IHL โชว์ผลงาน Q3 พลิกขาดทุน มีกำไรพุ่ง 344.16% รวม 9 เดือน กำไรกระฉูด แตะ 105 ล้าน ออเดอร์ผลิตเบาะหนังรถทะลัก รับอุตฯรถยนต์ฟื้นตัว

นายองอาจ ดำรงสกุลวงษ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท อินเตอร์ไฮด์ จำกัด (มหาชน) หรือ IHL เปิดเผยผลการดำเนินงานของบริษัทฯ งวดไตรมาส 3/2564 (สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2564) ว่ามีกำไรสุทธิอยู่ที่ 40.75 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 344.16% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน ขาดทุนสุทธิ 16.69 ล้านบาท ส่วนรายได้รวมอยู่ที่ 389.25 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.76% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน มีรายได้รวมเท่ากับ 357.88 ล้านบาท
สำหรับผลการดำเนินงาน 9 เดือนของปี 2564 กำไรสุทธิอยู่ที่ 104.83 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 295.18% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน ขาดทุนสุทธิ 53.71 ล้านบาท ส่วนรายได้รวมอยู่ที่ 1,240.84 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 40.62% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน มีรายได้รวม 882.42 ล้านบาท
นายองอาจ กล่าวว่า สาเหตุที่ทำให้กำไรสุทธิปรับตัวเพิ่มขึ้น มาจากธุรกิจผลิตเบาะหนังรถยนต์ ซึ่งเป็นธุรกิจหลักมีคำสั่งซื้อ (Order) ทยอยเข้ามาอย่างต่อเนื่อง และสามารถดำเนินการผลิตได้ตามปกติ รวมถึงมีรายได้จากธุรกิจใหม่เข้ามาสนับสนุนเพิ่มเติมด้วย “ภาพรวมผลการดำเนินงานเติบโตได้ต่อเนื่อง ผลจากการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมยานยนต์ มีสัญญาณดีขึ้น บวกกับบริษัทฯสามารถรับมือกับสถานการณ์โควิด-19 ได้ดีกว่าปีก่อน สามารถเดินเครื่องผลิตได้ตามปกติ จึงมั่นใจว่าผลงานปีนี้จะเติบโตได้ระดับ 20% จากปีก่อน และเป็นตามเป้าหมายที่วางไว้” นายองอาจกล่าว
ด้านนายวศิน ดำรงสกุลวงษ์ กรรมการ และผู้จัดการทั่วไป บริษัท อินเตอร์ไฮด์ จำกัด (มหาชน) หรือ IHL กล่าวว่า แผนการดำเนินธุรกิจที่เหลือของปีนี้ บริษัทฯ ยังคงเดินเครื่องผลิตเบาะหนังรถยนต์ตามปกติ ส่วนธุรกิจผลิตหนังเฟอร์นิเจอร์ มีออเดอร์เข้ามาอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันมีลูกค้าประมาณ 3-4 ราย และอยู่ระหว่างการเจรจาอีกหลายราย ขณะที่ธุรกิจฟอกหนังรองเท้า มีลูกค้าอยู่แล้ว 3 ราย ซึ่งกำลังพยายามเจรจาปิดดีลลูกค้าใหม่ให้มีจำนวนมากขึ้น
ในส่วนของธุรกิจขนมขบเคี้ยวสุนัข ซึ่งเป็นธุรกิจใหม่ได้เริ่มวางจำหน่าย ภายใต้แบรนด์ “MOMO & FRIENDS” ผ่านช่องทางออนไลน์เรียบร้อยแล้ว และมีแผนที่จะขยายช่องทางการจำหน่ายไปตามห้างสรรพสินค้าชั้นนำ เพื่อให้เข้าถึงผู้บริโภคมากที่สุด นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้รับจ้างผลิต (OEM) ส่งออกไปยังประเทศเกาหลี และมีการส่งออกวัตถุดิบหนังวัวไปยังประเทศเวียดนาม และกัมพูชา รวมทั้งมีแผนที่จะขยายฐานลูกค้าไปยังประเทศอื่นๆ อีกด้วย