ในช่วง 2-3 วันนี้หุ้นไทย ดิ่งลงอย่างหนัก ทำให้นักลงทุนหลายคนสูญเงินนับล้าน ในสถานการณ์แบบนี้บางคนถึงขั้นซึมเศร้า กินไม่ได้ นอนไม่หลับ ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องแปลกในการลงทุนในหุ้นไทย สำหรับผู้เขียนเองก็มีการนำเงินบางส่วน ( อันน้อยนิด) เข้าไปลงทุนในหุ้นไทยบ้าง หุ้นต่างประเทศบ้าง ซึ่งเราก็สังเกตมาหลายปีว่า ตลาดหุ้นมีขึ้น มีลงสลับกันไป ไม่ว่าจะเป็น หุ้นไทย หรือ หุ้นต่างประเทศ เราจึงอยากมาแชร์ประสบการณ์เกี่ยวการลงทุนในตลาดหุ้นไทย เรามาดูกันเลยค่ะ ว่ามีอะไรบ้าง1. ตลาดหุ้นไทย อ่อนไหวง่ายไม่แพ้ตลาดหุ้นโลก นักลงทุนระดับโลกก็เคยบอกเรื่องนี้ว่า ตลาดหุ้น ไม่ว่าจะเป็นตลาดหุ้นไทย หรือ ตลาดหุ้นโลก เป็นตลาดที่อ่อนไหวง่าย แค่มีข่าวสารเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็อาจจะทำให้หุ้นขึ้น หรือ ลงได้อย่างน่าอัศจรรย์ใจ ยิ่งในโลกของอินเตอร์เน็ตที่ทุกคนสามารถรับรู้ข่าวสารทั่วโลกได้ในเวลาไม่ถึง 5 วินาที ตลาดหุ้นไทย ก็พร้อมจะวิ่งตามตลาดหุ้นโลก ถ้าใครสังเกตจะเห็นว่า การทวิตของผู้นำโลกบางคน ทำให้ตลาดหุ้นเกิดการเปลี่ยนแปลงได้อย่างง่ายดาย ช่วงที่ผู้เขียนเรื่องนี้เมื่อวานหุ้นไทยรูดลงจนน่าใจหาย พอวันถัดไปก็พุ่งไปอย่างกับจรวด หากใครที่สนใจจะเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นไทย ก็จำเป็นต้องเตรียมใจ และเตรียมความพร้อมรับมือกับความอ่อนไหวของตลาดหุ้นไทย ตรงนี้ด้วย2. การลงทุนในตลาดหุ้นไทย ไม่ง่าย แต่ก็ไม่ได้ยากจนเกินความพยายามสำหรับเราเองมองว่า การลงทุนในตลาดหุ้นไทย ง่ายกว่า การลงทุนในตลาดหุ้นต่างประเทศ เพราะ เราเข้าใจภาษา และรูปแบบการดำเนินธุรกิจของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทยมากกว่า ง่าย ๆ เราเข้าใจในตัวธุรกิจของบริษัทมากกว่า อย่างเช่น ถ้าเราจะพูดถึงบริษัท CPAll ซึ่งดำเนินธุรกิจ 7-11 เราก็พอจะนึกภาพออกว่า เดินไปที่ไหนก็เจอ 7-11 หรือ วันนี้มีเซเว่นเปิดใหม่ใกล้บ้านกี่ที่ แต่ละที่ลูกค้าเยอะแค่ไหน ซึ่งถ้าเป็นหุ้นต่างประเทศเราก็อาจจะไม่เข้าใจในธุรกิจได้ขนาดนั้น เว้นแต่เราไปอยู่และคุ้นเคยในประเทศนั้นอย่างดี 3. การลงทุนมีความเสี่ยง ไม่ว่าจะในตลาดหุ้นไทย หรือ ตลาดหุ้นโลก ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนในหุ้นไทย หรือ ตลาดหุ้นโลกมีความเสี่ยงหมด ก็อย่างที่นักลงทุนระดับโลกเคยกล่าวเอาไว้อีกเช่นกันค่ะว่า ถ้าคุณทำใจที่จะยอมรับการขาดทุน 