รีวิว TCL 40 NXTPAPER สมาร์ตโฟนจอถนอมสายตา แต่ราคาแค่ 5,999 บาท !

ที่ผ่านมาผู้เขียนก็ได้จับสมาร์ตโฟนมาหลายรุ่นอยู่ครับ แต่ไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะได้เจอกับสมาร์ตโฟนที่มีจอในรูปแบบนี้ เป็นสมาร์ตโฟนรุ่นแรกที่เนื้อจอทำแบบถนอมสายตาเลย กับ TCL 40 NXTPAPER สมาร์ตโฟนที่มีเนื้อจอที่ด้านลง เหมาะกับดวงตา ให้ตาล้ายากขึ้น และที่สำคัญ ราคาแค่ 5,999 บาทเท่านั้น !

บทความนี้จะพาไปดูกันว่าเจ้าสมาร์ตโฟนจอถนนอมสายตา ราคา 6,000 ทอน 1 บาทนี้จะมีอะไรน่าสนใจบ้างนอกจากจอถนอมสายตา มาดูกัน !

สเปกภายในเครื่องของ TCL 40 NXTPAPER

• หน้าจอ : LCD 6.78 นิ้ว รีเฟรชเรต 90Hz ความละเอียด 2460 × 1080 (FHD+) พร้อมเทคโนโลยี NXTPAPER 2.0
• ชิปเซต : MediaTek Helio G88 (รองรับ 4G) + การ์ดจอ Mali-G52 MP2
• หน่วยความจำขนาด 256GB
• RAM : 8GB
• กล้องหลัง 3 ตัว
  • กล้องหลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล (f/1.8)
  • กล้องมุมกว้างมาก (Ultra Wide) ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล (f/2.2)
  • กล้อง Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล (f/2.4)
• กล้องหน้าขนาด 32 ล้านพิกเซล (f/2.0)
• แบตเตอรี่ 5010 mAh (Li-Ion) พร้อมชาร์จไว 33W (PD)
• ซอฟต์แวร์ TCL UI 5 (Based on Android 13)
• การเชื่อมต่อ : รองรับ 4G ,WIFI 5 , Bluetooth 5.1, USB-C 2.0
• ขนาดตัวเครื่อง 168.16 x 75.53 x 7.89 มิลลิเมตร น้ำหนัก 195 กรัม
• วัสดุรอบตัวเครื่องเป็นพลาสติก, หน้าจอเป็นกระจกขัดด้าน และฝาหลังเป็นพลาสติก
• มีสีให้เลือก 2 สี ได้แก่สีน้ำเงินเข้ม (Midnight Blue) และสีขาวเหลือบ (Opalescent)
• ราคาวางจำหน่ายในประเทศไทย : 5,999 บาท

ดีไซน์

ดีไซน์ของ TCL 40 NXTPAPAER นี้ขอสรุปสั้น ๆ ด้วยคำว่า ‘เกินราคา’ ครับ คือเป็นสมาร์ตโฟนที่ออกแบบมาได้ดูดีเกินราคาอยู่พอสมควรเลย โอเค ฝาหลังเครื่องอาจจะทำจากพลาสติก, ตัวเครื่องอาจจะทำกรอบเหลี่ยมแบบที่เราเห็นกันทั่ว ๆ ไป หรือกระทั่งกรอบของกล้องที่ทำเป็นกรอบสี่เหลี่ยมอยู่ด้านบนซ้าย

แต่ที่น่าสนใจคือดีไซน์ทุกจุดเหมือนเติมรายละเอียดเข้ามามากขึ้น เช่นฝาหลังพลาสติกก็ทำสีแบบขัดด้านเล็กน้อย ไม่ใช่แค่พลาสติกเรียบ ๆ สีที่เห็นกันอยู่ตอนนี้คือสีน้ำเงินเข้ม ‘Midnight Blue’ เหมือนท้องฟ้ายามเที่ยงคืนอะไรแบบนั้น พร้อมกับดีไซน์การวางตัวหนังสือแบบวางเครื่องแนวนอน ส่วนกรอบรอบ ๆ กล้องเองก็แต่งบริเวณที่วางกล้องเป็นวงกลมที่มีลายเงาสะท้อนเป็นเส้นคล้าย ๆ แผ่นซีดีอยู่ด้วย เรียกง่าย ๆ ว่าไม่ได้ทำออกมาเล่น ๆ นั่นแหละ

