สวัสดีครับเพื่อนๆ เกมเมอร์ทุกท่าน วันนี้ผมจะมารีวิวเกมที่ผมเพิ่งเล่นจบไปหมาดๆ นั่นก็คือ Soul Nomad & the World Eaters เกมแนว Tactical RPG สุดคลาสสิกจากค่าย Nippon Ichi Software ที่กลับมาอีกครั้งในรูปแบบ Remaster บน Steam ครับ บอกเลยว่าตอนแรกที่เห็นข่าวเกมนี้ออก ผมนี่กรี๊ดเลย เพราะสมัยเด็กๆ เคยเล่นภาค PS2 แล้วติดหนึบมาก ชอบระบบการเล่น ชอบเนื้อเรื่อง ชอบตัวละคร คือมันใช่ไปหมด พอรู้ว่าจะได้กลับมาสัมผัสอีกครั้งในกราฟิกที่สวยขึ้น แถมยังเล่นบน PC ได้ด้วย ก็เลยไม่พลาดที่จะจัดมาเล่นทันที เอาล่ะ เกริ่นมาเยอะแล้ว งั้นผมขอพาทุกคนดำดิ่งสู่โลกแห่ง Soul Nomad & the World Eaters พร้อมรีวิวแบบเจาะลึกทุกแง่มุมกันเลยดีกว่าครับ เนื้อเรื่อง: เลือกเส้นทางแห่งการทำลายล้างหรือช่วยเหลือ ใน Soul Nomad & the World Eaters เราจะได้รับบทเป็น Gig ตัวเอกของเรื่อง ผู้ซึ่งเป็นร่างสถิตของอาวุธโบราณสุดทรงพลังที่มีชื่อว่า "World Eaters" จุดเริ่มต้นของเรื่องราวเกิดขึ้นเมื่อ Gig ถูกปลุกขึ้นมาจากการหลับใหลโดย Revya เด็กสาวผู้มีพลังวิญญาณ และจากนั้นการเดินทางสุดอลหม่านก็เริ่มต้นขึ้น สิ่งที่ผมชอบมากในเกมนี้คือการเล่าเรื่องที่ไม่ได้จำกัดแค่เส้นทางเดียว เราสามารถเลือกเส้นทางการเล่นได้ว่าจะเป็น "เส้นทางแห่งการทำลายล้าง" หรือ "เส้นทางแห่งการช่วยเหลือ" ซึ่งแต่ละเส้นทางจะมีเนื้อเรื่องแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ผมรู้สึกว่ามันเหมือนได้เล่นสองเกมในหนึ่งเดียวเลยล่ะครับ ตอนแรกผมเลือกเล่นเส้นทางแห่งการทำลายล้างก่อน บอกเลยว่าเล่นไปนี่ขนลุกไป Gig นี่มันร้ายกาจมาก พูดจาจิกกัดตลอดเวลา แถมยังชอบยุยงให้เราทำเรื่องชั่วร้ายต่างๆ นานา เช่น การปล้นสะดมหมู่บ้าน บุกโจมตีเมือง หรือแม้กระทั่งสังหารผู้บริสุทธิ์ ซึ่งบางครั้งตัวเลือกเหล่านี้ก็ทำให้ผมรู้สึก conflicted เหมือนกันนะ คือแบบ "เฮ้ย ทำแบบนี้มันโหดร้ายไปหรือเปล่า" แต่ในความร้ายกาจนั้น Gig ก็มีความตลกแบบกวนๆ ที่ทำให้ผมหลุดขำออกมาบ่อยครั้ง ตัวอย่างเช่น ตอนที่ Gig แนะนำให้ผมไป "ทักทาย" ชาวบ้านด้วยการใช้ลูกไฟเผาบ้านพวกเขา คือมันชั่วร้ายมาก แต่ก็อดขำไม่ได้จริงๆ พอเล่นจบรอบแรก ผมก็ไม่รอช้า รีบกลับไปเล่นเส้นทางแห่งการช่วยเหลือทันที คราวนี้ Gig จะกลายเป็นตัวละครที่ใจดีขึ้น (แต่ก็ยังกวนประสาทเหมือนเดิม) เนื้อเรื่องในเส้นทางนี้จะเน้นไปที่การช่วยเหลือผู้คนและสร้างมิตรภาพ ซึ่งทำให้ผมรู้สึกอินและผูกพันกับตัวละครมากขึ้น อย่างเช่น ตอนที่ต้องช่วยเหลือหมู่บ้านเล็กๆ แห่งหนึ่งจากการถูกโจมตีของมอนสเตอร์ หรือตอนที่ต้องออกตามหาสมุนไพรหายากเพื่อรักษาโรคระบาด เหตุการณ์เหล่านี้ทำให้ผมรู้สึกว่าตัวเองเป็นส่วนหนึ่งของโลกในเกมจริงๆ ระบบการเล่น: สนุกไปกับการวางแผนจัดทัพ Soul Nomad & the World Eaters เป็นเกมแนว Tactical RPG ดังนั้นรูปแบบการเล่นหลักๆ ก็คือการวางแผนจัดทัพและต่อสู้กับศัตรูบนแผนที่แบบตาราง ซึ่งเกมนี้มีระบบการต่อสู้ที่ค่อนข้าง unique และมีความซับซ้อนพอสมควร แต่ก็สนุกและท้าทายมากครับ จุดเด่นของระบบต่อสู้ในเกมนี้คือ "Room System" โดยเราสามารถสร้าง "ห้อง" เพื่อนำยูนิตต่างๆ เข้าไปรวมกันเป็นกองทัพขนาดใหญ่ได้ ซึ่งห้องแต่ละห้องก็จะมีขนาดและรูปร่างแตกต่างกันไป เราต้องวางแผนจัดวางยูนิตภายในห้องให้ดี เพราะตำแหน่งของยูนิตจะส่งผลต่อประสิทธิภาพในการโจมตีและป้องกัน ยูนิตแต่ละประเภทก็จะมีความสามารถและรูปแบบการโจมตีที่แตกต่างกันไป เช่น นักดาบ จะมีความสามารถในการโจมตีระยะประชิดที่รุนแรง นักธนู จะมีความสามารถในการโจมตีระยะไกล นักเวทย์ จะมีความสามารถในการใช้เวทมนตร์โจมตีเป็นวงกว้าง เป็นต้น ความสนุกของ Room System คือการที่เราสามารถทดลองจัดทีมได้อย่างอิสระ อยากจะจับยูนิตไหนมาอยู่รวมกันก็ได้ ซึ่งทำให้เกิดกลยุทธ์ที่หลากหลาย ผมนี่ใช้เวลาคิดวางแผนจัดทีมนานมาก บางทีก็ลองผิดลองถูก เปลี่ยนยูนิตเข้าๆ ออกๆ จนกว่าจะเจอทีมที่ลงตัว ยกตัวอย่างเช่น ในช่วงแรกของเกม ผมชอบจัดทีมโดยใช้ นักดาบเป็นแนวหน้า นักธนูอยู่ตรงกลาง และนักเวทย์อยู่แนวหลัง เพื่อให้ นักดาบ คอยรับการโจมตี ส่วน นักธนู และ นักเวทย์ ก็คอยโจมตีสนับสนุนจากระยะไกล แต่พอเล่นไปเรื่อยๆ ผมก็เริ่มลองจัดทีมแบบอื่นๆ เช่น เน้นใช้ยูนิตประเภท Beast ที่มีความสามารถในการโจมตีแบบ AoE หรือเน้นใช้ยูนิตประเภท Magic User ที่มีความสามารถในการใช้เวทมนตร์โจมตีศัตรูหลายตัวพร้อมกัน นอกจาก Room System แล้ว เกมนี้ยังมีระบบอื่นๆ ที่น่าสนใจอีกมากมาย เช่น ระบบ World Map ที่เราสามารถเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ ได้อย่างอิสระ ซึ่งในระหว่างการเดินทาง เราอาจจะพบเจอกับเหตุการณ์ต่างๆ เช่น