ในช่วงนี้ก็เป็นช่วงของ ไวรัสโคโรน่า หรือ Covid-19 เนื่องจากเกิดวิกฤตนี้ขึ้นมาหลาย ๆ อย่างได้ชะงักลง อย่างเช่น มีการ Work From Home , เลื่อนเปิดเทอม รวมถึง ปิดสถาบันติวเตอร์ทุกที่เพื่อระงับสถานการณ์โควิด แม้ว่าเราจะต้องกักตัวอยู่บ้าน ต้องหยุดงาน อดไปเรียนพิเศษอย่างไรก็ตามสิ่งเหล่านี้ไม่ใช่ข้ออ้างที่เราจะเรียนไม่ได้ค่ะ ถึงเราจะหยุดอยู่บ้านแต่ความรู้เราไม่เคยที่จะหยุดนะคะ วันนี้ผู้เขียนก็มีซีรีย์ฝึกภาษาดูยาว ๆ มาแนะนำค่ะ ขอเกริ่นก่อนนะคะว่า เป็นซีรีย์น่ารัก ๆ เป็นของประเทศอังกฤษ แน่นอนค่ะ เราจะได้ซึมซับกับเสียง British ไปเต็มๆค่ะ ในส่วนของคำศัพท์ก็ค่อนข้างไปทางวิชาการ,เวทมนต์ บ้าง แต่ก็ไม่เป็นอุปสรรคค่ะ ไม่ได้ยากจนเกินไปซีรีย์เรื่องนั้นก็คือ The Worst Witch ค่ะ ซึ่งถ้าคุณกำลังหาหนัง หรือ ซีรีย์ เพื่อฝึกภาษาอังกฤษ เรื่องนี้ก็ตอบโจทย์ได้ดีมาก ๆ เลยค่ะ เพราะง่ายต่อการฝึกภาษาตรงที่ว่า เป็นซีรีย์น่ารัก ๆ แบบเด็กดูได้ ผู้ใหญ่ดูดี คำพูดที่นักแสดงพูดกันก็จะเป็นคำพูดที่ใช้สนทนาจริง ๆ เป็นแบบคำที่พูดคุยกับเพื่อนส่วนใหญ่ ดังนั้น วัยรุ่นที่ดูเรื่องนี้ก็นำคำพูดเก๋ ๆ ไปพูดกับเพื่อนได้อีกด้วยค่ะ ตัวอย่างก็คำว่า chop chop ที่แปลว่า เร็ว ๆ Hurry up และที่สำคัญคำศัพท์ในเรื่องนี้ค่อนข้างที่จะไฮโซมาก ๆ ค่ะ ถ้าเราลองนำคำแสลงตามซีรีย์ไปพูดกับชาวต่างชาติ รับรองค่ะ ชาวต่างชาติต้องอึ้งค่ะ เพราะคำศัพท์เหล่านั้นส่วนมากจะเป็นศัพท์ที่คนไม่ค่อยรู้จักแต่มีความหมายไฮโซThe Worst Witch ปัจจุบันมี 3 Seasons แล้วค่ะ และกำลังจะมีซีซั่นที่4 เร็ว ๆ นี้ค่ะ เรื่องนี้ก็จะเป็นเรื่องราวที่เป็นตอน ๆ โดยเริ่มจาก Mildred Hubble คนที่ไม่ได้มาจากครอบครัวเวทมนต์แต่ได้เข้าไปเรียนในโรงเรียนเวทมนต์โดยมี เพื่อนสนิท ชื่อ Maud และ Enid เป็นเรื่องที่ยากมาก ๆ สำหรับ Mildred คนที่เชื่อว่าตนไม่ได้มาจากครอบครัวเวทมนต์ เป็นเรื่องที่ยากมาก ๆ ที่เขาจะเข้าใจในกฎระเบียบของแม่มด เขาได้เจอปัญหาทุกอย่างไม่ว่าเขาจะทำอะไรก็ตาม แต่ไม่ว่าเขาจะแย่เพียงใดเขาก็ยังมีเพื่อนดี ๆ ที่คอยให้กำลังใจและอยู่เคียงข้างเขา เรื่องราวจะวุ่นวายอลหม่านเพียงใดโปรดติดตามนะคะMoral of this seriesข้อคิดดีๆ จากซีรีย์เรื่องนี้ ที่สำคัญที่สุดเลยคือ เราจะเห็นได้ว่า Mildred เจอปัญหามามากมาย ทั้งความกดดัน เธอทำอะไรก็ผิดพลาด แต่เธอไม่เคยที่จะยอมแพ้กับสิ่งเหล่านั้น เธอเข้มแข็ง สู้ และพร้อมที่จะลุกขึ้นมาทำให้ดีขึ้นกว่าเดิมเพื่อพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นว่า เด็กที่ทุกคนเชื่อว่าเป็นเด็กธรรมดาๆ อย่างเขาก็สามารถทำได้ ก็เหมือนกับในชีวิตจริง ไม่ว่าเราจะเหนื่อย จะท้อ มีปัญหามากเพียงใดขอแค่เราอย่าพึ่งยอมแพ้ ให้ลุกขึ้นมาสู้และจะผ่านไปได้ ข้อคิดอีกข้อที่สำคัญก็คือ เรื่องเพื่อน จากในเรื่องเราจะเห็นแง่มุมของมิตรภาพทั้งดีและไม่ดี ในมุมดี Maud และ Enid เพื่อนสนิทของ Mildred เขาทั้ง 3 เป็นเพื่อนที่ดีต่อกันเสมอมา Maud และ Enid ไม่เคยอายที่มีเพื่อนอย่าง Mildred ที่ทำอะไรก็ผิดพลาด เขาเป็นเพื่อนที่ดี คอยอยู่ข้าง ๆ ให้ความช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เชื่อมั่นในตัวเพื่อน ให้กำลังใจ ส่งเสริมเพื่อนในทางที่ดีเสมอ มิตรภาพอันดีเหล่านี้ก็จะอยู่กับพวกเขาตลอดไปและเป็นแรงผลักดันให้ก้าวเดินต่อไปได้ดี ในอีกแง่มุม จะมีเพื่อนที่คอยอิจฉาริษยาที่เห็นใครดีกว่าไม่ได้ คอยแกล้งคนอื่น อวดดี สุดท้ายแล้วเพื่อนแบบนี้ก็จะไม่เหลือใครในที่สุดถ้ายังเป็นเช่นนั้นก็หลาย ๆ คนสงสัยว่า เอ๊ะ…..จะฝึกภาษายังไง ก็แนะนำนะคะ อันดับแรกฟังเสียงอังกฤษต้นฉบับ และเปิดซับไทยไปด้วยค่ะ เมื่อเริ่มชำนาญแล้วก็ลองฝึกฟังโดยไม่เปิดซัปค่ะ แต่ไม่แนะนำให้ฟังเสียงไทยนะคะ ถ้าเราฟังเสียงไทยเราแทบจะไม่ได้อะไรค่ะ กลับกัน ถ้าฟังเสียงอังกฤษจริง ๆ ก็จะทำให้เราคุ้นชินกับภาษาไปในตัวด้วยค่ะ เราจะได้ทั้งทักษะการฟังและเรียนรู้คำศัพท์เพิ่มด้วยค่ะ ถ้าเราดูบ่อย ๆ เราก็จะชินและเผลอ ๆ อาจจะนำคำศัพท์จากในเรื่องมาใช้ในชีวิตจริงก็เป็นได้ค่ะ และที่สำคัญเรื่องนี้ มีแสลง,Idioms เยอะมาก ๆ เลยค่ะ เราจะได้รู้แสลงเท่ ๆ แบบชาวอังกฤษพูดกันด้วยค่ะการฝึกภาษากับซีรีย์เรื่องนี้1. เริ่มจากหาตัวละครที่เราชอบก่อนค่ะ เมื่อเรามีตัวละครที่เราชอบ จะทำให้เรามีแรงบันดาลใจในการฝึกและดูค่ะ อย่างตัวของผู้เขียน ผู้เขียนชอบ Mildred หรือ Bella Ramsey เขาแสดงเก่ง เสียงเขาน่ารัก ๆ ผู้เขียนชอบเขามาก ๆ และก็พยายามฝึกพูดคำพูดตามเขาค่ะ เริ่มจากพูดเล่น ๆ ค่ะทำเสียงให้เหมือนเขาเพื่อความสนุก แต่ความสนุก เล่น ๆ นั้น ทำให้ผู้เขียนซึมซับคำเหล่านั้นไปได้โดยไม่รู้ตัวเลยค่ะ ผู้เขียนไม่มองว่าการดูซีรีย์เพื่อฝึกภาษาเป็นเรื่อง เครียด แต่ผู้เขียนมองว่า เป็นสิ่งที่ดี ให้ความสนใจ ความสนุก กับสิ่งที่เราดูอยู่ค่ะ2. เมื่อมีแรงบันดาลใจแล้ว ทุก ๆ สิ่งก็จะง่ายขึ้น เพราะเมื่อเรามีแรงบันดาลใจก็เท่ากับว่า เราเปิดใจที่จะเรียนรู้แล้วค่ะ ดังนั้นสิ่งที่เราจะฝึกต่อไปก็คือ การที่เราลองตั้งใจดูภาพและฟังเสียง อย่าพึ่งไปกังวลว่ายังฟังไม่เข้าใจหมด ขอแค่เรามองภาพออกก่อนค่ะ ตัวผู้เขียนเองก็ เริ่มจากฟังและดูภาพตามไปก่อนค่ะ เพราะถ้าผู้เขียนเปิดซัปในตอนแรกผู้เขียนก็จะเครียดที่ต้องกังวลเกี่ยวกับคำศัพท์และจะไม่อยากดูค่ะ ดัังนั้นผู้เขียนเลยฟังชิว ๆ และลองนึกภาพและแปลไปตามจินตนาการตามภาพไปก่อนค่ะ 3. เปิดSubtitle หลังจากจินตนาการแปลไปตามภาพและฟัง ก็ถึงเวลาที่เราจะได้เจอกับคำศัพท์ตาม Subtitle และเราจะได้เรียนรู้ว่า สิ่งที่เราคิดนั้นมันตรงกับความหมายจริง ๆ ไหม ในขั้นนี้ก็จะทำให้เราเก่งคำศัพท์ขึ้นไปอีกค่ะ4. เปิดเสียงและปิดตาไม่มองภาพ และลองจินตนาการภาพตามสิ่งที่เราได้ยินค่ะ วิธีนี้ก็จะช่วยให้เราฝึกฟังและเกิดจินตนาการค่ะ5. ดูซ้ำ ๆ หลาย ๆ รอบ เมื่อเราดูไปมาก ๆ จะทำให้ภาษาอังกฤษเราแข็งแรงขึ้นโดยไม่รู้ตัว เราจะสามารถเข้าใจในสิ่งที่เขาพูดและอธิบายได้อย่างชัดเจนค่ะขอบคุณภาพหน้าปก,ภาพประกอบที่1,ภาพประกอบที่2 และ ภาพประกอบที่3 จาก www.facebook.com/pg/TheWorstWitch2017/รับชมได้ทาง Netfix หรือ ทางช่อง BBC (อยู่ต่างประเทศ)นักแสดงนำ : Bella Ramsey,Megan Hughes,Tamara Smart,Jenny Richardson#เราจะเก่งภาษาไปด้วยกัน#Covid-19 ไม่ตระหนกแต่ตระหนัก นะคะ