สวัสดีค่ะ เพื่อนๆมีหนังสือในดวงใจที่ต้องหยิบมาอ่านทุกปีบ้างไหมคะ วันนี้เราจะมารีวิว 4 หนังสือวรรณกรรมที่หยิบมาอ่านกี่ทีก็ไม่มีเบื่อมารีวิวให้ทุกคนที่สนใจลองไปตามหาอ่านกันได้ดูค่ะ โดยจะมีทั้งวรรณกรรมแปล วรรณกรรมเยาวชนนะคะ จะมีเล่มไหนบ้างนั้น ตามไปอ่านรีวิวกันได้เลยค่ะ 1. สูญสิ้นความเป็นคนเขียนโดย ดะไซ โอซามุประเภท วรรณกรรมแปลของประเทศญี่ปุ่น-รีวิวความรู้สึกหลังอ่านจบ-เรื่องนี้ว่าจะอ่านนานแล้วแต่ไม่มีเวลาเลยเก็บมาอ่านตอนปิดเทอม เป็นหนังสือที่ดีมาก ในเรื่องตอนที่อ่านมีความรู้สึกหลากหลายปนอยู่ ทั้งอึดอัด ดิ่ง หน่วงอยู่ภายในใจมาก ตัวเอกในเรื่องเป็นคนเศร้าหมองแต่เขากลบเกลื่อนชีวิตด้วยความตลกของเขาซึ่งไม่มีสิ่งไหนเลยที่เป็นความรู้สึกจริงจากก้นบึ้งของจิตใจเลย เขาต้องเจอเรื่องราวมากมายตั้งแต่เด็กจนโต ความเป็นคนค่อยๆสูญหาย ชีวิตคนเราไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบคือความจริง โดยรวมแล้วเป็นเล่มเทาๆ ผู้เขียนถ่ายทอดถึงด้านมืดของจิตใจมนุษย์ออกมาได้ดีเลย เพราะคนเราไม่สามารถแบกโลกทั้งใบได้คนเดียวหรอก อ่านจบแล้วเคว้ง สำหรับใครที่ชื่นชอบวรรณกรรมแปลจากญี่ปุ่นรับรองว่าต้องชอบอย่างแน่นอนค่ะ-ประโยคที่ชอบในหนังสือ-"ชีวิตมนุษย์เต็มไปด้วยเรื่องหลอกลวงเกินจะนับ แม้ต่างคนต่างใส่หน้ากากเข้าหากัน น่าประหลาดที่ไม่มีใครกลับรู้สึกเจ็บปวด ไม่รู้ด้วยซ้ำว่ากำลังตบตากันอยู่ ช่างงดงามบริสุทธิ์ สะอาดและน่าเบิกบานอะไรเช่นนี้""ไม่ผูกพันย่อมไม่สูญเสีย"คะแนน 9/102. คิมจียองเกิดปี82เขียนโดย Cho Nam-jooประเภท วรรณกรรมแปลจากประเทศเกาหลี-รีวิวความรู้สึกหลังอ่านจบ-วรรณกรรมแปลอีกแล้ว แต่คือเป็นคนชอบอ่านวรรณกรรมมากๆคนนึงเลย เป็นหนังสือที่ถ่ายทอดผ่านตัวละครที่ชื่อว่าคิมจียอง ในสังคมชายเป็นใหญ่ในประเทศเกาหลีได้ดีเลยทีเดียว ทำไมผู้หญิงถึงโดนปฏิบัติไม่เท่าเทียมเพียงเพราะเราเป็นผู้หญิง เป็นเพราะเราอ่อนแอหรือ ก็ไม่ จะเห็นว่าผู้หญิงส่วนใหญ่ถึงแม้ว่าจะมีลูกมีครอบครัวแต่เราก็เลี้ยงดูลูกคนเดียว โดยที่ผู้ชายที่ขึ้นชื่อว่าช้างเท้าหน้านั้นก็ทำได้แค่บอกว่าจะช่วยแต่แล้วยังไงหรือ คุณก็ทำได้แค่พูดเท่านั้น