การถูกโจมตีโดยมอนสเตอร์ การพบเจอกับพ่อค้าเร่ หรือการค้นพบหมู่บ้านลับ ระบบ Item Creation ที่เราสามารถสร้างไอเทมใหม่ๆ ได้จากวัตถุดิบที่เก็บสะสมมา ซึ่งไอเทมบางชนิดก็มีคุณสมบัติพิเศษที่ช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับยูนิตของเราได้ และระบบ Skirmish ที่เราสามารถเข้าร่วมการต่อสู้แบบพิเศษเพื่อรับรางวัลต่างๆ ได้ เช่น ไอเทมหายาก หรือ ยูนิตพิเศษ กราฟิกและเสียง: สวยงามในแบบฉบับอนิเมะ ในส่วนของกราฟิก Soul Nomad & the World Eaters มาในรูปแบบ 2D สไตล์อนิเมะ ซึ่งได้รับการปรับปรุงให้มีความคมชัดมากขึ้น ตัวละครและฉากต่างๆ ถูกวาดออกมาได้อย่างสวยงาม โดยเฉพาะภาพอาร์ตเวิร์คของตัวละครนี่ผมชอบมาก ลายเส้นสวย สีสันสดใส ดูแล้วสบายตา ตัวละครแต่ละตัวก็มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ไม่ว่าจะเป็น Revya เด็กสาวผู้ร่าเริงและมีจิตใจดี Danette อัศวินหญิงผู้แข็งแกร่งและซื่อสัตย์ หรือ Layna นักเวทย์สาวผู้เย็นชาและลึกลับ ส่วนเพลงประกอบก็ทำออกมาได้ดี มีทั้งเพลงแนวสนุกสนาน เพลงแนวเศร้า เพลงแนวตื่นเต้น ซึ่งช่วยเพิ่มอรรถรสในการเล่นได้เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะเพลงตอนต่อสู้กับบอส นี่ฟังแล้วฮึกเหิม อยากจะลุยแหลกให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย เพลงประกอบบางเพลงก็สื่ออารมณ์ของฉากนั้นๆ ได้เป็นอย่างดี เช่น เพลงตอนที่ Gig กำลังครุ่นคิดถึงอดีต หรือเพลงตอนที่ตัวละครต้องเผชิญหน้ากับความสูญเสีย ข้อดี เนื้อเรื่องเข้มข้น มีทางเลือกให้เล่นหลากหลาย ทำให้รู้สึกเหมือนได้เล่นสองเกมในหนึ่งเดียว ระบบการเล่นสนุก ท้าทาย Room System มีความ unique และ flexible สูง กราฟิกสวยงาม ตัวละครมีเอกลักษณ์ ฉากต่างๆ ถูกวาดออกมาอย่างละเอียด เพลงประกอบไพเราะ ช่วยเพิ่มอารมณ์และ immersion ในการเล่น มีระบบเสริมมากมาย เช่น Item Creation, Skirmish ช่วยเพิ่มความหลากหลายในการเล่น ข้อเสีย ระบบ Room System อาจมีความซับซ้อนสำหรับผู้เล่นใหม่ ต้องใช้เวลาทำความเข้าใจพอสมควร เนื้อเรื่องบางช่วงบางตอนอาจจะดูรุนแรงเกินไปสำหรับผู้เล่นบางคน กราฟิกแบบ 2D อาจไม่ถูกใจผู้เล่นที่ชื่นชอบกราฟิกแบบ 3D สรุป โดยรวมแล้ว Soul Nomad & the World Eaters เป็นเกม Tactical RPG ที่ผมประทับใจมาก เนื้อเรื่องเข้มข้น ระบบการเล่นสนุก