9 วิธีดูแลรีเทนเนอร์แบบลวดท่อใส ต้องทำอะไรบ้าง ที่ควรรู้ กดอ่านเลย! เขียนโดย ภัคฒ์ชาลิสา จำปามูล หลังจากยุติการจัดฟันด้วยเหล็กจัดฟันแล้ว อีกหนึ่งอุปกรณ์ถัดมาที่คนจัดฟันประเภทนี้จะได้รับก็คือรีเทนเนอร์ค่ะ ซึ่งรีเทนเนอร์แบบลวดที่หุ้มด้วยท่อสีต่างๆ คือ รีเทนเนอร์อีกประเภทหนึ่งที่ได้รับความนิยม และผู้เขียนก็ได้เลือกรีเทนเนอร์แบบนี้มาใช้ด้วยเหมือนกัน และสิ่งที่ตามมาหลังจากได้รับรีเทนเนอร์มาแล้วและต้องเรียนรู้ คงจะหนีไม่พ้นการดูแลรีเทนเนอร์ จริงไหมคะ? โดยการดูแลบางส่วนเราอาจจะได้รับรู้มาจากคุณหมอบ้างแล้ว แต่ในบางอย่างคุณหมออาจจะไม่ได้มีเวลามาบอกต่อเราหมด ดังนั้นในบทความนี้เราจะมารู้เพิ่มเติมกันว่า หากเราจะรักษารีเทนเนอร์แบบลวดของเราให้มีไว้ใช้งานนาน จนจบครบตามระยะเวลาที่ต้องคงสภาพฟันไว้นั้น เราจะต้องทำอะไรกันบ้าง มีจุดสำคัญๆ อะไรที่เราต้องรู้ เพื่อป้องกันไม่ให้มีปัญหาเกิดขึ้นกับรีเทนเนอร์ของเราค่ะ และถ้าอยากรู้แล้วว่าการดูแลรีเทนเนอร์แบบลวดมีอะไรบ้าง งั้นเรามาอ่านต่อกันเลยดีกว่าค่ะ กับเนื้อหาที่สนใจดังต่อไปนี้ 1. ทำความสะอาดทันทีหลังถอด รู้ไหมคะว่า การดูแลรีเทนเนอร์ให้สะอาดและใช้งานได้นานนั้น สิ่งสำคัญอย่างแรก คือ ต้องทำความสะอาดทันทีหลังถอดออกค่ะ เพราะเมื่อเราถอดรีเทนเนอร์ออกจากปาก คราบน้ำลาย เศษอาหารเล็กๆ รวมถึงจุลินทรีย์ จะติดอยู่บนพื้นผิวของรีเทนเนอร์ หากทิ้งไว้นาน คราบเหล่านี้จะแห้งเกาะติดแน่น ทำให้ทำความสะอาดยากขึ้น และกลายเป็นแหล่งสะสมของสิ่งสกปรก ที่จะนำไปสู่ปัญหาในช่องปากตามมาในภายหลัง เช่น กลิ่นปาก ฟันผุหรือการมีปัญหาโดยตรงที่เหงือกได้ และวิธีง่ายๆ คือ ทันทีที่ถอดรีเทนเนอร์ออกมา ให้ใช้น้ำเปล่าสะอาดล้างผ่านรีเทนเนอร์ทันที เพื่อชะล้างเศษอาหารและน้ำลายที่ยังไม่แห้งออกไป แค่นี้ก็ช่วยให้รีเทนเนอร์สะอาดได้ด้วยขั้นตอนเริ่มต้นง่ายๆ ค่ะ 2. ใช้แปรงสีฟันขนนุ่มและสบู่เหลวหรือน้ำยาล้างจานแบบอ่อนๆ หลายคนยังไม่รู้ว่า การเลือกอุปกรณ์ทำความสะอาดก็สำคัญไม่แพ้กัน โดยต้องใช้แปรงสีฟันขนนุ่มและสบู่เหลวหรือน้ำยาล้างจานแบบอ่อนๆในการทำความสะอาด เพราะรีเทนเนอร์ผลิตจากวัสดุที่อาจเกิดรอยขีดข่วนได้ง่าย หากเราใช้แปรงสีฟันที่ขนแข็งหรือยาสีฟันที่มีผงขัด จะทำให้เกิดรอยเล็กๆ บนพื้นผิวรีเทนเนอร์ ซึ่งรอยเหล่านี้จะกลายเป็นแหล่งสะสมของสิ่งสกปรกและคราบต่างๆ ได้ง่ายขึ้น ทำให้รีเทนเนอร์สกปรกและทำความสะอาดยากในระยะยาว ส่วนสบู่เหลวหรือน้ำยาล้างจานแบบอ่อนๆ จะช่วยชะล้างคราบสกปรกและไขมันออกไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่ทิ้งสารตกค้างหรือทำลายวัสดุรีเทนเนอร์ วิธีการคือให้นำแปรงสีฟันขนนุ่มมาหยดสบู่เหลวหรือน้ำยาล้างจานเล็กน้อย แล้วค่อยๆ ขัดถูรีเทนเนอร์เบาๆ ให้ทั่วทั้งชิ้น ทั้งด้านนอกและด้านใน โดยเฉพาะซอกมุมต่างๆ จากนั้นล้างด้วยน้ำสะอาดให้หมดจด เพียงเท่านี้รีเทนเนอร์ของเราก็จะสะอาด เหมาะสมและพร้อมต่อการใช้งานแล้วค่ะ 3. ล้างออกด้วยน้ำสะอาดให้หมดจด หลังจากทำความสะอาดรีเทนเนอร์ด้วยสบู่หรือน้ำยาแล้ว สิ่งสำคัญถัดมาคือต้องล้างออกด้วยน้ำสะอาดให้หมดจดค่ะ เหตุผลก็คือสารเคมีจากสบู่หรือน้ำยาทำความสะอาดที่ตกค้างอยู่บนรีเทนเนอร์ แม้จะเป็นชนิดอ่อนโยน ก็อาจทำให้เกิดการระคายเคืองต่อเหงือกและเนื้อเยื่อในช่องปากได้เมื่อเราสวมใส่ นอกจากนี้หากมีสารเคมีตกค้างนานๆ ก็อาจส่งผลต่อวัสดุของรีเทนเนอร์ในระยะยาวได้ด้วย และวิธีการในขั้นตอนก็คือหลังจากขัดรีเทนเนอร์ด้วยสบู่แล้ว ให้เปิดน้ำสะอาดไหลผ่านรีเทนเนอร์ไปเรื่อยๆ พร้อมกับใช้แปรสีฟันขนอ่อนถูเบาๆ ให้ทั่วทุกซอกทุกมุม ให้ล้างด้วยน้ำสะอาดและใช้มือถูเบาๆ เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีฟองหรือความลื่นของสบู่หลงเหลืออยู่ การล้างให้สะอาดหมดจดแบบนี้จะช่วยให้รีเทนเนอร์ของเราเหมาะสมต่อการใช้งานค่ะ 4. ใช้น้ำยาทำความสะอาดรีเทนเนอร์โดยเฉพาะเป็นครั้งคราว การดูแลรีเทนเนอร์ให้สะอาดล้ำลึก นอกจากการทำความสะอาดประจำวันแล้ว การใช้น้ำยาขจัดคราบฝังลึกโดยเฉพาะในบางครั้ง ก็เป็นสิ่งจำเป็นค่ะ เพราะถึงแม้จะทำความสะอาดทุกวัน แต่ก็อาจมีคราบบางอย่าง คราบหินปูน ที่สะสมอยู่ตามซอกเล็กๆ ซึ่งการแปรงธรรมดาอาจขจัดออกไม่หมด โดยน้ำยาทำความสะอาดมักมาในรูปแบบเม็ดฟู่ ที่จะมีส่วนผสมที่ช่วยสลายคราบฝังแน่น ฆ่าเชื้อและลดกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้รีเทนเนอร์สะอาดหมดจดและถูกสุขอนามัยมากขึ้น