สวัสดีครับ หนึ่งในแบรนด์เครื่องดูดฝุ่นไร้สายระดับเทพในปัจจุบันที่หลายๆ คนรู้จักนั้นก็คือ Dyson เทพแห่งเครื่องดูดฝุ่นไร้สายนั้นมีความคิดสร้างสรรค์แปลกๆ ที่ค่อยพัฒนาฟีเจอร์ต่างๆ วันนี้ครีเอเตอร์จะมารีวิวรุ่นน้องเล็กสุดในตระกูลแบรนด์นี้ก็คือ Dyson V8 slim นั้นเองครับดีไซน์และการออกแบบ :การออกแบบของ Dyson V8 slim นั้นจะมีดีไซน์ลักษณะใกล้เคียงกับตัวรุ่นพี่อย่าง Dyson V12 และ V15 ซึ่งจะแตกต่างกันตรงที่ว่าตัว Dyson V8 slim จะมีไซโคลนขนาดใหญ่แยกอยู่บนตัวถังเก็บฝุ่น ต่างจาก V12 ที่จะนำตัวไซโคลนไปไว้บริเวณตัวเครื่องเลย ทำให้มีน้ำหนักและขนาดที่ใหญ่กว่านิดหน่อย ซึ่งถังเก็บฝุ่นนี้มีความจุ 0.54 ลิตร ก็ถือว่ามีความจุเหมาะกับบ้านทั่วไปที่ค่อยทำความสะอาดทุกวันDyson พยายามวิจัยหาทางออกแบบถังเก็บฝุ่นให้ทิ้งฝุ่นลงถังขยะได้โดยไม่ต้องสัมผัสฝุ่นและลดการฝุ้งกระจายของฝุ่น พอหลังจากการใช้งานจริง ฝุ่นบางอย่างเช่น เส้นผมจะไปพันบริเวณฟิลเตอร์กรองฝุ่นหยาบ ส่วนฝุ่นขนาดเล็กตามพวกมุ้งลวดเมื่อดูดเข้ามาแล้ว จำเป็นจะต้องค่อยเคาะอยู่บ่อยๆ เพราะส่วนใหญ่ก็มักจะไปสะสมบริเวณฟิลเตอร์กรองฝุ่นหยาบเหมือนกันและอีก 1 สิ่งที่แตกต่างจากตัวรุ่นพี่คือปุ่มเริ่มทำความสะอาด ที่รุ่นนี้ใช้เป็นตัวทริกเกอร์แบบรุ่นเก่าต้องค่อยกดค้างเพื่อให้ทำงานตลอดเวลา ต่างจากรุ่นใหม่ที่เพียงแค่กดปุ่มครั้งเดียวก็เริ่มทำงานอัตโนมัติเลย ซึ่งตัวทริกเกอร์มีข้อดีข้อเสียต่างกัน อย่างเช่น เวลาดูดพื้นแล้วหัวแปรงเกิดการพันก็เพียงแค่ปล่อยตัวทริกเกอร์ก็หยุดการทำงานเลย ส่วนข้อเสียคือต้องกดตลอดเวลา อาจจะเกิดอาการเมื่อยนิ้วมือได้จุดเด่นอีกอย่างของเครื่องดูดฝุ่นไร้สาย คือสามารถชาร์จแบตเตอรี่และใช้ซ้ำเมื่อแบตเต็มได้ เหมาะกับบ้านที่มีขนาดใหญ่หรือมีสองชั้น แต่ Dyson V8 slim รุ่นนี้มาพร้อมกับตัว Dock ( แท่นชาร์จอเนกประสงค์ ) เพียงแค่เสียบตัวเครื่องกับตัว Dock แบบติดกับผนัง พอเมื่อแบตเตอรี่เต็มก็สามารถยกออกมาทำความสะอาดได้เลย หรือจะเสียบตรงๆ เข้ากับตัวพอร์ตชาร์จบนด้ามจับตัวเครื่องก็ได้เหมือนกันDyson V8 slim จะไม่มีหน้าจอด้านหลังเครื่องเหมือน Dyson V12 หรือตัวรุ่นพี่นะครับ ซึ่งจะมีเพียงแค่ไฟสถานะแบตเตอรี่ 3 ดวงบอกแบตเตอรี่คงเหลือเท่านั้น ส่วนหากต้องการปรับแรงดูด 