สวัสดีค่ะคุณผู้อ่านที่น่ารักทุกท่าน^^หลาย ๆ ท่านคงชอบทานองุ่นกันใช่มั้ยคะ.. องุ่นมีหลายสายพันธุ์ หลายสี ทั้งมีเมล็ดและไม่มีเมล็ด และเราต่างก็ทราบดีว่า ในองุ่นนั้นอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ หรือสารแอนตี้อ๊อกซิแดนซ์ ( Anti Oxidant ) และเมื่อองุ่นถูกนำมาแปรรูป ให้มีรสชาติและรสสัมผัสที่ต่างไป อีกทั้งยังช่วยให้เก็บรักษาได้นานขึ้น รวมไปถึงสามารถนำมาเป็นส่วนประกอบในอาหารคาวหวานได้อีกมากมาย เราจึงได้ใช้ประโยชน์จากองุ่นอบแห้ง หรือที่เราเรียกกันว่าลูกเกดนั่นเอง “ลูกเกด” ก็คือ องุ่นไร้เมล็ดตากแห้งจนมีสีเข้มเกือบดำ หรือหากผ่านการอบแห้งก็จะมีสีที่เหลืองทองมากกว่า ลักษณะเป็นเมล็ดรี ๆ เล็ก ๆ รสชาติหวาน บางเมล็ดจะออกอมเปรี้ยวนิด ๆ เคี้ยวเพลินและอร่อย สามารนำมาประกอบอาหารได้ทั้งคาวหวาน ส่วนใหญ่จะพบในขนม หรือเบเกอรี่ บ้างก็เอามาหมักแอลกอฮอล์ทำเป็นเหล้า เช่น รัมเรซิ่น เมื่อเรารับประทานลูกเกด เราจะได้รับความหวาน ซึ่งเกิดขึ้นจากน้ำตาลฟรักโทส ที่เป็นน้ำตาลโมเลกุลเดี่ยว สามารถดูซึมเข้าไปในร่างกายได้ทันทีโดยไม่ต้องผ่านกระบวนการย่อยอาหาร และถือเป็นน้ำตาลดีที่จะช่วยรักษาระดับน้ำตาลในระหว่างวันไว้ให้คงที่ จึงทำให้เราไม่รู้สึกอยากของหวาน หรือโหยน้ำตาล และไม่อยากทานของจุบจิบในระหว่างวันอีกด้วย นอกจากนี้ในลูกเกด ยังเป็นแหล่งรวมสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายของคนเรา และยังอุดมไปด้วยแร่ธาตุและวิตามินมากมาย เช่นมีธาตุฟอสฟอรัสและแคลเซี่ยมสูง ช่วยบำรุงกระดูกและฟันมีไฟเบอร์ และเส้นใยอาหารสูง ช่วยให้ระบบการขับถ่ายเป็นปกติมีโพรแทสเซี่ยม และแมกนีเซียม ช่วยการทำงานของระบบประสาทและกล้ามเนื้อมีไนอาซิน, โฟลาซิน ซึ่งก็จัดเป็นกลุ่มประเภทวิตามินบี หรือบีรวม มีคุณสมบัติช่วยบำรุงระบบประสาทมีธาตุเหล็ก ช่วยบำรุงเลือดรวมไปถึงแร่ธาตุและวิตามินอื่นๆอีกหลายชนิด บางตำราก็บอกว่า การดื่มชาลูกเกดจะสามารถลดความอ้วนได้ด้วยนะคะ โดยการใส่ลูกเกดหนึ่งอุ้งมือ ลงไปในน้ำอุ่น ๆ หนึ่งแก้ว แช่ทิ้งไว้ 10-15 นาที แล้วดื่มน้ำให้หมด ทำแบบนี้ก่อนมื้ออาหารทั้งสามมื้อโดยไม่ต้องเปลี่ยนเนื้อลูกเกดในแก้ว แต่หากในระหว่างวันเกิดหิว ก็สามารถตักลูกเกดขึ้นมาเคี้ยวช้าๆ ได้ซัก 3-4 ลูก จะทำให้เราได้รับน้ำตาลจากลูกเกด ส่วนลูกเกดที่เหลือสามารถทานต่อจากอาหารมื้อเย็นได้เลยค่ะ ทราบประโยชน์เยอะแยะมากมายจากลูกเกดแบบนี้แล้ว หวังว่าคุณผู้อ่านจะเลือกทานลูกเกดเป็นของว่าระหว่างวันกันนะคะ^^Cr. ภาพถ่ายทั้งหมดจากผู้เขียนบทความ