อย่างไรก็ตามเราไม่ควรใช้บ่อยจนเกินไป โดยให้ใช้ตามคำแนะนำบนผลิตภัณฑ์เท่านั้น เช่น สัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง หรือเมื่อรู้สึกว่ารีเทนเนอร์ของเราเริ่มมีคราบ เพราะสารเคมีบางอย่างอาจส่งผลต่อวัสดุรีเทนเนอร์ได้ในระยะยาว ซึ่งในขั้นตอนนี้ให้เราใส่น้ำสะอาดลงในภาชนะที่สะอาด จากนั้นหย่อนเม็ดฟู่ลงไปให้ละลายจนหมด แล้วแช่รีเทนเนอร์ทิ้งไว้ตามเวลาที่ระบุ เมื่อครบกำหนดก็นำรีเทนเนอร์มาล้างด้วยน้ำสะอาดให้หมดจดอีกครั้งก่อนนำไปใส่ฟันของเรา ที่ก็จะได้รับการคงสภาพอย่างสะอาดที่สุดค่ะ สำหรับผู้เขียนตอนนี้ใช้เป็นน้ำยาบ้วนปากค่ะ เพราะเพิ่งได้รีเทนเนอร์มา เพราะทันตแพทย์บอกว่าน้ำยาบ้วนปากก็สามารถใช้ได้เหมือนกัน 5. หลีกเลี่ยงความร้อนสูง การดูแลรีเทนเนอร์ให้ใช้งานได้นานและคงรูปทรงเดิม สิ่งสำคัญคือต้องหลีกเลี่ยงความร้อนสูงโดยเด็ดขาด เนื่องจากวัสดุที่ใช้ทำรีเทนเนอร์ส่วนใหญ่ โดยเฉพาะชนิดพลาสติกหรืออะคริลิกนั้น ไวต่ออุณหภูมิสูงมาก ความร้อนจัดสามารถทำให้รีเทนเนอร์อ่อนตัว บิดเบี้ยว หรือเสียรูปทรงไปจากเดิมได้ ซึ่งเมื่อรีเทนเนอร์ผิดรูปแล้ว ก็จะไม่สามารถใส่กับฟันของเราได้อย่างพอดี ทำให้ไม่สามารถคงสภาพฟันตามที่ทันตแพทย์จัดไว้ได้ และอาจต้องเสียเงินทำใหม่ และวิธีป้องกันง่ายๆ คือ ห้ามนำรีเทนเนอร์ไปต้มน้ำร้อน ล้างด้วยน้ำร้อนจัด หรือทิ้งไว้ในที่ที่มีแดดจัดเป็นเวลานาน เช่น ในรถยนต์ที่จอดตากแดดจัดๆ หรือใกล้เครื่องทำความร้อน ควรล้างด้วยน้ำอุณหภูมิปกติเท่านั้น การระมัดระวังเรื่องอุณหภูมิจะช่วยรักษาสภาพรีเทนเนอร์ให้ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพไปอีกนานค่ะ 6. หลีกเลี่ยงการทำความสะอาดด้วยผลิตภัณฑ์ที่รุนแรง ใช่อยู่ว่าเราดูแลรีเทนเนอร์แบบลวด ให้ใช้งานได้นานและสะอาดอยู่เสมอ แต่หลายคนอาจเผลอใช้ยาสีฟันหรือน้ำยาฟอกฟันขาวที่มีฤทธิ์แรงๆ ขัดทำความสะอาด ซึ่งจริงๆ แล้วควรงดเว้นค่ะ เพราะสารเคมีที่รุนแรงในผลิตภัณฑ์เหล่านี้ ไม่ว่าจะเป็นสารฟอกขาวหรือสารขัดฟัน อาจทำให้ลวดโลหะของรีเทนเนอร์เกิดการกัดกร่อนหรือหมองคล้ำได้ง่าย ทำให้ลวดเสื่อมสภาพเร็วขึ้น และอาจระคายเคืองต่อช่องปากของเราได้ ที่ดีที่สุดคือควรล้างรีเทนเนอร์ด้วยน้ำเปล่าผสมสบู่อ่อนๆ หรือน้ำยาล้างจานเจือจาง และใช้แปรงสีฟันขนนุ่มๆ ขัดเบาๆ แค่นี้รีเทนเนอร์ก็จะสะอาดและอยู่กับเราไปได้อีกนานเลยค่ะ 7. เก็บในกล่องที่อากาศถ่ายเทได้ดี เรื่องหนึ่งที่มักถูกมองข้ามเลยคือการจัดเก็บค่ะ หลายคนอาจเก็บรีเทนเนอร์ไว้ในกล่องที่ปิดสนิททึบ หรือบางครั้งก็วางทิ้งไว้ในห้องน้ำ ซึ่งจริงๆ แล้วไม่ดีเลยค่ะ เพราะสภาพแวดล้อมที่อับชื้นและไม่มีอากาศถ่ายเท จะกลายเป็นแหล่งสะสมของสิ่งปนเปื้อนจากสิ่งแวดล้อมที่สามารถมาทำให้รีเทนเนอร์สกปรก มีกลิ่นไม่พึงประสงค์ และอาจส่งผลเสียต่อสุขอนามัยในช่องปากของเราได้ โดยทางที่ดีที่สุด คือ ควรเก็บรีเทนเนอร์ในกล่องสำหรับเก็บรีเทนเนอร์โดยเฉพาะที่มีรูระบายอากาศ หรือกล่องที่ช่วยให้อากาศถ่ายเทได้ดี เพื่อให้รีเทนเนอร์แห้งสนิทหลังการทำความสะอาด ช่วยลดการสะสมของสิ่งสกปรก และยืดอายุการใช้งานรีเทนเนอร์ของเราให้ยาวนานขึ้นค่ะ 8. แปรงฟันและทำความสะอาดช่องปากก่อนใส่รีเทนเนอร์ สิ่งสำคัญที่ต้องจำไว้เสมอ คือ ต้องแปรงฟันและทำความสะอาดช่องปากให้เรียบร้อยก่อนใส่รีเทนเนอร์ทุกครั้งค่ะ เพราะถ้าเราใส่รีเทนเนอร์ลงไปบนฟันที่ยังไม่ได้รับการทำความสะอาด เศษอาหารหรือคราบจุลินทรีย์ที่ติดค้างอยู่บนฟัน ก็จะถูกรีเทนเนอร์ครอบทับไว้ กลายเป็นแหล่งสะสมของสิ่งสกปรกชั้นดี ซึ่งไม่เพียงแต่จะทำให้เกิดกลิ่นปาก ฟันผุ หรือเหงือกอักเสบได้ง่าย แต่ยังทำให้รีเทนเนอร์สกปรกและมีคราบสะสมได้เร็วขึ้นด้วย ดังนั้นการแปรงฟันและใช้ไหมขัดฟันให้สะอาดก่อนใส่รีเทนเนอร์ จึงเป็นการลงทุนเล็กๆ น้อยๆ ที่เป็นการดูแลฟันและยืดอายุการใช้งานรีเทนเนอร์ของเราไปพร้อมๆ กันค่ะ 9. ระวังการทำรีเทนเนอร์หายหรือเสียหาย ถ้ารีเทนเนอร์หายสำหรับผู้เขียนนั่นคือเงิน 4,000 บาทปลิว และในขณะเดียวกันต้องเสียเพิ่มอีกถึง 4,000 บาท เพื่อทำรีเทนเนอร์อันใหม่ค่ะ โดยหนึ่งในเรื่องสำคัญของการดูแลรีเทนเนอร์แบบลวด ที่หลายคนอาจจะพลาดไปก็คือ การระมัดระวังไม่ให้รีเทนเนอร์หายหรือเสียหายนั่นเองนะคะ เพราะรีเทนเนอร์เป็นอุปกรณ์ที่ต้องใช้ต่อเนื่อง และหากเกิดการสูญหายหรือชำรุดขึ้นมา ไม่เพียงแต่จะต้องเสียเวลาและค่าใช้จ่ายในการทำชิ้นใหม่เท่านั้น