ส่วนการวางพอร์ตก็เรียงมาครบถ้วน ประกอบไปด้วยปุ่มเปิด-ปิดที่ใช้เป็นเซนเซอร์แสกนลายนิ้วมือด้านข้าง, ปุ่มเพิ่ม-ลดเสียงที่อยู่ฝั่งเดียวกัน, ไมโครโฟนตัดเสียงด้านบน, ไมโครโฟนหลักด้านล่าง แถมยังมีพอร์ตหูฟัง 3.5 มิลลิเมตรให้อยู่ด้วย ! ส่วนช่องใส่ซิมสามารถใส่เป็นแบบ 3 ช่อง คือ 2 ซิม และ 1 Micro SD Card ได้เลย ใส่ได้สูงสุด 2TB นะ

โดยรวมแล้วการจับถือของสมาร์ตโฟนทำได้ค่อนข้างโอเคเลย อาจจะทำให้รู้สึกว่าตัวเครื่องสูงอยู่บ้าง จนทำให้การถือใช้มือเดียวแอบไม่ถนัดเล็กน้อย แต่โดยรวมถือว่าทำได้โอเคเลยทีเดียวครับ ขนาดเครื่องไม่กว้างเกินไป (ใหญ่ในทางสูงแทน) และเหมาะกับการถือใช้งานอยู่พอสมควรเลย

อุปกรณ์ในกล่องจะประกอบไปด้วย :

• ตัวเครื่อง TCL 40 NXTPAPAER
• อะแดปเตอร์ชาร์จแบตเตอรี่ขนาด 33W (PPS) ของ TCL
• สายชาร์จ USB-C to USB-C
• เคสซิลิโคน
• เข็มจิ้มซิม และคู่มือการใช้งาน

หน้าจอ NXTPAPER 2.0 !

แน่นอนว่าชื่อรุ่นจั่วกันมาซะขนาดนี้ TCL 40 ‘NXTPAPER’ เป็นสมาร์ตโฟนที่มาพร้อมกับหน้าจอ NXTPAPER 2.0 ให้อธิบายง่าย ๆ ก็เหมือนกับการผลิตหน้าจอสมาร์ตโฟนแบบที่ปรับแก้มาเพิ่มเติมครับ คือปกติหน้าจอที่ใช้เพื่อเป็นจอโดยทั่วไปมักจะทำเป็นแบบ Glossy หรือเป็นจอที่มีเงาสะท้อนครับ แต่ถ้าใครที่ชอบฟีลการอ่านแบบกระดาษ ก็จะมองไปทางจอ ‘E-Ink’ หรือจอที่ใช้สารเคมีในการแสดงผล แปลว่าไม่ต้องใช้แสงช่วยในการส่งภาพใด ๆ ซึ่งก็ดีกับสายตานะ แต่จะไม่สามารถแสดงผลสีอะไรดี ๆ ได้เลย ได้แค่ขาว-ดำ เท่านั้น

ซึ่ง TCL เขาก็เห็นจุดนี้ ก็เลยตัดสินใจทำเทคโนโลยีที่ชื่อ ‘NXTPAPER’ เพื่อมาทำให้หน้าจอยังเหมาะกับสายตาของเราอยู่ แต่ก็สามารถใช้ภาพสีได้เหมือนจอสมาร์ตโฟนปกติเลย คือได้ข้อดีของทั้งจอ E-Ink และจอแบบปกติแหละว่าง่าย ๆ โดยในไทยตอนนี้จะมี TCL NXTPAPER 11 ซึ่งเป็นแท็บเดล็ตที่ใช้จอแบบนี้เช่นเดียวกัน ซึ่งทั้ง 2 รุ่นนี้มีหน้าที่ที่คล้าย ๆ กัน คือทำมาเพื่อเน้นการอ่าน (และเขียน) แต่ต่างกันที่ขนาดเครื่องนี่แหละ

ซึ่งแท้จริงแล้ว จอ NXTPAPER นี้คือคือจอที่เปลี่ยนสัมผัสกระจกหน้าจอใหม่ ใส่เลเยอร์ปกป้องดวงตาหลายชั้น ลดการปล่อยแสงสีฟ้าจากหน้าจอ แล้วก็เคลือบสารแบบพิเศษ ครอบทับหน้าจอแบบ IPS LCD เดิมนี่แหละครับ ซึ่งจอของ TCL 40 NXTPAPER นี้ใช้จอขนาด 6.78 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (1080 x 2460) และรีเฟรชเรต 90 Hz เลยนะ ก็คือ ต่อให้ไม่มีเทคโนโลยี NXTPAPER มาครอบทับ หน้าจอของรุ่นนี้จัดว่าให้มาเต็มไม่น้อยเลยทีเดียว

แล้วถามว่าคุณภาพดีไหม เอาจริงผมใช้คำว่าดีเกินค่าตัว 5,999 ของเขาอยู่เยอะเลยแหละ คือจอถนอมสายตาได้จริง อ่านตัวหนังสือบนหน้าฟีด หรืออ่านการ์ดูนได้นานขึ้นโดยไม่ปวดตามากนัก จากที่ลองอ่านมาหลาย ๆ แอปฯ ถือว่าทำได้โอเคเลยนะ แถมได้สัมผัสของจอแบบที่เราสัมผัสจอที่ด้าน เหมือนเราติดฟิล์มด้านไว้แล้ว (แต่สัมผัสลื่นกว่า) และมีเงาสะท้อนน้อยลงด้วย แล้วก็ มุมมองการมองจอทำได้ค่อนข้างดีเลยนะ ยกเว้นแค่ตอนแสงแดดส่องลงจอตรง ๆ เท่านั้น ที่จะทำให้มองไม่ค่อยเห็น จอ LCD สู้แสงได้เท่านี้แหละ

ซึ่งในรุ่นนี้มีโหมดใหม่เพิ่มเข้ามาครับ นั่นคือ NXTPAPER Mode ที่จะสามารถทำให้สีจออยู่ได้ 2 รูปแบบ คือ

• Color Paper ที่จะลดความสดของหน้าจอลง ให้เหมือนกับมองบนกระดาษจริงมากขึ้น แต่ยังมีสีอยู่
• Ink Paper หรือโหมดที่จะทำให้จอเป็นสีขาวดำ ล้อไปกับความเป็นจอ E-Ink เลยนั่นเอง

โดยทั้ง 2 โหมดนี้จะเปลี่ยนพื้นหลังเราเป็นพื้นกระดาษด้วยนะ (คาดว่าเพราะอยากเน้นความเป็นกระดาษมากขึ้น) ซึ่งจะมีข้อดีที่แตกต่างกันไปครับ คือโหมดลดสีลงจะเหมาะกับการอ่านหนังสือที่มีภาพ และอ่านนาน ๆ การที่สีจอลดความสดลงจะช่วยให้มองจอได้สบายตามากขึ้น โดยไม่ต้องครอบสีที่จะลดแสงสีฟ้าลงมาก แถมให้ความรู้สึกคล้ายกระดาษมากขึ้นด้วย ในขณะที่โหมดขาวดำ จะเหมาะกับคนที่อยากอ่านตัวหนังสือล้วน ๆ การทำให้เป็นสีขาวดำล้วน ๆ จะลดสิ่งรบกวนได้ดีกว่าด้วยนะ ลองไปใช้กันดูได้