กราฟิกสวยงาม เพลงประกอบไพเราะ ถึงแม้จะมีข้อเสียอยู่บ้าง แต่ก็ถือว่าเป็นเกมที่คุ้มค่าแก่การเล่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับแฟนๆ เกมแนว Tactical RPG และแฟนๆ ค่าย Nippon Ichi Software ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง ประสบการณ์ระหว่างเล่น ผมใช้เวลาเล่นเกมนี้ไปประมาณ 80 ชั่วโมง โดยแบ่งเป็นเล่นเส้นทางแห่งการทำลายล้าง 40 ชั่วโมง และเส้นทางแห่งการช่วยเหลือ 40 ชั่วโมง บอกเลยว่าคุ้มค่ากับเวลาที่เสียไปจริงๆ เพราะเกมนี้มีเนื้อหาเยอะมาก เล่นได้นาน ไม่รู้สึกเบื่อเลย ช่วงแรกๆ ที่เริ่มเล่น ผมก็งงๆ กับระบบ Room System เหมือนกัน กว่าจะเข้าใจวิธีการเล่น วิธีจัดทีม ก็ใช้เวลาอยู่พักใหญ่ แต่พอเล่นไปเรื่อยๆ ก็เริ่มสนุก เริ่มติด หยุดเล่นไม่ได้เลย บางทีเล่นเพลินๆ ลืมเวลานอนก็มี 555+ สิ่งที่ผมชอบที่สุดในเกมนี้คือเนื้อเรื่อง โดยเฉพาะเส้นทางแห่งการทำลายล้าง มันทำให้ผมได้เห็นมุมมองที่แตกต่าง ได้สัมผัสกับความรู้สึกของตัวร้าย ซึ่งเป็นอะไรที่แปลกใหม่ดี ตอนเล่นนี่อินมาก รู้สึกเหมือนตัวเองเป็น Gig จริงๆ อยากจะครองโลก อยากจะทำลายล้างทุกสิ่ง 555+ (ล้อเล่นนะครับ) ส่วนเส้นทางแห่งการช่วยเหลือก็สนุกไม่แพ้กัน เนื้อเรื่องจะซึ้งกินใจกว่า ทำให้เราได้เห็นถึงความสำคัญของมิตรภาพ ความรัก และการเสียสละ ตอนจบของเส้นทางนี้ทำผมน้ำตาซึมเลย T_T นอกจากเนื้อเรื่องแล้ว ผมก็ชอบระบบ Item Creation ด้วย มันทำให้ผมรู้สึกเหมือนเป็นนักวิทยาศาสตร์ คอยทดลองผสมวัตถุดิบต่างๆ เพื่อสร้างไอเทมใหม่ๆ บางทีก็ได้ไอเทมเจ๋งๆ ที่ช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับยูนิตของเราได้เยอะเลย ส่วนระบบ Skirmish ก็เป็นอีกหนึ่งระบบที่ผมชอบ เพราะมันทำให้ผมได้ทดสอบความสามารถในการจัดทีมของตัวเอง ได้ลองสู้กับศัตรูที่แข็งแกร่ง ซึ่งบางครั้งก็ต้องใช้กลยุทธ์แบบพิเศษ ถึงจะเอาชนะได้ รู้สึกภูมิใจมากเวลาผ่าน Skirmish ยากๆ ได้ ^__^ โดยรวมแล้ว Soul Nomad & the World Eaters เป็นเกมที่มอบประสบการณ์การเล่นที่ยอดเยี่ยมให้กับผม เป็นเกมที่ผมจะจดจำไปอีกนาน และอยากจะแนะนำให้เพื่อนๆ ทุกคนได้ลองเล่นกันดูครับ รับรองว่าไม่ผิดหวังแน่นอน เครดิตภาพ ทางผู้เขียนได้ซื้อเกมนี้มาเล่นเองถ่ายรูปลงเอง เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !