อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและการโรงแรม นับเป็นหนึ่งรายได้หลักของประเทศไทย และสามารถขับเคลื่อนได้เร็วที่สุดในช่วงหลังโควิด-19 แต่ปัจจุบันกำลังประสบปัญหาขาดบุคคลากรจำนวนมากในวงการโรงแรมสืบเนื่องจากช่วงโควิด-19 การท่องเที่ยวและการโรงแรมได้รับผลกระทบอย่างมากไม่มีนักท่องเที่ยวเข้าประเทศเหมือนเดิม ทำให้โรงแรมส่วนใหญ่จำเป็นต้องเลิกจ้าง พักงานชั่วคราว พนักงานโรงแรม ซึ่งระยะเวลาที่ยาวนานเป็นปี ทำให้พนักงานเหล่านี้ต้องกลับบ้านเกิด หาอาชีพอื่นทำ บางรายเกิดความพึงพอใจกับงานใหม่ที่บ้านเกิด หรือประสบความสำเร็จกับงานอาชีพใหม่ ทำให้พนักงานเหล่านี้ ไม่หวลคืนกลับมาในวงการโรงแรมอีก หลังจากที่โควิด-19 สงบลงแล้วก็ตามหนึ่งในสาขาอาชีพการโรงแรมที่ยังขาดบุคลากรจำนวนมากคือ แม่บ้าน ถึงแม้ฟังดูแล้วน่าจะเป็นงานง่าย หาไม่ยาก แต่จริงๆแล้ว งานแม่บ้านโรงแรมจะต้องใช้บุคคลกรที่มีความอดทนสูง มีความซื่อสัตย์สุจริต ความขยันหมั่นเพียร มีความรู้ในระดับหนึ่ง และผ่านการฝึกอบรมอย่างดี เพื่อให้การทำงานเป็นไปอย่างราบรื่น ไม่ติดขัดกับปัญหาร้อยแปดที่จะต้องเผชิญกับแขกหรือนักท่องเที่ยวอย่างใกล้ชิดงานแม่บ้านโรงแรมมีอะไรบ้างงานหลักคือการทำความสะอาดภายในโรงแรม ซึ่งแบ่งออกเป็นพนักงานทำความสะอาดห้องพัก (Room attendant) และพนักงานทำความสะอาดพื้นที่สาธารณะ (Public Area attendant)นอกจากนี้ยังครอบคลุมงานซักรีด (Laundry) งานห้องลินินและยูนิฟอร์ม (Linen & Uniform) งานห้องดอกไม้ (Florist) งานสวน (Gardening) บางโรงแรมยังครอบคลุมไปถึงฟิตเนสและสปาด้วยตอนที่ 1 นี้จะเน้นงานหลักของแผนกแม่บ้านคือ พนักงานทำความสะอาดห้องพักและพื้นที่สาธารณะ และเป็นที่ต้องการของตลาดอย่างรีบด่วนในขณะนี้ตามมาตรฐานของโรงแรมทั่วไป จะรับบุคคลที่มีความรู้ขึ้นต่ำคือมัธยมต้น (ม.3) ถ้าไม่เคยมีประสบการณ์ในโรงแรมมาก่อน จะให้เริ่มทำงานในที่สาธารณะก่อนเช่น ตามทางเดินในโรงแรม ตามออฟฟิศ ห้องประชุมต่าง ๆ โดยจะมีหัวหน้าคอยกำกับดูแลอย่างใกล้ชิด จะมีการสอนงานที่ถูกวิธี การใช้น้ำยาทำความสะอาดและเครื่องไม้ เครื่องมือแต่ละประเภท การเก็บรักษาและดูแลพื้นที่ต่าง ๆในระหว่างทำงานในชั้นต้นนี้ หัวหน้าก็จะสังเกต ความประพฤติ อุปนิสัย ความขยันหมั่นเพียร ไปด้วย ถ้าสามารถทำงานได้เป็นอย่างดี ก็จะได้เลื่อนขั้นให้ไปทำความสะอาดในห้องพักแขก ซึ่งงานในระดับนี้ จะมีความสลับซับซ้อนเพิ่มขึ้น แต่จะมีหัวหน้าดูแล อบรมอย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ อาจมีคู่ทำงานซึ่งมีประสบการณ์ทำงานประกบไปด้วย จนกว่าจะสามารถปล่อยให้ทำงานคนเดียวได้นอกจากความรู้ในขึ้นต้นนั้นแล้ว พนักงานจะได้รับการอบรมการทำความสะอาดห้องพักแขกเพิ่มขึ้น เช่นเปลี่ยนผ้าปูที่นอน ทำความสะอาดห้องน้ำ การดูแลรักษาห้องพักอื่น ๆ เช่นทำความสะอาดแอร์ ผ้าม่าน พรม ผนัง เฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ ก๊อกน้ำ ชักโครก ซึ่งจะมีโปรแกรมการทำความสะอาดเป็นรายวัน รายสัปดาห์ รายเดือน และรายปี ตามแต่หัวหน้าจะกำหนดและเห็นสมควรสิ่งสำคัญที่สุดในการเป็นพนักงานทำความสะอาดห้องพักคือความซื่อสัตย์สุจริต เพราะจะต้องทำความสะอาดในห้องซึ่งแขกจะทิ้งทรัพย์สมบัติต่าง ๆไว้ในห้องระหว่างที่ออกไปทำธุรกิจ หรือท่องเที่ยว แม้ว่าโรงแรมจะมีตู้เซฟในห้องสำหรับเก็บสิ่งมีค่าต่าง ๆ แต่บ่อยครั้งที่แขกอาจลืม ฉะนั้น พนักงานจะต้องไม่แตะต้องสิ่งมีค่าเหล่านี้เด็ดขาด บางโรงแรมจะมีกฎให้พนักงานรายงานให้พนักงานออฟฟิศแม่บ้านและ Duty Manager ทราบทันทีที่เปิดห้องเข้าไปพบสิ่งมีค่าเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ ซึ่งหัวหน้าอาจให้ถ่ายภาพเอาไว้ด้วยเป็นหลักฐานข้อห้ามมากมายในการเป็นพนักงานทำความสะอาดถ้าทำงานในโรงแรมที่มีมาตรฐาน แม้แต่พนักงานทำความสะอาดก็มีข้อห้ามมากมายที่ไม่สามารถทำ และต้องทำมากมายเช่นห้ามคุยโทรศัพท์หรือเล่นโซเชียลระหว่างปฏิบัติหน้าที่ห้ามล้วง แคะ แกะ เกาในที่ส่าธารณะห้ามใส่น้ำหอมกลิ่นฉุน หรือมีกลิ่นตัวเด็ดขาดต้องรายงานให้หัวหน้าทราบทันทีที่พบเห็นสิ่งผิดปกติในสถานที่ของโรงแรมต้องคืนสิ่งมีค่าที่พบเห็นในโรงแรมให้แก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องซึ่งปกติจะเป็นแผนก Lost & Foundและอื่น ๆ อีกมากมายค่าตอบแทนงานและความรับผิดชอบมากมายอย่างนั้น แล้วค่าตอบแทนคุ้มค่าไหม แน่นอนถ้าได้ทำงานในโรงแรมแล้ว สิ่งที่จะได้รับค่อนข้างคุ้มค่า เต็มเม็ด เต็มหน่วยยูนิฟอร์ม ไม่ต้องเสียเงินซื้อเสื้อผ้ามาประกวดประขันกัน ทุกคนมียูนิฟอร์มตามตำแหน่งอยู่แล้วอาหาร 2 มื้อที่โรงแรมจะจัดให้พนักงานทุกคน ทุกรอบ (แคนทีนพนักงานจะมีอาหารให้ 4 รอบ สำหรับพนักงาน 3 รอบ ใครทำงานในรอบไหนก็จะได้รับบริการในรอบนั้น)เงินเดือนประจำ ตามตำแหน่ง หลังจากได้รับบรรจุเซอร์วิสชาร์จ (Service Charge) ซึ่งจะมากน้อยแล้วแต่จำนวนแขกที่เข้ามาใช้บริการ ฉะนั้นพนักงานจะทำงานอย่างมีความสุขมากถ้ามีแขกมาก ๆ บางโรงแรม service charge มากกว่าเงินเดือนเป็นเท่าตัว พนักงานไม่ต้องใช้เงินเดือนเลยก็มีทิปจากแขกโดยตรง พนักงานที่เข้าใจแขกจะได้รับค่าบริการพิเศษจากแขกประจำเสมอวันหยุดประจำสัปดาห์อย่างน้อย 4 วัน บางโรงแรม 6 วัน บางโรงแรม 8 วันต่อเดือน แล้วแต่มาตรฐานและสวัสดิการของโรงแรมนั้น ๆ ซึ่งส่วนใหญ่ไม่ตรงกับวันเสาร์-อาทิตย์วันพักร้อนต่อปีตามตำแหน่ง และส่วนใหญ่จะเพิ่มขึ้นตามอายุงานสวัสดิการอื่นๆ เช่นการตรวจร่างกายประจำปีการรักษาพยาบาลตามมาตรฐานประกันสังคม โรงแรมส่วนใหญ่จะมีห้องพยาบาลในโรงแรมซึ่งสามารถรักษาขึ้นต้นได้ก่อน Staff Partyของขวัญหรือวันหยุดเพิ่มในวันเกิด (เฉพาะบางโรงแรม) เคล็ดไม่ลับสำหรับเส้นทางความสำเร็จของอาชีพนี้การศึกษาระดับมัธยมต้นไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อความก้าวหน้าในอาชีพนี้ ถ้าคุณมีความมุ่งมั่นและเพียรพยายาม ระหว่างการทำงาน ให้ไปเรียน กศน.ให้ได้ระดับมัธยมปลาย ซึ่งใช้เวลาเพียงปีครึ่งเท่านั้น หลังจากนั้นนำวุฒิการศึกษาไปเรียนต่อในระดับปริญญาตรีในมหาวิทยาลัยที่เปิดให้เรียนภาคค่ำ หรือมหาวิทยาลัยที่เรียนออนไลน์ หรือมหาวิทยาลัยเปิด เพื่อเลื่อนระดับการศึกษา ติดอาวุธให้ตนเองเพื่อรองรับการเลื่อนตำแหน่งในหน้าที่การงานต่อไป ภายใน 5-6 ปี คุณก็มีทั้งวุฒิการศึกษาและประสบการณ์การทำงานอย่างเชี่ยวชาญ พร้อมที่จะเลื่อนตำแหน่งขึ้นไปแล้วเคล็ดไม่ลับอีกประการหนึ่งก็คือ ถ้าคุณศึกษาหาความรู้ด้านภาษา ที่ทางโรงแรมเปิดให้เรียน (ในเวลางาน) และใช้ให้เป็นประโยชน์ในการทำงานของคุณ โดยฝึกกับแขกของคุณ คุณจะได้ trainer ยอดเยี่ยมที่เป็นแขกของคุณ และยังได้ทิปพิเศษด้วย เพราะแขกส่วนใหญ่ มักจะให้ทิปกับพนักงานที่เอาใจใส่ พยายามสอบถามความเป็นอยู่ ความพอใจของแขกเสมอ บ่อยครั้งการได้พูดคุยกับแขก มักจะระงับการ complaint ได้ บางครั้งอาจได้คำชมเป็นพิเศษด้วยหากคุณยังอายุน้อย ยังลังเล จึงอยากเชิญชวน เสนอให้เป็นทางเลือกหนึ่งเพื่อความก้าวหน้าในอนาคต เราไม่ได้มองแค่ปัจจุบัน ว่าเป็นอาชีพต่ำต้อยไม่น่าทำ เพราะเราไม่ได้ย่ำอยู่กับที่ ทำงานอย่างนี้ไปตลอด แต่เราใช้เป็นบ้นได ไต่ขึ้นไปได้ไม่ยาก ซึ่งคุณสามารถทำรายได้ถึงแสนกว่าบาทต่อเดือน ในตำแหน่งสูงสุดของอาชีพนี้ ภาพปก โดย @katemangostar จาก freepik ตกแต่งโดย Canvaภาพที่ 1 โดย jemastock จาก freepikภาพที่ 2 โดย @macrovector จาก freepikภาพที่ 3 โดย @studio4rt จาก freepikภาพที่ 4 โดย @macrovector จาก freepikภาพที่ 5 โดย @macrovector จาก freepikภาพที่ 6 โดย Freepik จาก freepikภาพที่ 7 โดย Freepik จาก freepik เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !