1. ใช้เศษผักและวัชพืชในแปลงผัก ที่สวนของผูเขียนจะปลูกผักไว้กินเอง เมื่อทำการเก็บผักทุกครั้งหรือทำการรื้อแปลงผักเพื่อปลูกใหม่นั้น ก็จะมีผักที่ใบแก่ ใบขาด และไม่สมบูรณ์ มีรากพืชและวัชพืชต่าง ๆ ที่จะต้องกำจัดทิ้ง โดยการนำไปให้ปลาในบ่อกินเป็นอาหาร เป็นการกำจัดพืชผักและหญ้าโดยไม่ต้องทิ้งให้สูญเปล่าด้วยค่ะ เครดิตภาพโดย ผู้เขียน2. ใช้เศษอาหารเหลือทิ้ง อาหารที่เหลือจากในครัว เช่น ข้าว ผักเคียง เศษอาหารต่าง ๆ สามารถนำมาเลี้ยงปลาได้ทั้งหมด ถ้าเป็นอาหารที่มีไขมันให้นำไปล้างน้ำออกก่อน เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำในบ่อเสีย เครดิตภาพโดย ผู้เขียน3. ใช้รำที่ได้จากการสีข้าวเปลือก รำจัดเป็นแหล่งอาหารชั้นเยี่ยมเพราะมีทั้งเยื่อข้าวที่ถูกขัดสีออก และจมูกข้าวที่มีประโยชน์ต่อปลากินพืชเป็นอย่างมาก โดยจะนำเอารำไปหว่านที่ผิวน้ำให้ปลากินได้เลย4. หนอนและแมลงต่าง ๆ เนื่องจากคุณพ่อได้เลี้ยงจิ้งหรีดไว้ข้างบ้าน เมื่อเก็บจิ้งหรีดออกแล้วจึงมีจิ้งหรีดที่ตายอยู่ข้างล่าง จึงเก็บเอามาให้ปลากิน แมลงทุกชนิดเป็นแหล่งโปรตีนชั้นเยี่ยมที่ช่วยให้ปลาเจริญเติบโตเร็ว5. ผลไม้สุกที่มีตามฤดู ผลไม้ในสวน เมื่อสุกจนกินไม่ทันก็จะนำเอามาให้ปลากินเป็นอาหาร หรือบ้านใกล้ ๆ มีผลไม้เยอะจนกินไม่ทันก็ไปขอเก็บเอามาให้ปลา กินเป็นอาหาร ช่วยประหยัดเงินได้เยอะเลยค่ะ เครดิตภาพ https://bit.ly/3b1L8duเป็นอย่างไรกันบ้างคะ กับวิธีการเลี้ยงปลาแบบประหยัดต้นทุน บางทีเราอาจจะมองข้ามสิ่งของที่อยู่ใกล้ตัว และไปซื้ออาหารราคาแพงมาให้ปลากิน ซึ่งบางครั้งก็ทำให้มีต้นทุนที่สูงลิ่ว ดังนั้น 5 วิธีที่ผู้เขียนได้แนะนำไป ก็สามารถนำไปใช้เพื่อประหยัดเงินในกระเป๋าได้นะคะ สำหรับวันนี้ต้องขอตัวลาไปก่อน แล้วพบกันใหม่ในบทความหน้าค่ะ