50% ไม่ได้ คุณก็ไม่ต้องเข้ามายุ่งเกี่ยวในตลาดหุ้น โดยส่วนตัวเราเอง ก็คิดว่าจริงอย่างที่เค้ากล่าวไว้ อย่างช่วงโควิดที่พอร์ตลงทุนหุ้นไทยของเรา ขาดทุนไปเกือบ 10% แต่หลังจากนั้นก็พลิกกลับมากำไร ซึ่งตลาดหุ้นไทย และตลาดหุ้นโลกขึ้น ๆ ลง ๆ มาตลอดโดยเฉพาะในช่วง 2-3 ปีมานี้ที่อาจจะสับขาหลอกเป็นช่วง ๆ4. ถ้าไม่อยากเจ๊ง ก็อย่าเริ่มลงทุนในหุ้นไทยโดยใช้เครดิต หรือ มาร์จิ้น ข้อนี้เป็นเรื่องที่นักลงทุนระดับโลกเตือนมาเช่นกัน โดยส่วนตัวเราก็จะใช้เพียงแค่เงินเก็บที่เราคิดว่าไม่มีความจำเป็นต้องใช้ภายใน 10 ปี มาลงทุนในหุ้นไทย และเราไม่เคยใช้เครดิต หรือ มาร์จิ้นในการซื้อหุ้นเลยแม้แต่ครั้งเดียว เพราะเราคิดว่าตลาดหุ้นมันอ่อนไหวง่าย เหมือนที่เรากล่าวไว้ในข้อแรกค่ะ ดังนั้นเราขอแบบกินอิ่มนอนหลับ มีเวลารีแลกซ์เขียนบทความไปเรื่อย ๆ ดีกว่า5. การลงทุนในตลาดหุ้น อย่าซื้อเพียงเพราะเค้าบอกว่าดี อันนี้ไม่ว่าจะลงทุนในหุ้นไทย หรือ หุ้นต่างประเทศ เราจะต้องท่องให้ขึ้นใจว่า อย่าวิ่งไปซื้อตามเพียงเพราะคนอื่นบอกว่าเป็นหุ้นดี เหตุผลง่าย ๆ ค่ะ คนที่จะบอกว่าหุ้นตัวไหนดีได้ เค้าต้องซื้อและมีกำไรอยู่แล้ว เค้าจึงมาบอกเราว่าดี อย่างเราเองจะกล้าพูดว่าหุ้น A เป็นหุ้นที่ดีมาก ทั้ง ๆ ที่หุ้นตัวนั้นเราซื้อมาร่วม 10 ปี แต่ราคาหุ้นไม่เคยขยับ แถมไม่เคยจ่ายปันผลอีกต่างหาก เว้นแต่เราจะอยากไปหลอกให้คุณมาซื้อ เพื่อที่เราจะได้หนีไปไกล ๆ แต่คุณจะอยากมารับมีดต่อจากเราหรือค่ะ ? หรือ อีกนัยหนึ่งผู้เขียนอาจจะซื้อมาแล้วได้กำไรประมาณ 5 เท่า แล้วเราก็เอามาบอกคุณว่าหุ้นนี้ดีนะ ที่เราบอกก็อาจจะดีจริง แต่คุณก็อย่าลืมมาดูเองด้วยว่าหุ้นตัวนั้นขยับขึ้นเพียงเพราะข่าวดี หรือ ขยับขึ้นจากทำธุรกิจแล้วมีกำไร 6. แหล่งข้อมูลข่าวสารในการลงทุนหุ้นไทยถ้าคุณกำลังจะเริ่มลงทุนในหุ้นไทย จำเป็นต้องรู้ค่ะว่า เราจะหาข้อมูลข่าวสารจากที่ไหน ผู้เขียนชอบไปหาข้อมูล และความรู้จาก 4 แหล่งหลัก ๆ ในการลงทุนหุ้นไทย คือ ข้อมูลของตลาดหลักทรัพย์ (https://www.set.or.th) ข้อมูลจากเว็บ Settrade (https://www.settrade.com ) ข้อมูลจากหน้าเว็บของบริษัทจดทะเบียนนั้นๆ และ ข้อมูลที่อยู่ในเว็บ หรือ แอป ของ บมจ หลักทรัพย์นั้น สำหรับเนื้อหาข่าวสารตามเว็บ หรือ เพจ ที่ให้ข้อมูลด้านการลงทุนหุ้นไทย หรือ ข้อมูลจากผู้เชี่ยวชาญการลงทุนหุ้นไทยหลาย ๆ คน เราก็ยังคงติดตามฟัง อ่านเหมือนเดิม เพียงแต่เมื่อได้ข้อมูลมาแล้วเรามักจะมาเปิดดูข้อมูลเพิ่มเติมใน 4 แหล่งข้อมูลดังกล่าวข้างต้น ไม่ใช่เพราะเราไม่เชื่อใจ แต่เพราะเราอยากรู้เหตุผลว่าทำไมเขาถึงคิดแบบนั้น 7. ขั้นตอนและวิธีการการลงทุนหุ้นไทย สำหรับคนที่สนใจลงทุนในหุ้นไทย สามารถติดต่อขอเปิดบัญชีกับบริษัทหลักทรัพย์ได้โดยตรง ซึ่งเราเองได้เปิดบัญชีซื้อหุ้นไทยครั้งแรกในงาน Money Expo เมื่อหลายปีก่อน ณ ตอนนั้นหวังได้ของแถมในงาน แต่เมื่อเปิดบัญชีแล้วก็เลยต้องมาขวนขวายหาความรู้เพิ่มเติม เพราะไม่อยากเสียเงินที่ลงทุนไป แต่ถ้าใครอยากบัญชีซื้อขายหุ้นไทยออนไลน์ เราเคยแชร์วิธีเปิดบัญชีซื้อขายหุ้นออนไลน์ผ่านแอปพลิเคชัน K-cyber trade ซึ่งสามารถทำรายการด้วยตัวเองได้ง่าย ๆ อ่านต่อใน รีวิว วิธีเปิดบัญชีซื้อขายหุ้นออนไลน์ ผ่านแอปพลิเคชัน K-cyber trade (trueid.net) ชอบแบบไหนก็เลือกเอาค่ะการที่ตลาดหุ้นไทยวิ่งขึ้น หรือ ลง ก็ไม่จำเป็นว่าพอร์ตการลงทุนของเราจะต้องแย่เสมอไป ถ้าเราหาวิธีการลงทุนที่ถูกต้อง เคยมีคนบอกว่า คนที่เข้ามาในตลาดหุ้นมีเพียงแค่คนกลุ่มเล็กที่ได้กำไรงาม และมีบางกลุ่มได้กำไรบ้าง และอีกกลุ่มคือขาดทุน และออกจากตลาดไป สำหรับเราคิดว่าเราเลือกได้ว่าอยากเป็นแบบไหน แต่ถ้าคุณบอกลงทุนหุ้นเสี่ยงเกินไป ไม่เอาดีกว่า เราอยากถามว่าในโลกปัจจุบันเราจะหนีมันไปไหนพ้นค่ะ ?อ่านบทความรีวิวที่มีทั้งแบบมันส์ ๆ สไตล์ของผู้เขียน ส่องต่อใน Nurseonomyhttps://news.trueid.net/detail/AM1vel5DwK6Vเปลี่ยนจากซื้อหวย มารวยด้วย สลากออมสินดิจิทัล ซื้อง่าย ผ่านแอป MyMo เงินต้นไม่หาย ลุ้นรางวัลใหญ่ทุกเดือน (trueid.net)วางแผนเกษียณกันเถอะ เตรียมตัวยังไงให้มีเงินใช้พอ (trueid.net)อัตราแลกเปลี่ยนปัจจุบัน ทำคนทำงานต่างประเทศ กระเป๋าฉีก! (trueid.net)ซื้อกองทุนเพื่อออมเงิน ด้วย 3 ขั้นตอนง่าย ๆ ผ่านแอปธนาคารกรุงเทพ (trueid.net)แชร์ประสบการณ์ลงทุนต่างประเทศ เพิ่มผลตอบแทน (trueid.net)https://news.trueid.net/detail/n75P2aP1NMNlปล. 1. รู้ว่าเขียนด้านนี้ยังไงก็ไม่ปัง แต่ก็ยังอยากเขียนเหมือนเดิม 2. ดิฉันไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญ แต่ยังต้องการเรียนรู้อยู่ตลอดเวลาเช่นกันค่ะ ขอขอบคุณ ภาพปก โดย Umnat Seebuaphan´s imageภาพที่ 1/ ภาพที่ 2 /ภาพที่ 3 / ภาพที่ 4 โดยผู้เขียน กราฟฟิกจากเว็บ CanvaBy Nurseonomy#ลงทุน #หุ้นไทย #หุ้นต่างประเทศ #ตลาดหุ้น #กองทุน 7-11 Community ห้องลับเมาท์มอยของกินของใช้ในเซเว่น อะไรดีอะไรใหม่ ต้องรู้ ต้องคุย ต้องแชร์