และทั้ง 2 โหมดนี้ เป็นการครอบทับด้วยซอฟต์แวร์นะ ถ้าเราแคปหน้าจอ ภาพที่ได้ยังมีสีปกตินะ ! ยกเว้นภาพพื้นหลังและไอคอนของแอปฯที่มีการเปลี่ยนสีอยู่ ดังนั้น ถ้าเราค้างโหมดสีไว้แล้วแคปหน้าจอ ก็ไม่ต้องกลัวว่าสีของภาพแคปหน้าจอจะถูกเปลี่ยนไปด้วย ลองกดดูภาพเทียบกันว่าแต่ละโหมดสีต่างกันอย่างไรได้เลย

นอกจากนั้นยังมีเทคโนโลยี ‘NXTVISION’ ที่มีฟีเจอร์จำพวก Image Enhancement, Video Enhancement, Game Enhancement เร่งสีภาพ, ความคมของภาพ หรือค่า Contrast ต่าง ๆ ตามการใช้งานก็มีเหมือนกันนะ หรือจะเป็นโหมดการแสดงผลสำหรับการอ่านหนังสือ ลดแสงจอตอนอยู่ที่มืด หรือเร่งแสงจอมากขึ้นตอนอยู่กลางแจ้งก็มีให้ตั้งด้วย

ทีนี้เราลองเอาไปแสดงผลคลิป YouTube สามารถเปิดได้ความละเอียดระดับ 4K 60FPS เลยนะ แต่ด้วยความที่ชิปไม่แรงมากพอ ทำให้แสดงผลได้แบบลื่น ๆ ไม่เกิน 1440P เท่านั้นนะ (แต่ผู้เขียนว่าเปิดแค่ 1080P ตามความละเอียดของจอก็พอแล้ว !)

โดยรวมแล้วเรื่องจอจัดเต็มสมความเป็น TCL ที่เด่นด้านทีวีมาก ลูกเล่นเพียบ ให้แต่ละคนลองเอาไปปรับใช้ตามสะดวกกันได้ แต่สำหรับผู้เขียนเองก็ไมได้เลือกที่จะเปิดโหมดใด ๆ นะครับ แค่นี้ก็โอเคแล้ว เว้นแต่ตาจะเริ่มล้า แนะนำให้เปิดโหมด Color Paper จะช่วยได้ครับ

ปากกา T-Pen !

เห็นเป็นสมาร์ตโฟนราคา 5,999 แบบนี้ แต่ TCL 40 NXTPAPER ก็รองรับปากกาด้วยนะ ! แต่จะต้องเป็นปากกา T-Pen ที่แถมมากับเครื่องเมื่อซื้อ TCL 40 NXTPAPER เท่านั้น โดยจะเป็นปากกาแบบเดียวกับที่เราเจอใน TCL Stylus 5G คือเป็นปากกาที่สามารถวาดลงไปบนจอได้ โดยไม่ต้องใช้แบตเตอรี่ใด ๆ เลยนั่นเอง แต่เท่าที่ลองมา คือไม่สามารถใช้ฟีเจอร์ Pen Hovering ใด ๆ ได้เลย เน้นการใช้เขียนโดยเฉพาะนี่แหละ ซึ่งถามว่าจดดีไหม ถือว่าใช้ได้เลยนะ ได้ความรู้สึกคล้าย ๆ จดบนฟิล์มกระดาษอยู่เหมือนกัน

ซึ่งปากกานี้จะมาพร้อมกับเคสเฉพาะ ที่จะสามารถเก็บปากกาเข้าไปที่ด้านหลังของเคสได้เลย โดยมีสปริงล็อกปากกาเหมือนสมาร์ตโฟนมีปากกาทั่วไปเลย

กล้องถ่ายภาพ

TCL 40 NXTPAPER มีชุดกล้องหลังอยู่ 3 เลนส์ครับ คือกล้องถ่ายภาพหลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล (f/1.8) กล้องมุมกว้างมาก (Ultra Wide) ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล (f/2.2) และกล้องถ่้ายภาพมาโคร ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล (f/2.4) ที่เอาจริงผู้เขียนแอบอยากให้เจ้าอื่นทำตามนะ ด้วยการใส่เลนส์มุมกว้างมากมา ทำให้คนซื้อได้ใช้เลนส์ระยะกว้างมากนี้ไว้ถ่ายภาพวิวต่าง ๆ ได้มากกว่าเลนส์แบบอื่น ๆ แน่นอน