น่าเศร้าที่เมื่อเราที่เป็นผู้หญิงออกมาเลี้ยงลูกแล้วไม่ทำงานกลับโดนเขานินทากล่าวหาว่าเป็นปลิงเกาะคนเป็นสามี ถ้าคุณได้อ่านเรื่องนี้คุณจะได้เห็นอีกหลายเรื่องที่ผู้หญิงโดนกระทำ ปลุกความเป็นเฟมินิสต์ของเราออกมามาก ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงคนไหนก็ไม่ควรถูกด้อยค่าพียงเพราะแค่เป็น ผู้หญิงนะคะ แนะนำสำหรับผู้ชายที่คิดว่าการเป็นพ่อหรือสามีของใครสักคนนั้นทำให้ตัวเองลำบาก ลองนึกถึงผู้หญิงที่ต้องตั้งท้อง 9 เดือน พร้อมกับคลอดลูกเลี้ยงลูกดูนะคะ แนะนำให้อ่านเป็นอย่างมากค่ะ สรุปแล้วเกิดเป็นผู้หญิงมันลำบากจริงๆ สุดท้ายนี้เราทุกคนก็ต่างเป็นคิมจียองด้วยกันทั้งนั้น-ประโยคที่อ่านแล้วเจ็บปวดในหนังสือ-"พวกคุณมีสิทธิ์อะไรมาตัดสินคนอื่น""ฉันยอมทิ้งงานการ ความฝัน ชีวิต แต่เป็นได้แค่ปลิงในสายตาคนอื่น""เคยรู้บ้างไหมว่าลูกสาวชอบกินอะไรหรือรู้แต่เรื่องของลูกชาย""อยากถลุงเงินเงินผัวซื้อกาแฟบ้าง ไม่ต้องทำงาน เกาะผัวกินสบายจัง""คนส่วนใหญ่ใช้นามสกุลตามพ่อนี่เนาะ ถ้าใช้นามสกุลแม่ คนอื่นคงคิดว่าเด็กมีปัญหาที่บ้านหรือเปล่า""คนหิวเงิน ขนาดท้องโย้ ยังถ่อสังขารนั่งรถไฟใต้ดินไปทำงาน จะมีลูกหาวิมานอะไร"คะแนน 9.5/103. เด็กชายในชุดนอนลายทางเขียนโดย จอห์น บอยน์ประเภท วรรณกรรมเยาวชน-รีวิวความรู้สึกหลังอ่านจบ-เป็นหนังสือที่เล่าเรื่องผ่านตัวละครที่ชื่อว่าบรูโน ที่วัยเพียง9ขวบ ที่ต้องย้ายจากบ้านไปอยู่สถานที่แห่งใหม่ที่เขาต้องพยายามเข้าใจว่าเป็นสถานที่แบบไหน ซึ่งเป็นลูกของทหารฝั่งนาซี และสถานที่แห่งนั้นอยู่ข้างกับค่ายกักกันชาวยิว Auschwitz และได้เป็นเพื่อนกับเด็กชายรุ่นราวคราวเดียวกันกับชาวยิวที่อยู่อีกฝั่งของรั้ว อ่านแล้วเศร้า ซึมมากที่ชาวยิวถูกมองว่าไม่มีค่า และพวกทหารนาซีที่เลวร้ายและป่าเถื่อน หนังสือเล่มนี้ถูกถ่ายทอดผ่านมุมมองของเด็กที่ทั้งไร้เดียงสาและอ่อนต่อโลกที่ไม่เข้าใจโลกของผู้ใหญ่ อ่านแล้วอึดอัดเหมือนกันนะ เสียน้ำตาไปด้วย และมีคนนำไปสร้างเป็นหนังด้วยต้องตามไปดู และศึกษาด้วยว่าเราไม่ควรนำสัญลักษณ์แห่งความโหดร้ายนี้มาเล่น นั้นคือ รูปดาวแห่งเดวิดเป็นสัญลักษณ์ของชาวยิว และสวัสติกะเป็นสัญลักษณ์ของฝ่ายนาซี