แต่ยังอาจทำให้ฟันที่จัดมาอย่างดีเริ่มเคลื่อนตัวกลับไปตำแหน่งเดิมได้อีกด้วย ดังนั้นไม่ว่าจะถอดรีเทนเนอร์ออกชั่วคราวเพื่อทานอาหารหรือแปรงฟัน ก็ควรเก็บไว้ในกล่องสำหรับรีเทนเนอร์โดยเฉพาะทันที ไม่ควรห่อกระดาษทิชชู วางทิ้งไว้บนโต๊ะอาหาร หรือเก็บรวมกับของใช้ส่วนตัวอื่นๆ ที่อาจทำให้ลืมหรือทำตกหล่นเสียหายได้ การระมัดระวังเล็กน้อยในแต่ละวันจะช่วยให้รีเทนเนอร์ของเรายังคงสภาพปกติและมีไว้ใส่เพื่อทำหน้าที่คงสภาพฟันได้เต็มที่ค่ะ ก็จบแล้วค่ะ กับสิ่งสำคัญที่ต้องรู้สำหรับนำไปดูแลรีเทนเนอร์ของเรา ให้มีสภาพสมบูรณ์ สะอาดและเหมาะสมในระหว่างการคงสภาพฟัน หลังจากที่ได้ถอดเหล็กจัดฟันแล้ว จะเห็นได้ว่าการดูแลรีเทนเนอร์ก็ไม่ได้ยากจนเกิน เกินกว่าที่เราจะมีความสามารถและเวลานะคะ โดยแนวทางข้างต้นเป็นแนวทางที่ผู้เขียนได้นำมาปรับใช้ด้วยเหมือนกันค่ะ หากข้อไหนยังไม่เข้าใจคุณผู้อ่านสามารถย้อนกลับไปอ่านอีกรอบได้ค่ะ และอย่าลืมนำไปใช้นะทุกคน ที่สำคัญมากๆ คือ อย่าทำรีเทนเนอร์หายหรือเสียหายเด็ดขาด! บนกล่องให้เขียนชื่อและเบอร์โทรติดต่อกลับไว้เลยนะคะ เพราะหากสูญหาย คนเก็บได้จะได้ตามมาหาเราเจอค่ะ และผู้เขียนหวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับคุณผู้อ่านไม่มากก็น้อย หากสนใจเนื้อหาเช่นนี้อีก อย่าลืมกดติดตามหรือบุ๊กมาร์กโปรไฟล์ไว้ เพื่อรับข้อมูลใหม่ๆ ในบทความต่อไปค่ะ เครดิตรูปภาพประกอบบทความ รูปภาพทำหน้าปกและออกแบบหน้าปกโดยผู้เขียน ใน Canva รูปภาพประกอบเนื้อหาโดยผู้เขียน เกี่ยวกับผู้เขียน ภัคฒ์ชาลิสา จำปามูล จบการศึกษา: พยาบาลศาสตรบัณฑิต จากวิทยาลัยพยาบาลศรีมหาสารคาม กระทรวงสาธารณสุข และสาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต (อนามัยสิ่งแวดล้อม) จากมหาวิทยาลัยขอนแก่น มีความสนใจและประสบการณ์เกี่ยวกับ: สุขภาพ จิตวิทยาเชิงบวก การบำบัดน้ำเสียและกำจัดสิ่งปฏิกูล 11 วิธีดูแลตัวเองเมื่อเป็นไข้หวัด ทำได้ที่บ้าน ที่คุณควรรู้ 11 วิธีลดอาหารรสจัดจ้าน มีอะไรบ้าง กินเผ็ดน้อยลงได้ ทำไงดี วิธีดูแลตัวเองหลังบริจาคเลือด มีอะไรบ้าง เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !