MSCรุกคราวน์โกยเงิน คอนเฟิร์มปีนี้รายได้โต
ทันหุ้น - MSC ผนึก "เอชพี" ปั้นโมโทรคราวน์ เปิดช่องรับทรัพย์เพิ่ม ชี้หากลุล่วงหนุนพอร์ตรายได้บริการสิ้นปีนี้แตะ20%แถมมองคลายล็อกดาวน์ หนุนรายได้สดใส ส่วนครึ่งหลังปี 2564 ผลงานฟื้นตัว หลังธุรกิจหวนกลับเข้าสู่โหมดปกติ พร้อมปักธงปีนี้รายได้ทะยาน 5-8%จากปีก่อน รับดีมานด์ขยายตัวต่อเนื่อง
นายกิตติ เตชะทวีกิจกุล รองประธานกรรมการ บริษัท เมโทรซิสเต็มส์คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ MSC เปิดเผยว่า ล่าสุดบริษัทได้มีการร่วมมือกับทาง "เอชพี" เพื่อพัฒนาระบบคราวโซลูชั่นภายใต้ชื่อ "เมโทร คราวน์" เพื่อเจาะตลาดลูกค้าในส่วนของขนาดกลางและขนาดเล็ก รองรับการขยายช่องทางสร้างรายได้เพิ่มเติม ซึ่งใช้เงินลงทุนส่วนนี้ราว 15 ล้านบาท
เดิมเกมลุยคราวน์
"ในช่วงครึ่งแรกที่ผ่านมาเรามีรายได้จากธุรกิจคราวน์ประมาณ 120 ล้านบาท จากธุรกิจ Multi-Cloud Service ที่บริษัทเป็นพาร์ตเนอร์ร่วมกับ HAUWEI, Azure และ AWS และล่าสุดในเดือนกันยายนนี้ได้มีการเปิดตัว "เมโทร คราวน์" ซึ่งปัจจุบันมีลูกค้าเข้ามาใช้บริการแล้วราว 4 ราย และมองธุรกิจดังกล่าวยังมีโอกาสเติบโตได้ในอนาคต รวมทั้งยังมีแนวทางขยายงานส่วนอื่นๆ เพื่อสนับสนุนให้สัดส่วนรายได้จากธุรกิจบริการสิ้นปีนี้ขยับเพิ่มเป็น 20%" นายกิตติกล่าว
สำหรับประเด็นที่ทางภาครัฐได้มีการประกาศคลายล็อกดาวน์ และให้มีผลตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2564ที่ผ่านมานั้นบริษัทมองถือเป็นปัจจัยบวกต่อการดำเนินงาน เพราะช่วยทำให้บริษัทสามารถเจรจาและเข้าพบลูกค้าได้สะดวกยิ่งขึ้น จากเดิมที่ไม่สามารถเข้าพบได้และทำให้การตัดสินใจลงทุนล่าช้า และน่าจะช่วยสนับสนุนภาพรวมธุรกิจในช่วงที่เหลือปีนี้ให้ปรับตัวดีขึ้นด้วย
ขณะที่แนวโน้มผลประกอบการครึ่งหลังปี 2564บริษัทประเมินว่าน่าจะออกมาใกล้เคียงกับครึ่งแรกปีนี้ที่มีรายได้ราว 3.63พันล้านบาท แม้ช่วงที่ผ่านมาธุรกิจจะได้รับผลกระทบบางส่วนจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 แต่จากแนวโน้มความต้องการ 5G ที่เติบโตและทำให้ความต้องการด้านไอทีส่วนต่างๆ ขยายตัว ทำให้บริษัทเชื่อน่าจะได้เห็นภาพรวมธุรกิจในช่วงที่เหลือคงกลับมาปรับตัวดีขึ้น
ปีนี้รายได้พุ่ง 5-8%
อย่างไรก็ดี ในปี 2564 ทาง MSC ยังคงประมาณการรายได้เติบโต 5-8% จากปีก่อนที่ 3.58พันล้านบาท หลังช่วงครึ่งแรกปีนี้ธุรกิจมีรายได้แล้วประมาณ 3.63พันล้านบาท ประกอบกับมองว่าทิศทางธุรกิจในส่วนต่างๆ ช่วงที่เหลือปีนี้ของบริษัทยังอยู่ในเกณฑ์ที่ดี รวมทั้งธุรกิจยังสามารถบริหารจัดการต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิ์ภาพ
ส่วนงบการเงินสิ้นไตรมาส 2/2564 บริษัทมีกำไรสุทธิ 23.29 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 13.22 ล้านบาท เพิ่มขึ้นราว 10.07 ล้านบาท หรือคิดเป็น 76.17% โดยในไตรมาส 2/2564 บริษัทมีรายได้จากการขายและบริการ 1.47 พันล้านบาท ลดลง 2.2% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ผลมาจากรายได้จากขายสินค้าประเภทฮาร์ดแวร์ลดลง เนื่องจากมีบางโครงการล่าช้าหรือถูกชะลอออกไป รวมทั้งองค์กรต่างๆ ยังมีการควบคุมค่าใช้จ่ายและต้นทุนการดำเนินงาน ซึ่งเป็นผลมาจากการแพร่ระบาดของโควิด 19 ระลอกใหม่ที่รุนแรงขึ้น
ขณะที่รายได้อื่นๆ ของ MSC นั้นในไตรมาส 2/2564 อยู่ที่ราว 11.9 ล้านบาท ลดลง 23.4 ล้านบาท ผลมาจากำไรที่เกิดจากอัตราแลกเปลี่ยนลดลง อีกทั้งบริษัทยังมีผลขาดทุนอื่น ลดลง 34.1 ล้านบาท ผลจากจากการขาดทุนที่ยังไม่เกิดขึ้นจริงจากอัตราแลกเปลี่ยนที่บริษัทได้ทำสัญญาซื้อขายเงินตราต่างประเทศไว้ล่วงหน้าในส่วนของค่าใช้จ่ายในการขายและบริการของไตรมาส 2/2564 อยู่ที่ 202.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.4 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน ซึ่งส่วนใหญ่เพิ่มขึ้นจากค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับพนักงาน และค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมอาคารต่างๆ