ซึ่งกล้องถ่ายภาพหลัก ถือว่าทำมาได้ค่อนข้างโอเคครับ มีการ Process อยู่พอสมควร แต่ถือว่าทำได้สวยเลย ในสภาพแสงมาก ๆ แต่ซอฟต์แวร์กล้องอาจจะมีติดอยู่เล็กน้อย คือเวลากดถ่ายเราจะไม่เห็นว่าภาพถ่ายไปแล้ว (ไม่มีแอนิเมชันการถ่ายให้ดู) ซึ่งจะทำให้เราไม่รู้ตัวว่าเราถ่ายติดแล้วหรือยัง ประกอบกับภาพที่ถ่ายไปใช้เวลาประมวลผลอีกซักพัก ทำให้บางครั้งเราอาจพลาดโอกาสในการถ่ายภาพสำคัญบางภาพไปได้นะ แต่ถ้าใช้เวลาลองเล่นกับมันซักหน่อยจะทำให้ได้ภาพที่ออกมาโอเคเลย ลองดูตัวอย่างภาพกันได้

ส่วนกล้องเลนส์มุมกว้างมาก ด้วยความละเอียด 5 ล้านพิกเซลอาจจะทำได้ไม่ดีเท่ากล้องหลัก และทำให้สีไม่ตรงกันด้วย แต่ในมุมของการนำภาพมาใช้ทั่วไป ลงโซเชียลเวลาไปท่องเที่ยว เท่านี้ถือว่าเพียงพอนะ อาจจะเจอปัญหาเดียวกับที่บอกไว้ในกล้องหลัก แต่ถ้าชินแล้วก็ถือว่าทำได้น่าพอใจอยู่เหมือนกับสำหรับเรตราคานี้

ในขณะเเดียวกัน TCL 40 NXTPAPER รุ่นนี้ก็มีโหมดกลางคืนด้วยนะ ! แม้จะใช้เวลาถ่ายที่ค่อนข้างนานหน่อยก็ตาม ทำให้โหมดนี้เหมาะกับการถ่ายวิวกลางคืนมากกว่าที่จะถ่ายวัตถุมืด ๆ นะ

ส่วนเรื่องซูม ก็ใช้การครอปภาพจากเลนส์หลัก 50 ล้านพิกเซลเท่านั้น เลยทำให้ระยะซูมจะอยู่ที่สูงสุด 4 เท่าเท่านั้น

และกล้องหน้าที่ 32 ล้านพิกเซล (f/2.0) นี้ก็อยู่ในระดับทั่ว ๆ ไปครับ ลองดูตัวอย่างภาพได้ แต่รู้สึกว่าตัวซอฟต์แวร์ยังทำภาพถ่ายกล้องหน้าออกมาได้ไม่ดีนักนะ

สเปก ประสิทธิภาพ และการเล่นเกม

ด้วยราคา 5,999 บาท สิ่งที่ต้องแลกมาเพื่อหน้าจอที่ลูกเล่นเยอะแบบนี้ คือเรื่องของสเปกนี่แหละครับ เพระา TCL 40 NXTPAPER มีชิปเซตด้านในเป็น MediaTek Helio G88 นั่นหมายความว่าเป็นสมาร์ตโฟน 4G เท่านั้น แต่ก็ถือว่าเป็นชิปที่ค่อนข้างฮิตอยู่เหมือนกันในสมาร์ตโฟนระดับเริ่มต้นเช่นนี้

ข้อดีของการเป็นชิปที่ฮิตในหมู่สมาร์ตโฟนหลายรุ่น จะทำให้หลาย ๆ แอปฯได้มีการ Optimize มาเพื่อชิปเซตเหล่านี้เรียบร้อยแล้ว โดยเฉพาะเกม ที่จะทำให้เล่นได้ไม่หงุดหงิดเท่าชิปที่ยังไม่ได้ Optimize ใด ๆ มานั่นเอง

