"จีน" หยุดอุดหนุนรถใหม่สะดุดกลางปีหลังงบหมดเร็ว l การตลาดเงินล้าน

โดยมีอย่างน้อย 6 เมืองและเทศบาลในประเทศจีน รวมถึงเจิ้งโจว ลั่วหยาง เสิ่นหยาง ฉงชิ่ง และเขตปกครองตนเองซินเจียง ประกาศระงับการให้เงินอุดหนุนการเปลี่ยนรถใหม่ในช่วงเดือนมิถุนายน หลังงบประมาณรอบแรกจากรัฐบาลกลางที่จัดสรรไว้สำหรับโครงการดังกล่าวถูกใช้หมด 

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา รัฐบาลจีนใช้นโยบายอุดหนุนการบริโภคสินค้าราคาแพง เช่น รถยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์บางชนิด เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจที่ชะลอตัว โดยเฉพาะในภาวะที่ภาคอสังหาริมทรัพย์ยังไม่ฟื้นตัว และประชาชนมีความกังวลเรื่องการเติบโตของรายได้และการว่างงาน

โครงการอุดหนุนรถใหม่ได้รับความสนใจอย่างมาก โดยกระทรวงพาณิชย์ของจีนรายงานว่า ภายในวันที่ 31 พฤษภาคม มีผู้ยื่นขอรับสิทธิ์กว่า 4 ล้านราย นำไปสู่ยอดขายปลีกในเดือนพฤษภาคมที่เติบโตเกินคาดถึงร้อยละ 6.4 ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลจากการกระตุ้นผ่านเงินอุดหนุนเหล่านี้

แม้ยังไม่มีการประกาศอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับการจัดสรรงบเพิ่มเติมจากรัฐบาลกลาง แต่คณะกรรมการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติของจีนและกระทรวงการคลังได้ยืนยันว่าโครงการจะดำเนินต่อเนื่องไปจนถึงปี 2025 นักวิเคราะห์จึงคาดว่ารัฐบาลจะจัดสรรงบใหม่ในไตรมาส 3 โดยเริ่มตั้งแต่เดือนกรกฎาคม

อย่างไรก็ตาม โครงการนี้ก็เผชิญเสียงวิจารณ์ไม่น้อย โดยเฉพาะจากอุตสาหกรรมยานยนต์จีนที่กำลังเผชิญการแข่งขันด้านราคาที่รุนแรง ซึ่งกระทบต่อความสามารถในการทำกำไรของผู้ผลิตหลายราย

สื่อของทางการในมณฑลเหอหนานซึ่งเป็นที่ตั้งของเมืองเจิ้งโจว รายงานเมื่อสัปดาห์ที่แล้วโดยอ้างแหล่งข่าวไม่เปิดเผยชื่อว่า รัฐบาลกลางรับทราบถึงช่องโหว่บางประการในโครงการอุดหนุน และกำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาปรับปรุง

หนึ่งในประเด็นปัญหาหลักคือการขาย "รถมือสองเลขศูนย์ไมล์" ซึ่งหมายถึงการนำรถใหม่เอี่ยมมาลงทะเบียนเป็นรถใช้แล้ว และขายในราคาลดพิเศษ เพื่อเร่งระบายสต็อก และใช้ช่องทางนี้เข้าร่วมโครงการอุดหนุน

หนังสือพิมพ์ Dahe Daily ของรัฐบาลเหอหนานระบุว่า การขายรถในลักษณะดังกล่าวเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้งบประมาณอุดหนุนหมดเร็วเกินคาด และต้องระงับโครงการชั่วคราว

ยังมีรายงานว่าผู้ค้าบางรายปลอมแปลงสถานะของรถใหม่หรือรถที่ใช้งานน้อยมากให้เป็นรถมือสอง เพื่อแลกรับสิทธิ์อุดหนุน ซึ่งสร้างความไม่พอใจแก่ทั้งหน่วยงานรัฐและผู้เล่นในอุตสาหกรรม

People’s Daily ซึ่งมักสะท้อนท่าทีของผู้นำจีน ก็เรียกร้องให้มีมาตรการควบคุมการใช้สิทธิ์ผิดประเภทในลักษณะนี้ โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นหลังจากประธานบริษัท Great Wall Motor ออกมาเปิดเผยถึงปัญหานี้อย่างชัดเจนในที่สาธารณะ

ในช่วงต้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา กระทรวงอุตสาหกรรมจีนยังได้เรียกผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่เข้าร่วมประชุม และขอให้ยุติการแข่งขันด้านราคาที่รุนแรง เพื่อรักษาเสถียรภาพของตลาดรถยนต์ภายในประเทศ