2 โหมดจะเป็นตัวปุ่มแบบเลื่อนซ้าย-ขวา นั้นเอง เหมาะกับเด็กหรือผู้สูงอายุใช้ เพราะใช้งานไม่ยากแล้วยังปรับแรงดูดง่าย สามารถเข้าใจสถานะได้แบตเตอรี่ง่ายนอกจากนี้ Dyson V8 slim จะมาพร้อมแผ่นกรอง HEPA สีม่วงที่ติดตั้งอยู่หลังเครื่อง เอาไว้สำหรับดักฝุ่นละเอียดได้ถึง 99.99% ไม่ให้ฟุ้งออกมาจากตัวเครื่อง แถมรุ่นนี้มาพร้อมตัวล็อคช่วยให้ซีลแน่นขึ้น ซึ่งแผ่นกรองเหล่านี้สามารถล้างทำความสะอาดเพื่อใช้ซ้ำได้ด้วย Line-Up ปัจจุบันของ Dyson V8 :Dyson รุ่น V8 นั้นที่จำหน่ายในไทย จะมีเพียงแค่ 2 รุ่นตระกูลย่อยให้เลือกคือDyson V8 Slim Fluffy รุ่นน้องเล็กในตระกูล Slim สุดราคา 15,900 บาท มีอุปกรณ์หัวดูดน้อยที่สุด อุปกรณ์เสริมรุ่นพื้นฐาน ไม่มีหัวดูดสำหรับพรมมาให้ แต่ก็เพียงพอสำหรับทำความสะอาดบ้านทั่วไป เป็นรุ่นที่เรานำมารีวิวในวันนี้นั้นเองDyson V8 Focus รุ่นน้องเล็กอีกรุ่น แต่รุ่นนี้ใช้สำหรับดูดฝุ่นตามซอก คียบอร์ด รถยนต์และบนเตียงนอนเท่านั้น จะได้อุปกรณ์เสริมรุ่นใหม่ ไม่มีหัวสำหรับทำความสะอาดพื้นมาให้ ราคา 11,900 บาทหัวดูดพื้น Slim Fluffy สุดล้ำ :หัวดูด Slim Fluffy สุดล้ำ :หนึ่งในพระเอกของ Dyson V8 Slim เลยนั้นก็คือหัวดูด Slim Fluffy มีจุดเด่นอยู่ที่เปลี่ยนจากแปรงขนหรือแปรงยางเป็นแปรงขนแบบไนลอนเรียบๆ แต่เก็บฝุ่นได้ละเอียด ทำให้รุ่นนี้ไม่มีปัญหาการพันกันของเส้นผมตรงแปรงเหมือนกับหุ่นยนต์ดูดฝุ่นหรือเครื่องดูดฝุ่นไร้สายทั่วไป ซึ่งเหมาะสำหรับทำความสะอาดพื้นแข็งพวกพื้นปูน พื้นกระเบื้อง พื้นไม้ในบ้านได้สะอาดเอี่ยม แถมเป็นรุ่น Slim ทำให้มีน้ำหนักที่เบาและขนาดที่เล็กลงกว่ารุ่นธรรมดาอย่าง Dyson V8 Fluffy ถึง 40% เชียวนะด้วยความที่หัวดูด Fluffy เป็นลูกกลิ้งเพื่อให้เก็บฝุ่นได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ส่วนบริเวณด้านหน้าของหัวดูดจึงเว้นเอาไว้ หากเผลออยู่ใกล้ม่านหรือพรมเช็ดเท้าบางๆ ไปก็จะถูกดูดเข้ามาพันกับตัวลูกกลิ้ง Fluffy นั้นเองหัวดูด Slim Fluffy ที่ไม่ธรรมดา :โดยวิศวกรของทาง Dyson ได้เลือกวัสดุเป็นไนลอนในการนำมาใช้เป็นขนแปรงลูกกลิ้งให้กับหัวดูดของรุ่น Fluffy ที่นอกจากจะทำความสะอาดพื้นได้ละเอียดหมดจดแล้ว ยังสามารถนำมาซักล้างทำความสะอาด ตากให้แห้งใหม่เพื่อที่จะนำมาใช้ซ้ำได้ ในกรณีที่เผลอทำการดูดของเหลวเช่น น้ำหวานหรือคราบเหนียวๆ ไปหัวดูดมอเตอร์ขนาดเล็ก :หัวดูดเสริมอีกตัวที่มีใน Dyson V8 Slim คือหัวดูดมอเตอร์ขนาดเล็ก โดยหัวดูดนี้ได้ออกแบบสำหรับการทำความสะอาดเตียงนอน ฟูก โซฟา เฟอร์นิเจอร์หรือเบาะผ้าต่าง ๆ โดยแปรงขนที่ถูกหมุนบนหัวดูดจะตะกุยฝุ่นต่างๆ ที่มีขนาดเล็กติดอยู่ตามวัสดุนุ่มๆ เพื่อให้ตัวเครื่องใช้แรงลมดูดขึ้นไปอีกทีซึ่งข้อเสียของหัวดูดมอเตอร์ขนาดเล็กคือเส้นผมยาวหรือใยผ้าต่างๆ จะพันติดกับตัวขนบนแปรงหมุนง่ายมากก ทำให้ต้องค่อยแกะนำมาทำความสะอาดเองอยู่บ่อยๆ เลยหัวดูดและอุปกรณ์เสริมอื่นๆ :สำหรับรุ่น Dyson V8 Slim นอกจากจะมีหัวดูดแบบ Slim fluffy และหัวดูดมอเตอร์ขนาดเล็กที่พูดถึงไปแล้ว ก็ยังมีหัวดูดสำหรับการทำความสะอาดตามซอกหรือบนโต๊ะทำงานหหรือพื้นที่เรียบๆ มาแบบอเนกประสงค์มาให้อีกด้วยซึ่ง 2 หัวดูดนี้ ครีเอเตอร์ชอบใช้บ่อยมาก ๆ (และ 2 หัวดูดนี้มีในทุกรุ่นเลย) คือหัวดูดแบบ 2in1 ที่เป็นหัวดูดฝุ่นแบบปากกว้าง สามารถสลับไปใช้งานแบบมีหัวแปรงขนนุ่มช่วยปัดฝุ่นขนาดเล็กไปในตัวได้ด้วยเลย และหัวดูดปลายแหลมที่เอาไว้สำหรับทำความสะอาดในพื้นที่แคบๆ เช่น ซอกในเบาะรถหรือตามมุมขอบต่างๆ ซึ่งใช้งานได้ดีเลยแถมใน Dyson V8 Slim จะสามารถนำตัวอุปกรณ์เสริมทั้ง 2 ตัวรวมถึงหัวดูดมอเตอร์ขนาดเล็ก นำไปติดกับตัวท่อดูดยาวที่ใช้ตอนดูดพื้น ได้ด้วยทำให้สามารถใช้ไปดูดตามพื้นที่สูงๆ ได้เลยง่ายๆ เช่น โคมไฟเพดานหรือพวกกรอบรูปต่างๆ ก็ได้เหมือนกันส่วนอุปกรณ์เสริมที่เหลือในกล่องก็มีแค่ตัว Dock ( แท่นชาร์จอเนกประสงค์ ) ที่สามารถพันสายเก็บด้านหลังได้เลย แถมยังสามารถยึดติดกับกำแพงได้ด้วยตะปู คล้ายกับติดนาฬิกาเลย สามารถเสียบอุปกรณ์เสริมกับแท่นได้ 2 อันและขณะชาร์จเครื่องดูดฝุ่น สามารถเสียบตัวท่อดูดฝุ่นและหัวดูด Slim fluffy กับตัวเครื่องได้เลยไม่ต้องมาค่อยนั่งประกอบเครื่องก่อนจะใช้งาน ช่วยให้สะดวกมากขึ้นด้วย( สามารถซื้อขาตั้งมาใช้วางตัว Dock แทนกันได้ ในกรณีที่ไม่อยากเจาะกำแพงหรือไม่สะดวกใช้งาน )ความสามารถในการทำความสะอาด :แม้ Dyson V8 Slim จะถือเป็นเครื่องดูดฝุ่นไร้สายรุ่นน้องเล็กสุดจาก Dyson ในประเทศไทยตอนนี้นะครับ แต่ประสิทธิภาพกลับตรงข้ามกับ Line-Up ของรุ่นแบบเกินคาดเลย เพราะรุ่นนี้มาพร้อมมอเตอร์ Dyson Digital V8 สามารถทำความเร็วสูงรอบสุด 110,000 RPM สร้างแรงดูดได้สูงสุด 115 Air-Watt ทำให้สามารถดูดฝุ่นได้สบายๆ ดูดผ่านแค่รอบเดียวก็สะอาดหมดจดแล้ว( อเมริกาและยุโรปจะจำหน่ายรุ่น V8 Fluffy ที่เครื่องใหญ่และหนักมากกว่า 3 กิโล แต่แถบเอเชียจะขายรุ่น Slim เป็นหลักมากกว่า )Dyson V8 Slim รุ่นนี้มาพร้อมกับระบบไซโคลน Radial™ แบบสองชั้นประกอบด้วยท่อไซโคลน 15 ท่อ ไว้เพื่อสร้างแรงเหวี่ยงฝุ่นแยกกับอากาศให้ตกลงไปในถังเก็บฝุ่น ทำให้แรงดูดฝุ่นจึงไม่ตกแม้ฝุ่นจะมีอยู่เต็มถึงเก็บฝุ่น ไม่เหมือนกับเครื่องดูดฝุ่นรุ่นไซโคลนทั่วไปครับโหมดการทำงานของ Dyson V8 Slim :การทำงานปกติส่วนใหญ่ ครีเอเตอร์จะใช้โหมด Normal ในการทำงานเพราะนอกจากจะมีกำลังมากพอที่จะดูดตามพื้นผิวทั่วไปแล้ว ยังมีเสียงรบกวนในการทำงานที่เบาอีกด้วย เหมาะกับการทำความสะอาดบ้านแบบทั่วไปหรือบ้านมีหลายชั้น ซึ่งโหมดนี้จะสามารถใช้งานได้ราวๆ ประมาณ 40 นาที หากติดตั้งหัวดูดที่มีมอเตอร์ด้วยจะได้เพียงแค่ 30 นาทีเท่านั้นส่วนโหมด Max ที่กำลังมากที่สุด อันนี้ได้กำลังสูงสุดคือ 115 Air-Watt สำหรับทำความสะอาดเฉพาะจุดที่ต้องการแรงดูดสูงเช่น บริเวณที่มีฝุ่นเยอะๆ หรือตามโซฟาและเตียงนอน แต่ก็จะทำงานได้ราวๆ เพียงแค่ 6 นาทีเท่านั้นครับสรุป Dyson V8 Slim น่าใช้ไหมจากความคิดเห็นส่วนตัวและรีวิวของท่านอื่นๆสรุปจากการใช้จริงมาเดือนนึงแล้ว Dyson V8 Slim เป็นเครื่องดูดฝุ่นไร้สายน่าใช้ครับ ด้วยราคาเริ่มต้นแค่ 15,900 บาท แต่ได้ฟีเจอร์ใกล้เคียงกับรุ่นท็อปอย่าง V12 แถมหัวดูด Slim fluffy ยังทำความสะอาดได้สะดวกและสนุกสุดๆ นอกจากนี้ยังมีน้ำหนักเบา สามารถหมุนหัวดูดได้ง่ายแล้ว ยังได้หัวดูดทำความสะอาดครอบคลุมการใช้งานในบ้าน แถมยังมีกำลังดูดที่แรงอีกด้วย หากถ้าใครยังไม่มีเครื่องดูดฝุ่นไร้สายในบ้าน รุ่นนี้ก็น่าหาซื้อเอาไว้ใช้งานครับเอาล่ะเป็นยังไงกันบ้างกับการรีวิว Dyson V8 slim หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้ผู้อ่านตัดสินใจเลือกซื้อได้ง่ายขึ้นนะครับ วันนี้ครีเอเตอร์ต้องขอตัวลาไปก่อนนะครับ สวัสดีครับเครดิตภาพ : ครีเอเตอร์ Chaplucat เป็นคนถ่ายเอง7-11 Community ห้องลับเมาท์มอยของกินของใช้ในเซเว่น อะไรดีอะไรใหม่ ต้องรู้ ต้องคุย ต้องแชร์