โดยสเปกส่วนอื่น ๆ ก็ให้มาไม่กั๊กมากนักนะ ด้วยแรมขนาด 8GB และ ROM ขนาด 256GB คือให้ที่มากพอที่จะไม่ต้องใส่ MicroSD Card เพิ่มเติมแล้วก็ได้ แต่ก็ยังใส่เพิ่มได้อีก 2TB เลย

Disclaimer : เครื่องที่เราได้มาทดสอบนั้นมีแรมขนาด 6GB และหน่วยความจำขนาด 256GB เท่านั้น ดังนั้นผลการทดสอบ ไปจนถึงประสบการณ์การใช้งานจะแตกต่างจากเครื่องที่วางขายจริงได้

ซึ่งการทดสอบชิปเซตผ่าน Geekbench 6.2.2 ได้คะแนน Multi-Core อยู่ที่ 1,259 คะแนน และ Single-Core อยู่ที่ 424 คะแนน จริง ๆ เป็นคะแนนที่ใกล้เคียงกับระดับ Snapdragon 680 แล้วนะ แต่อาจจะยังได้ Optimize มาได้ไม่แรงเท่าฝั่งนั้น แต่ประสิทธิภาพแบบดิบๆ (Raw Performance) เรียกได้ว่าสูสีกันเลย เอาจริง ๆ ไปใช้งานทั่วไปก็ยังทำได้แบบไม่น่าเกลียดนักนะ

ส่วนด้านกราฟิกที่เราทดสอบด้วย 3DMark Wild Life Stress Test จะได้คะแนนสูงสุดอยู่ที่ 646 คะแนน, นิ่งที่ 99.1 % และอุณหภูมิสูงสุดที่ 36 องศา ถามว่าเยอะไหม เอาจริง ๆ เป็นตัวเลขที่ค่อนข้างน้อยแล้วในปี 2024 นี้ แต่ยังมีพอที่จะเล่นเกมเบา ๆ อย่าง RoV PUBG Mobile หรือกระทั่ง FreeFire ยังพอไหวนะ

ซึ่งที่เราเอาไปลองเล่น RoV มา สามารถตั้งค่าได้แค่ที่ ภาพ HD สูงมาก, การแสดงผล สูง, พาร์ติเคิล สูงมาก และเฟรมเรต 60FPS เท่านั้น โดยตอนเล่น เอาจริง ๆ ตอนเจอไฟต์น้อยจะไม่กระตุก เล่นได้ 60FPS เลย แต่พอเจอไฟต์หนักมาก ๆ เฟรมจะเริ่มดรอปเมื่อเครื่องร้อน มีหล่นลงไปถึง 25FPS ได้เลยในบางช่วง อาจจะต้องลดให้ต่ำกว่านี้ หรือต้องล็อกเฟรม จะทำให้เล่นได้ดีกว่านี้นะ

ส่วนอีกเกมฮิตอย่าง Genshin Impact ถามว่าเล่นได้ไหม เรียกว่าพอได้ครับ แต่คงจะเล่นปรับสุดไม่ไหว ต้องตั้งค่าไว้ที่ต่ำสุด (ตามที่เกมตั้งไว้แต่แรก) เท่านั้น ถึงจะพอเล่นได้นะ

แบตเตอรี่

แบตเตอรี่ของ TCL 40 NXTPAPER นั้นให้มาที่ 5010 มิลลิแอมป์ครับ เป้นตัวเลขที่ค่อนข้างเยอะเลย โดยสามารถชาร์จแบตเตอรี่กลับได้ผ่านหัวชาร์จ 33W แบบ USB-C to USB-C ที่แถมให้ในกล่องแล้วเรียบร้อย ไม่ต้องไปซื้อเพิ่มใด ๆ แต่จริง ๆ ก็สามารถใช้หัวชาร์จ PD ทั่วไปมาเสียบได้เลย จะมีแจ้งเตือนว่ากำลังชาร์จแบบเร็วอยู่ด้วย

