สวัสดีค่ะ เราเชื่อว่าทุกคนต้องเคยเครียดกับการเรียนหนังสือ อาจจะจำเนื้อหาเรื่องที่เรียนได้ไม่มากพอหรือไม่มีแรงฮึดที่จะลุกขึ้นมาอ่าน ซึ่งเราเคยเป็นเหมือนกันค่ะ เราเลยเริ่มที่จะศึกษาและลองหาเทคนิคหรือเคล็ดลับการอ่านหนังสือจาก youtube หรือเว็บไซต์ต่างๆเพื่อไม่ให้ตัวเองนั้นเครียดและเหนื่อยกับการเรียนมากจนเกินไป อ่านบทความที่เกี่ยวกับความจำ และเราก็นำมาปรับใช้ให้เหมาะกับตัวเอง เราเลยอยากที่จะมาแชร์แบ่งปันกับทุกๆคนในเรื่องเคล็ดลับการเรียนและอ่านหนังสือค่ะ แต่ก่อนอื่น เราอยากให้ทุกคนสำรวจตัวเองก่อนว่าด้อยที่วิชาอะไรและเก่งที่วิชาอะไร หรือด้อยเรื่องไหนเก่งเรื่องไหน เรียงลำดับความสำคัญความยาก ง่าย และจดเอาไว้ เพื่อที่จะได้มุ่งเน้นเป้าหมายในการอ่านได้อย่างถูกต้องและไม่เสียเวลา ถ้าพร้อมแล้ว มาดูเทคนิคการเรียนและอ่านหนังสือยังไงให้ไม่เครียดและจดจำได้ง่ายกันดีกว่าค่ะเก็บเกี่ยวความรู้ตั้งแต่ในห้องเรียน,จดเลคเชอร์ การตั้งใจฟังครูสอนตั้งแต่ในห้องเรียนจะทำให้เราได้ทุ่นแรงของตัวเองในการอ่านหนังสือ เพราะครูแต่ละท่านนั้นส่วนใหญ่จะเรียบเรียงหัวข้อและสรุปเนื้อหามาสอนเราไว้เรียบร้อยหมดแล้ว ดังนั้นหากเราตั้งใจฟังและมีการจดเลคเชอร์เอาไว้จะทำให้เราได้จดจำเนื้อหาที่กระชับและเข้าใจง่ายมาอ่านสอบแน่นอนค่ะ ยิ่งตรงส่วนไหนที่ครูพูดเยอะๆย้ำบ่อยๆให้ดอกจันไว้เลยนะคะ ออกสอบแน่นอนฝึกอ่านจับใจความ,เน้นอ่านส่วนที่ออกข้อสอบ หากเราจะจำเนื้อหาทั้งหมดในหนังสือนั้นก็คงเป็นไปไม่ได้ เราจึงควรฝึกที่จะจับใจความสำคัญในเนื้อเรื่องเพื่อกระชับความเข้าใจและได้ตัดทอนเนื้อหาส่วนที่ไม่จำเป็นออกไปด้วย ตั้งใจฟังครูดีๆตอนครูบอกข้อสอบนะคะพยายามเลือกที่นั่งข้างหน้าสุดในห้องเรียน ถ้าเป็นไปได้เราอยากให้ทุกคนเลือกนั่งเรียนข้างหน้าสุดค่ะ เพราะว่าเรานั้นจะมีสมาธิจดจ่ออยู่ที่กระดานและครูมากที่สุด หากเรานั่งที่หลังๆอาจทำให้ตั้งใจฟังครูได้ไม่เต็มที่เพราะศีรษะของเพื่อนๆที่อยู่ข้างหน้าเราจะไม่ได้อยู่นิ่งตลอด จึงอาจทำให้เราสมาธิหลุดได้ค่ะตั้งเวลาในการอ่านหนังสือ 45 นาทีและพัก 5-10 นาที สมองของคนเรานั้นจะทำงานและจดจำได้ดีที่สุดตอน 45 นาทีแรกค่ะ หลังจากนั้นสมองของเราจะเริ่มล้าและประมวลผลได้น้อยลง จึงดีกว่าถ้าเราค่อยๆอ่านและนำข้อมูลเข้าไป การอ่านหนังสือติดต่อกันเป็นเวลานานโดยไม่พักจึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำเลยค่ะ พัก 5-10 นาทีแล้วกลับมาอ่านต่ออีก 45 นาที ทำแบบนี้วนไปเรื่อยๆจนกว่าจะอ่านได้ครบตามเป้าหมายที่ตั้งไว้เลยนะคะวางโทรศัพท์ไว้ไกลๆมือ บางทีหากเรามีโทรศัพท์ไว้ใกล้ๆนั้นอาจทำให้เราสมาธิหลุดได้ค่ะ เพราะได้จับเล่นแต่ละครั้งก็อาจจะทำให้เราเล่นเพลินจนไม่ได้อ่านหนังสือเลย ฉะนั้น วางไว้ให้ไกลที่สุดเลยค่ะถ้าอ่านหนังสืออยู่แล้วง่วงก็ไปนอน เราไม่ควรฝืนที่จะอ่านหนังสือต่อในช่วงที่สมองต้องการที่จะพักผ่อน ดังนั้น อาจจะมีการงีบหลับเพื่อให้สมองได้ผ่อนคลายและตื่นขึ้นมาสดชื่นมากขึ้น เวลาที่แนะนำคือ 10/25/45 นาที ในการงีบหลับค่ะ เสียงนาฬิกาปลุกตั้งแบบอ่อนโยนหน่อยนะคะ เพราะว่าหากใช้เสียงที่ทำให้เราสะดุ้งตื่นอาจทำให้เรามีความหงุดหงิดตอนตื่นนอนได้ค่ะสอนการบ้านเพื่อนบ่อยๆ การที่เราสอนการบ้านเพื่อนนั้นถือว่าเราได้ทบทวนเนื้อหาเรื่องที่เรียนอีกครั้ง สมองจะทำการจัดเรียงข้อมูลใหม่เพื่อที่จะทำให้เราสามารถอธิบายให้เพื่อนเข้าใจได้ หากมีตรงไหนที่เพื่อนถามเราแล้วเราตอบไม่ได้ เราจะได้รู้ถึงช่องว่างของเราว่ายังไม่ได้ตรงไหนและกลับมาอ่านทบทวนใหม่อีกครั้ง ซึ่งถือเป็นประโยชน์ต่อตัวเรามากๆค่ะนี่คือเทคนิคบางอย่างที่เราได้นำมาแบ่งปันและได้ผลมาตลอดกับตัวเราเองจริงๆค่ะ อยากให้ทุกคนลองนำไปปรับใช้ให้เหมาะกับตัวเองมากที่สุดดูค่ะ เพื่อที่เราจะได้ไม่เครียดและเหนื่อยกับการเรียนมากจนเกินไป อย่างไรก็ตาม อย่ากดดันตัวเองมากเกินไปนะคะ เราสามารถค่อยๆเรียนรู้เพื่อผลลัพธ์ที่ดีได้ค่ะ แต่เราต้องมีวินัย ขยัน และมีความอดทนเพื่อเป้าหมายของเราในอนาคต หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับทุกๆคนในการเรียนนะคะ เกรดดีๆอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมแน่นอนค่ะขอบคุณรูปภาพจาก : picjumbo.com : รูปปก / รูปประกอบที่ 1 / รูปประกอบที่ 2 / รูปประกอบที่ 3