และสุดท้ายนี้เผด็จการมันแย่ทุกคนจริงๆ-ประโยคที่ชอบในหนังสือ-"ถ้าหลานใส่เสื้อผ้าที่เหมาะสมแล้วละก็ หลานจะรู้สึกว่าตนเองเป็นคนที่กำลังเสแสร้งว่าเป็นจริง""แม้จะมีความวุ่นวายตามมา แต่บรูโนก็พบว่าเขายังจับมือของชมูเอลไว้ด้วยตัวของเขาเองและไม่มีสิ่งใดในโลกที่จะโน้มน้าวให้เขาปล่อยมือได้""ความแตกต่างอยู่ที่ไหนแน่นะ เขาสงสัยในใจ แล้วใครกันที่เป็นคนตัดสินว่าคนพวกไหนจะสวมชุดนอนลายทางและพวกไหนสวมเครื่องแบบ"คะแนน 9/104. NINE LIVESเขียนโดย ทรงศีล ทิวสมบุญประเภท วรรณกรรม , เรื่องสั้น-รีวิวความรู้สึกหลังอ่านจบ-เป็นเรื่องราวที่เล่าผ่านตัวละครที่เป็นแมวหมดเลย อีกทั้งรูปในหนังสือเป็นรูปที่วาดได้สวยมีเอกลักษณ์มาก เล่มนี้ใช้เวลาในการอ่านเพียงแค่ 1 ชั่วโมงเอง เพราะมีเนื้อหาน่าติดตาม ถึงแม้ข้อความจะไม่ค่อยเยอะ แต่กลับทำให้ชวนอ่านและตั้งใจอ่านตั้งแต่ต้นจนจบ รูปวาดสวย เล่าเรื่องออกมาได้ดี เป็นอีกหนังสือของนักเขียนไทยที่น่าอ่านอีกเรื่องหนึ่งเลยค่ะ-ประโยคที่ชอบในหนังสือ-" ก็แค่สิ่งที่มนุษย์เชื่อกันไปเองแท้ๆ เราเองก็โง่งมนัก ที่หลงเชื่อในสิ่งที่ได้ฟังมา ทั้งที่ยังไม่รู้ความจริงอะไรเลย หากความไม่แน่นอนยังคงเป็นความจริงอย่างหนึ่ง ใครเล่าจะรู้ ว่าการฆ่าตัวตายจะนำเราไปสู่สิ่งใด เราอาจต้องทนทุกข์ยิ่งกว่าที่เป็นอยู่นี้ก็ได้ "" แล้วเจ้ารู้สึกอย่างไรหรือ เวลาที่รักใครสักคน "" เหมือนดอกไม้สวรรค์ หัวใจข้าเต้นแรงเหลือเกิน ข้าได้ตระหนักว่า ช่วงเวลาอันยาวนานนับพันปี ที่ข้ามีชีวิตโดยปราศจากหัวใจและไม่รู้จักความรักนั้น ช่างไร้ความหมายโดยสิ้นเชิง หากเทียบกับช่วงเวลาสั้นๆ ที่ข้าได้เรียนรู้ว่า ความสุขของการได้รักใครสักคนนั้นเป็นเช่นไร "" บัดนั้น ชั่วเวลาสีหม่นอันยาวนาน ก็พลันกลับกลาย เป็นทุ่งดอกไม้หลากสีสัน ที่ดูราวกับจะเบ่งบาน ไปชั่วนิรันดร์ "คะแนน 9/10เป็นอย่างไรบ้างคะ กับหนังสือที่นำมาแนะนำ หวังว่าจะเป็นประโยชน์ให้กับบุคคลที่สนใจจะไปตามหาอ่านกันนะคะ เพราะการอ่านไม่มีที่สิ้นสุดค่ะ เครดิตภาพหน้าปก โดย 🇸�� Janko Ferlič จากเว็บไซต์ https://unsplash.com/รูปภาพถ่ายหนังสือเป็นภาพถ่ายของเจ้าของเอง เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !