รู้หรือไม่ อดีตผู้ถือหุ้นเฟซบุ๊ก ให้ลูกเล่นมือถือไม่เกิน 1.5 ชั่วโมง/สัปดาห์
ปัญหาเด็กเล็กติดหน้าจอ (iPad kids) กำลังทวีความรุนแรงมากขึ้นทั่วโลก ในขณะที่รัฐต่าง ๆ กว่า 33 รัฐ ในสหรัฐอเมริกากำลังยื่นฟ้องบริษัทเทค (Tech company) รายใหญ่อย่างเมตา (Meta) ว่าทำลายสุขภาพจิตเด็ก ๆ
แต่มหาเศรษฐีผู้เคยถือหุ้นในเฟซบุ๊ก (Facebook) ยุคก่อนที่จะควบรวมกับบริษัทอื่น ๆ กลายเป็นเมตา (Meta) ในภายหลัง และรวมถึงร่วมก่อตั้งเพย์พาล (PayPal) อย่าง ปีเตอร์ ธีล (Peter Thiel) กลับเริ่มจากการกำหนดให้ลูก ๆ ของเขาเล่นมือถือได้ไม่เกินวันละ 1.5 ชั่วโมง แทน
มหาเศรษฐีที่จำกัดเวลาเล่นมือถือลูก
Peter Thiel ให้สัมภาษณ์กับแอนดรูว์ รอสส์ ซอร์คิน (Andrew Ross Sorkin) นักข่าวสายการเงินชื่อดังว่า เขาให้ลูก ๆ ทั้ง 2 คน ที่มีอายุ 3 ปี และ 5 ปี เล่นอุปกรณ์ต่าง ๆ เช่น มือถือ แท็บเล็ต หรือทีวี โดยนับเป็นเวลาบนหน้าจอ (Screen time) ได้ไม่เกินสัปดาห์ละ 1.5 ชั่วโมง
ข้อตกลงในครอบครัวนี้สอดคล้องกับรายงานในสหร้ฐอเมริกาว่าอายุของคนที่เข้าถึงอินเทอร์เน็ตนั้นน้อยลงอย่างต่อเนื่อง จนตั้งชื่อว่าเป็นยุคสมัยของเด็กติดไอแพด (iPad kids) หรือยุคเด็กติดหน้าจอ
ปัญหาเด็กติดหน้าจอในสหรัฐอเมริกา
อย่างไรก็ตาม เมื่อนักข่าวถาม Thiel ว่า คิดอย่างไรกับการที่มีคนเตรียมยื่นเสนอผลักดันกฏหมายควบคุมการใช้งานโซเชียลมีเดีย พร้อมกับการที่รัฐต่าง ๆ ในสหรัฐอเมริกา กว่า 33 รัฐ ยื่นฟ้องเมตา (Meta) เจ้าของแพลตฟอร์มเฟซบุ๊ก (Facebook) และอินสตาแกรม (Instragram) ว่าเป็นต้นตอของปัญหาสุขภาพจิตในเด็กวัยรุ่น
Thiel กลับแสดงความไม่เห็นด้วย โดยกล่าวว่า “มันเป็นเรื่องมักง่ายเกินไป ที่จะเอาบริษัทเทคใหญ่ ๆ (Big tech) มาเป็นแพะรับบาปจากเรื่องทั้งหมดที่ทุกคนก็มีส่วนผิดเหมือนกัน” ซึ่งสอดคล้องกับที่ผู้บริหารและเหล่าแนวหน้าในวงการบริษัทเทคโนโลยีเริ่มมีการจำกัดเวลาใช้หน้าจอให้กับบุตรหลานตัวเอง
โดยก่อนหน้านี้ มีรายงานว่าซุนดาร์ พิชัย (Sundar Pichai) ซีอีโอ (CEO) ของกูเกิล (Google) เองก็ไม่ได้ให้ลูกชายของเขาที่อยู่วัยมัธยม (middle-school-aged son) พกสมาร์ตโฟนไปโรงเรียน และตั้งค่าล็อกทีวีที่บ้านให้เข้าใช้ยากเพื่อจำกัดเวลาใช้งานหน้าจอ รวมถึงอีวาน สปีเกล (Evan Spiegel) CEO ของสแนปแชต (Snapchat) แพลตฟอร์มโซเชียลยอดนิยมในต่างประเทศ ก็เคยเปิดเผยว่าตัวเองจำกัดเวลาที่ลูกวัย 8 ปี จะเล่นหน้าจอไว้ที่สัปดาห์ละ 1.5 ชั่วโมง เช่นกัน
ข้อมูลจาก Yahoo! Tech