ส่วนเรื่องของอายุการใช้งานแบตเตอรี่ เป็นส่วนที่ผู้เขียนรู้สึกว่ายังทำได้ไม่ดีนัก โดยปกติแล้วสมาร์ตโฟนเรตราคานี้จะได้จุดเด่นด้านแบตเตอรี่ที่หมดช้ามาก ๆ บางรุ่นสามารถเปิดข้ามวันไว้ได้โดยไม่ทำอะไรเลย (Standby ไว้เฉย ๆ) แต่ TCL 40 NXTPAPER เครื่องนี้พอ Standby ทิ้งไว้ แบตเตอรี่จะหมดภายใน 1 วันเท่านั้น ส่วนการใช้งานทั่วไป ถามว่าจบวันได้ไหม ก็คงจะจบวันได้แบบพอดี ๆ ครับ อาจจะยังไม่สามารถใช้งานข้ามวันได้ ถ้าเล่น RoV แบตเตอรี่จะลดไปประมาณ 3-5% ต่อ 1 ตาเท่านั้น แต่ยังดีที่การชาร์จแบตเตอรี่กลับยังทำได้รวดเร็วอยู่นะ ทั้งนี้ เนื่องจากเครื่องที่เราทดสอบเป็นเครื่องที่ผ่านการใช้งานมาแล้ว ผลการทดสอบอาจจะไม่เหมือนกับเครื่องที่วางขายจริงได้เช่นกัน

สรุปส่งท้าย

ถ้าจะให้ผู้เขียนนิยาม TCL 40 NXTPAPER เครื่องนี้ ต้อขอยกให้มันเป็น ‘สมาร์ตโฟนสำหรับสายอ่าน’ ก็น่าาจะไม่ผิดอะไรนักครับ เพราะนี่คือสมาร์ตโฟนที่จอเหมาะกับการจ้องอ่านนาน ๆ มาก ทั้งอ่านหนังสือ อ่านการ์ตูน อ่านมังงะ อ่านข่าว ไปจนถึงอ่านโพสต์บนโซเชียลเน็ตเวิร์ค ใครที่คิดว่าจะซื้อสมาร์ตโฟนให้พ่อ-แม่ หรือรุ่นปู่ย่าตายาย ที่ชอบอ่าน หรือจ้องจอนาน ๆ รุ่นนี้ถือว่าค่อนข้างเหมาะสมเลย ด้วยหน้าจอถนอมสายตา สัมผัสคล้ายกระดาษแบบนี้ คิดว่าหลาย ๆ คนน่าจะต้องชอบกันแน่ ๆ

และแม้ว่ารุ่นนี้จะยังมีจุดสังเกตเรื่องประสิทธิภาพอยู่บ้างเล็กน้อย แต่เอาจริง ๆ รุ่นนี้เหมาะกับสายใช้งานทั่วไป เน้นอ่าน ถ่ายภาพบ้างนิดหน่อย และชอบมองหน้าจอนาน ๆ ความถนอมสายตาของ TCL 40 NXTPAPER นี้จะช่วยให้มองจอได้สบายตาขึ้นเยอะเลยล่ะครับ

โดยราคาวางจำหน่ายของ TCL 40 NXTPAPER อยู่ที่ 5,999 บาท โดยคนที่สั่งซื้อตั้งแต่วันที่ 12 มกราคมเป็นต้นไป จะได้ของแถมเป็นเคสซิลิโคนกันกระแทกและปากกาสไตลัส T-Pen มูลค่า 1,490 บาทฟรี (จนกว่าสินค้าจะหมดนะ) ซึ่งถ้าเราหักลบทุกอย่างตั้งแต่ความสามารถของเครื่อง ปากกา กล้อง ประสิทธิภาพ และแบตเตอรี่แล้ว เอาจริง ๆ รุ่นนี้ก็เป็นอีกรุ่นที่น่าสนใจสำหรับใครที่อยากได้สมาร์ตโฟนจอถนอมสายตาในราคาคุ้มๆ นะ !