วิกฤตผู้อพยพยุโรปครั้งใหม่จ่อปะทุ EU กล่าวหารัสเซียบงการอยู่เบื้องหลัง

ช่วงหลายเดือนมานี้ โปแลนด์ ลิทัวเนีย และลัตเวีย ซึ่งเป็นชาติสมาชิกสหภาพยุโรป หรือ EU ต่างรายงานถึงจำนวนผู้อพยพที่พยายามลักลอบเข้าประเทศจากพรมแดนติดกับเบลารุส โดยผู้อพยพจำนวนมากมาจากตะวันออกกลาง อัฟกานิสถาน และแอฟริกา

ทางการโปแลนด์ต้องสร้างรั้วลวดหนามเป็นแนวยาว กั้นระหว่างพรมแดนติดกับเบลารุส ส่งผลให้ผู้อพยพต้องพักค้างแรมภายในป่า ท่ามกลางอากาศที่หนาวติดลบ ทำให้มีผู้อพยพเสียชีวิตจากภาวะอุณหภูมิในร่างกายลดต่ำอย่างน้อย 7 รายแล้ว แต่พวกเขาก็กลับเข้าไปในเบลารุสไม่ได้ เพราะรัฐบาลเบลารุสเองก็ไม่ให้เข้าประเทศ

ต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ผู้อพยพนัดแนะกันผ่านสังคมออนไลน์ว่า จะบุกฝ่าแนวกั้นและรั้วลวดหนามเพื่อเข้าไปในโปแลนด์ ทำให้รัฐบาลโปแลนด์วางกำลังทหาร 12,000 คนตามแนวชายแดน และในวันนี้ (10 พฤศจิกายน)โปแลนด์ได้สั่งปิดด่านข้ามแดนกับเบลารุสแล้ว ซึ่งบริเวณดังกล่าวมีผู้อพยพหลายพันคนพยายามฝ่าด่านเข้าไป

หน่วยยามชายแดนของโปแลนด์ระบุว่า มีผู้อพยพราว 800 คน ตั้งแคมป์ในรั้วฝั่งเบลารุส ซึ่งคนกลุ่มนี้ เป็นส่วนหนึ่งของผู้อพยพยราวสี่พันคนที่อยู่ตามป่าในบริเวณดังกล่าว

เจ้าหน้าที่ของโปแลนด์คาดการณ์ว่า ตัวเลขผู้อพยพที่แท้จริงที่รออยู่ในเบลารุสตอนนี้อาจสูงถึง 12,000 คน และคาดการณ์ว่าอีกไม่กี่วันข้างหน้าสถานการณ์จะตึงเครียดมากขึ้น และโปแลนด์อาจต้องยอมรับความช่วยเหลือจากต่างชาติ

ด้านรัฐบาลลิทัวเนียระบุว่า ได้เคลื่อนกำลังทหารไปที่แนวชายแดนติดเบลารุสเช่นกัน เพื่อรับมือกับคลื่นผู้อพยพ และได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินตามแนวชายแดนติดเบลารุสด้วย

◾◾◾

🔴 ยุโรปกล่าวหาเบลารุส-รัสเซียจงใจแกล้ง

รัฐบาลโปแลนด์กล่าวหาทางเบลารุสว่า พยายามผลักดันผู้อพยพเหล่านี้ให้เข้ามาในโปแลนด์ พร้อมระบุว่า นี่เป็นพฤติกรรมที่คุกคามอธิปไตยของประเทศ เนื่องจากมีรายงานว่า เจ้าหน้าที่เบลารุสคอยให้ความช่วยเหลือผู้อพยพ ให้ลักลอบข้ามพรมแดนเข้าไปในโปแลนด์

นายมาเตอุซ โมราเวียคกี นายกรัฐมนตรีโปแลนด์ กล่าวว่า ผู้นำเผด็จการของเบลารุส อเล็กซานเดอร์ ลูคาเชนโก ซึ่งเป็นพันธมิตรใกล้ชิดของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซีย เป็นผู้โจมตีให้เกิดวิกฤตนี้ และผู้บงการอยู่ในรัสเซีย ก็คือประธานาธิบดีปูติน

นายกฯ โปแลนด์ กล่าวหาว่า ผู้นำรัสเซียและเบลารุสกำลังพยายามทำให้สหภาพยุโรปไร้เสถียรภาพ โดยการจงใจปล่อยคลื่นผู้อพยพให้ผ่านเบลารุส เพื่อเข้าไปในชาติ EU สถานการณ์เช่นนี้ คือ “สงครามรูปแบบใหม่” ที่ใช้มนุษย์เป็นโล่ และนี่คือครั้งแรกในรอบ 30 ปี ที่ความมั่นคงชายแดนของโปแลนด์ถูกโจมตีอย่างร้ายแรงเช่นนี้

ขณะที่ทั้ง EU NATO และสหรัฐฯ ต่างกล่าวหาเบลารุส ว่าเป็นผู้ทำให้เกิดการหลั่งไหลของผู้อพยพ และ EU ยังกล่าวหานายลูคาเชนโกว่า ล่อลวงผู้อพยพด้วยคำสัญญาลวง ๆ ว่าจะช่วยให้เข้า EU ได้อย่างง่าย ๆ ซึ่งถือเป็นวิธีการแบบแก้งค์สเตอร์ที่ไร้มนุษยธรรม

EU ระบุว่า การกระทำของลูคาเชนโกนั้นเป็นการตอบโต้การคว่ำบาตรของ EU ที่มีขึ้นหลังการเลือกตั้งเบลารุส ที่เขาชนะการเลือกตั้งแล้วตามมาด้วยการปราบปรามผู้ประท้วงอย่างต่อเนื่อง

ขณะที่บรรดานักเคลื่อนไหวมองว่า ผู้อพยพนั้นกลายเป็นหมากในเกมการเมืองระหว่างเบลารุสกับชาติเพื่อนบ้านที่เป็นสมาชิก EU

ขณะที่องค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ หรือ NATO ระบุว่า กังวลต่อสถานการณ์ที่แย่ลงตามแนวชายแดนโปแลนด์ และพร้อมที่จะเข้ามารักษาความมั่นคงและความปลอดภัยของภูมิภาค

◾◾◾

🔴 เบลารุสตอบโต้ข้อกล่าวหา

ประธานาธิบดีลูคาเชนโกให้สัมภาษณ์สื่อของรัฐว่า เขาต้องการเลี่ยงสถานการณ์ทางทหารตามแนวชายแดน ซึ่งอาจทำให้รัสเซียต้องเข้ามาร่วมในความขัดแย้งนี้ และยืนยันว่าเขาไม่ได้เป็นคนบ้า เขารู้ดีว่าความเสี่ยงคืออะไร แต่เขาย้ำว่า เบลารุสก็จะไม่ยอมอ่อนจำนนให้

กระทรวงกลาโหมเบลารุสยังกล่าวหาโปแลนด์ว่าละเมิดข้อตกลงด้วยการส่งทหารหลายพันไปที่ชายแดน ขณะที่ทางการเบลารุสยืนยันว่าผู้อพยพยมาถึงเบลารุสอย่างถูกกฎหมาย และเบลารุสก็ทำหน้านี้ประเทศต้อนรับที่ดี

กระทรวงกลาโหมของเบลารุส ได้เรียกตัวทูตทหารของโปแลนด์มาชี้แจ้งในวันอังคาร (9 พฤศจิกายน) โดยระบุว่า โปแลนด์กล่าวหาเบลารุสอย่างไม่มีมูลว่า บุคลากรกองทัพเบลารุสมีส่วนเกี่ยวข้องกับวิกฤตผู้อพยพบริเวณชายแดน

หน่วยป้องกันชายแดนของเบลารุส ระบุว่า ผู้ลี้ภัยมากกว่าสองพันคนรวมตัวกันบริเวณชายแดนโปแลนด์ พวกเขาต้องการมุ่งหน้าไปยังสหภาพยุโรปเพื่อยื่นขอรับความคุ้มครอง และยังกล่าวหาโปแลนด์ว่าใช้วิธีการที่ไม่ชอบธรรมในการผลักไสผู้คนที่ต้องการความคุ้มครอง

ด้านรัสเซียได้ยกย่องการกระทำของเบลารุสว่า มีความรับผิดชอบในการรับมือสถานการณ์ชายแดน และรัสเซียกำลังจับตาสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

—————

เรื่อง: ธันย์ชนก จงยศยิ่ง

ภาพ: AFP